ทดลองอ่าน ปลายปากกาอินเลิฟ 2 เรื่อง ความทรงจำจากลมหายใจ...ถึง ‘นายหายใจ’ : ตอนที่ 1

 

 

ตอนที่ 1

 

 

คุณเคยอกหักครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่?

สำหรับ ‘คมสัน’ นั้น ตลอดชีวิตยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา เขาเพิ่งเคยอกหักครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนั้น ‘ฟ้าใส’ บอกเลิกเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งๆ ที่วันก่อนยังไปเที่ยวด้วยกันอยู่เลย ถามถึงเหตุผลเธอก็บอกว่า “เราเข้ากันไม่ได้” เป็นเหตุผลโง่ๆ ที่ใช้หลอกคนโง่ๆ อย่างเขาเสียกระมัง อันที่จริงคมสันก็พอจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนไปของหญิงคนรักมาพักใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเห็นเธอแอบคุยโทรศัพท์กับใครบ่อยๆ พอถามว่าคุยกับใครคำตอบที่ได้ก็คือ “คุยกับเพื่อน” ไหนจะทีท่าที่เหมือนรำคาญและหงุดหงิดเวลาอยู่ด้วยกัน ขณะที่เขาได้แต่หลอกตัวเองว่าเธอคงกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ

ไม่คิดว่าเหตุผลจริงๆ คือ...อยากจะเลิกกัน

ถ้าการที่อยากจะเลิกกันเกิดจากเหตุผลที่เธอว่าจริงๆ มันคงไม่น่าเจ็บใจเท่ากับการเห็นว่าหลังเลิกกันได้เพียงแค่วันเดียว หญิงสาวก็ขึ้นสเตตัสในเฟซบุ๊กว่ากำลังคบหากับผู้ชายคนใหม่ และมันยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บใจเป็นเท่าทวีเมื่อผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง! คนที่เขาไว้ใจ ชวนไปไหนมาไหนด้วยกันแม้จะอยู่กับฟ้าใสก็ตาม บางครั้งยังเคยฝากฟ้าใสให้เพื่อนรักดูแล ไม่คิดเลยว่า ‘ความไว้ใจ’ จะกลายเป็นคนที่มา ‘เชือดใจ’ ถึงได้มีคำพูดที่ว่าอย่าเลี้ยงงูเห่าไว้ใกล้ตัว เพราะเราไม่รู้เลยว่ามันจะมาแว้งกัดเมื่อไหร่

แกร็ก...

ปลายเท้าของ ‘ทิน’ เตะเข้ากับกระป๋องเบียร์เปล่าที่กลิ้งอยู่ทั่วพื้นห้องของเพื่อนรัก เมื่อมองไปบนเตียงก็พบคมสันนอนเมาแอ๋อยู่บนเตียง กลิ่นเบียร์เหม็นหึ่งราวกับในห้องเป็นโรงงานผลิตเบียร์ก็ไม่ปาน นอกจากกระป๋องเบียร์เปล่ายังมีลังเบียร์อีกสองลังตั้งสแตนด์บายไว้เพื่อไม่ให้ขาดปาก นี่คือเหตุผลที่ทินต้องมาห้องเพื่อนในวันนี้ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้มีหวังมันได้ตายคาลังเบียร์ ลำบากเขาต้องมาจัดการศพให้อีก เวรกรรมของกู!

“ไอ้คม มึงตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เมาเป็นหมาเลยนะมึง!”

คนเป็นเพื่อนใช้วิชากายกรรมพยายามย่องเดินหลบกระป๋องเบียร์ที่เกลื่อนกลาดบนพื้นไม่ให้ลื่นล้มหัวคะมำไปหยุดที่เตียงของเพื่อน จากนั้นดึงแขนมันขึ้นมาเพื่อปลุกให้ตื่นซึ่งก็ได้ผล คมสันสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาอย่างงงๆ เมื่อเห็นว่าทินยืนอยู่ปลายเตียงก็ยิ้มเผล่ทักทาย

“อ้าว...ไอ้ทิน มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ มาๆ มาแดกเบียร์กับกู กูตุนไว้เพียบเลย” ไม่พูดเปล่า เจ้าของห้องพยายามยันกายลุกขึ้น แต่เหมือนกับว่าในหัวมีก้อนหินหนักๆ ถ่วงอยู่จนลุกขึ้นไม่ไหว ต้องล้มลงนอนบนเตียงอีกรอบ คนที่ยืนอยู่ปลายเตียงเท้าสะเอวแล้วส่ายหน้ามอง

“สภาพแม่งเหมือนหมาฉิบ ไอ้คม กูรู้ว่ามึงเสียใจที่ฟ้าใสทิ้งมึงไป แต่คนมันจะไปน่ะ ต่อให้มึงเอาช้างมาฉุดยังไงเขาก็ไป และการที่มึงเอาแต่เมาแบบนี้นานเป็นอาทิตย์ๆ ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา โอเค มึงอาจจะบอกว่ากูไม่ใช่มึง กูไม่มีทางเข้าใจ ใช่...กูอาจไม่เข้าใจว่ามึงเจ็บแค่ไหน แต่ไอ้อาการอกหักเนี่ย...กูก็เคย ครั้งแรกมันก็จะหนักหน่อย มันต้องใช้เวลา ซึ่งการใช้เวลาไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยเป็นเบียร์นะเว้ย!”

ไม่รู้หรอกว่าคมสันจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า แต่อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นมาได้ในที่สุดแล้วนั่งนิ่ง ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแต่กลับมองไปยังรูปของฟ้าใสที่ยังวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะพูดออกมา

“กูจะเจ็บน้อยกว่านี้ ถ้าคนที่ฟ้าใสรักไม่ใช่ไอ้ไม้ ไอ้ไม้มันเป็นเพื่อนกลุ่มเรานะโว้ย คบกันมาตั้งแต่มัธยม ทำไมมันถึงทำกับกูแบบนี้วะ มันก็รู้ว่ากูรักฟ้าใสมากแค่ไหน กูไว้ใจมันพอๆ กับที่ไว้ใจมึง แล้วดูมันเอาความไว้ใจของกูมาทำแบบนี้ แม่ง! ไอ้เพื่อนเลว!” คมสันทุบเตียงเสียงดังปั้ก ดวงตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ ทินเห็นเช่นนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างเพื่อน ตบบ่าเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ

“เอาจริงๆ นะไอ้คม ถ้าฟ้าใสไม่มีใจเรื่องก็คงไม่จบแบบนี้หรอก ของแบบนี้มันก็ด้วยกันทั้งคู่ เมื่อคนมันมีใจให้กัน มันไม่สนหรอกว่าใครเป็นใคร ทำไมมึงไม่คิดซะว่าฟ้าใสไม่ใช่คู่มึง คู่ของมึงอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง และรอมาเจอมึงในเวลาที่เหมาะสม คนไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่ แต่ที่แน่ๆ ถ้ามึงยังอยู่ในสภาพนี้ต่อไป มึงแย่แน่” ทินพูดแล้วปรายตามองเพื่อน เขานิ่งคิดเพื่อหาวิธีที่จะทำให้เพื่อนรักลืมเรื่องราวที่ทำร้ายใจไปให้หมด ใช่...ต้องหาอะไรให้มันทำ ถ้าปล่อยให้ว่างมันก็จะคิดถึงแต่เรื่องของฟ้าใสกับไอ้ไม้อยู่นั่นเอง ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งเครียด แล้วเดี๋ยวก็ซัดเบียร์อีก ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

พลันสายตาของทินเหลือบไปเห็นผ้ากองเบ้อเร่อที่มุมห้อง ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากทันที...นึกอะไรดีๆ ออกแล้ว!

“ไอ้คม มึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัว กูจะพามึงไปหาอะไรทำจะได้ลืมเรื่องฟ้าใส รับรองว่ามึงจะยุ่งจนไม่มีเวลาคิดถึงใครเลย” ทินพูดเป็นปริศนาแล้วพยายามฉุดเพื่อนให้ลุกขึ้น แต่ทว่าอีกฝ่ายยังอิดออด

“ไปไหน...ไม่ไป...กูจะนอน เออ! กินเบียร์ดีกว่า มึงไปเอาเบียร์ในตู้เย็นให้กูหน่อย เอามาเยอะๆ เลย”

เจ้าของห้องสั่งแล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง คราวนี้ทินไม่พูดอะไร เขาเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบกระป๋องเบียร์เย็นจัดออกมาสองกระป๋อง จัดการเปิดฝาออกแล้วเทราดใส่หน้าเพื่อนที่นอนอยู่บนเตียง คมสันถึงกับสะดุ้งเฮือก ร้องโวยวายทันที

“ไอ้ทิน! เล่นเหี้ยอะไรเนี่ย! ดูสิ กูเปียกหมดแล้ว!”

“ก็มึงไม่ยอมลุก กูก็ต้องใช้วิธีนี้สิ เอาไง จะไปอาบน้ำแต่งตัวได้หรือยัง กูจะพามึงไปที่หนึ่ง อ้อ...มึงจัดกระเป๋าด้วยนะ เอาเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นไปด้วย”

“ตกลงมึงจะพากูไปไหน ถ้าจะพาไปเที่ยว กูไม่มีอารมณ์”

“เออ รู้น่า กูบอกมึงแล้วไงว่าจะพามึงไปหาอะไรทำเพื่อให้ลืมเรื่องฟ้าใส” ทินยิ้มกริ่ม ไม่รู้หรอกว่าจะสำเร็จไหม แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เพื่อนรักเอาแต่เมามายทุกวันแบบนี้แน่

แล้วมึงจะต้องขอบใจกู ไอ้คม!

 

 

** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com