ทดลองอ่าน ความเร็ว ความรัก และมายา : ตอนที่ 32

 

 

ตอนที่ 32

 

 

ทันทีที่ถึงห้องพักที่คอนโดฯ ปณัยจูงมือเธอให้นั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ส่วนตัวเขานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ แล้วถอดสลิงออกอย่างไม่ทะนุถนอม แทบจะดึงๆ ให้หลุดออกไปจนเธอต้องช่วยดึงสายคล้องที่ติดตรงบ่าออกให้

“คุณเอาออกทำไมคะเดี๋ยวเจ็บแขน แล้วเมื่อกี้ยังไปชก...”

เจ้านางพูดยังไม่ทันจบ สายคล้องยังไม่ทันวางลงบนโต๊ะด้วยซ้ำ ปณัยก็ยกมือขึ้นประคองแก้มเธอทั้งสองข้างแนบริมฝีปากลงมาทันที

เขากดริมฝีปากเธอเคล้นคลึงจนเจ้านางปล่อยสลิงหลุดจากมือโดยไม่รู้ตัว เขาบดขยี้เรียวปากสาวจนร้อนรุ่ม ส่งลิ้นสัมผัสลิ้นเธอแล้วตวัดไปมาจนเจ้านางขนลุกซ่านทั้งตัว เขาไม่ปล่อยให้เธอได้หายใจอีกเลย เจ้านางโอบสองมือไปบนลำคอของเขา กอดแน่น เมื่อรู้สึกตัวจะล่องลอย หวิวเบาหรืออ่อนแรงลงก็ไม่รู้ รู้แต่ปากอันทรงเสน่ห์และเย้ายวนของเขาแนบแน่นอยู่กับริมฝีปากเธอ ดั่งจะกลืนกินเธออย่างไรอย่างนั้น

ปณัยค่อยๆ ลุกขึ้นดันตัวเธอให้นอนราบลงบนโซฟาหนานุ่ม ร่างกำยำขึ้นคร่อม เขาถอนจุมพิต แล้วเลื่อนริมฝีปากไปตักตวงความหวานจากลำคอเธอแทน เขาขบเม้มต้นคอเธออย่างแวมไพร์ที่ดูดกลืนเลือดจากสาวบริสุทธิ์ มืออีกข้างหนึ่งอยู่บนทรวงหยุ่น บีบเบาๆ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเปิดสาบเสื้อตัวน้อยไปตั้งแต่เมื่อใด เขายังดันบราลูกไม้เคลื่อนออกจากเต้าอย่างคนคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้

“...” เจ้านางครางอย่างตกใจในเสียงตัวเอง เธอไม่เคยคราง ไม่เคยเป็นแบบนี้ ทว่าเธอครางซ้ำในเสี้ยววินาทีเมื่อลิ้นร้อนของเขาละเล่นกับยอดทรวง ยิ่งเขาทำเหมือนเด็กทารกหิวกระหาย เจ้านางได้แต่ตัวบิดเบี้ยวอยู่ใต้ลำตัวหนาหนั่นนั้น

“ขะ...คุณ...ณัย...”

เธอสัมผัสได้ว่ามือหนึ่งของเขาลูบศีรษะเธออย่างปลอบขวัญ

“ใจเย็นๆ สาวน้อย ผมต้องการคุณเหลือเกิน” การพูดของเขาทำให้อกเธอเป็นอิสระจากการดุนดูด แต่เธอกลับต้องร้องอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมเมื่อเขาเลื่อนมือหนึ่งลงสัมผัสตรงพื้นที่ส่วนตัวของหญิงสาว พื้นที่ที่ยายเคยพร่ำบอกว่าห้ามใครแตะต้อง

เธอคว้าจับข้อมือเขาที่กำลังเคลื่อนขึ้นและลงบนเนินน้อย “อย่า...ค่ะ”

เจ้านางตกใจกับเสียงหอบที่คั่นระหว่างคำพูด เธอกำลังหอบด้วยเหตุใดมิรู้ ปณัยก้มหน้าลงมาจุมพิตเธอเบาๆ ใบหน้าเขาแดงก่ำ เธอไม่ได้กลิ่นเหล้า ก็ช่วงนี้เขาไม่กินเหล้านี่นา แล้วทำไมเขาหน้าแดง แผ่นอกของเขาก็สะท้อนขึ้นลงเร็ว เขาหอบอยู่เหมือนกัน เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู

“เจ้านาง ผมจะทำให้คุณมีความสุข อย่ากลัวนะคนดี”

เธอกำลังจะค้าน ทว่าปณัยสอดมือเข้าไปถึงพื้นที่ลับของเธอแล้ว เธอตามเขาไม่ทันจริงๆ คราวนี้เจ้านางเสียงหลง

นิ้วของเขาสัมผัสลงบนจุดที่เธอไม่เคยรู้ว่ามันจะทำให้เกิดความรู้สึกประหลาด มันทรมาน แต่เป็นทรมานที่มีความสุขล้ำเข้ามาผสมผสานเหมือน กับสีขาวดำที่แย่งชิงกันโดดเด่น มันส่งผลให้ร่างกายบิดเร่า หัวใจเต้นรัวแรง อ้าปากเพื่อกลืนกินลมหายใจแทบไม่ทัน ที่สำคัญมันทำให้เธอต้องปะป่ายมือไปบนตัวเขา อยากจะรัดรึงร่างกำยำให้แนบสนิทกัน

ปณัยทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเธอ แต่ไม่ทั้งหมด แค่ส่วนที่เขาต้องการให้สัมผัสกันลึกซึ้งเท่านั้น เจ้านางกระสับกระส่ายไปหมดแล้ว ทั้งเนื้อตัวที่เกร็งเป็นช่วงๆ การเคลื่อนไหวที่เป็นไปเองอย่างที่เธอนึกอายเขาเหลือเกินแต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ

เขาเร่งความเร็วที่ปลายนิ้วทำเธอกรีดร้อง มือจิกลงบนแขนของเขาอย่างลืมไปแล้วว่าเขามีแผล ปณัยเองก็ไม่แสดงท่าทีเจ็บปวดใด แขนเขายังคงคร่อมตัวเธอถ่ายน้ำหนักไม่ให้โถมทั้งตัวลงมา

“ขะ...คุณ...ณัย” เธอร้องให้เขาช่วย ไม่รู้อะไรในตัวทำให้บอกไปเช่นนั้น

เขาก้มลงจดริมฝีปากกับเธอ “ผมช่วยคุณอยู่เจ้านาง ผ่อนคลายนะครับ ปล่อยตัวไปตามสบาย ผมอยู่กับคุณเจ้านาง”

เขาจูบเธออีกครั้งอย่างตอนแรก แต่ดูดดื่ม ล้ำลึกแค่ไหนเธอไม่รับรู้เท่าไรแล้ว แม้ตัวเธอเองก็เหมือนจะตอบจุมพิตนั้นอย่างโหยหาเช่นกัน อย่างที่มันไม่ใช่ตัวเธอ ภายในกายสาวเวลานี้เหมือนเลือดเดือดพล่าน เธอหายใจเอาลมหายใจของเขา เธอกอดรัดตัวเขาแน่น ปณัยแนบริมฝีปากไม่คลาย จนเธอร้องครางไปในลำคอของเขาแทน เนื้อตัวเกร็งแน่นอยู่อย่างนั้นคล้ายนาฬิกากดหยุดเวลาไว้ชั่วขณะหนึ่ง เขากอดไว้จนเธอผ่อนคลาย ค่อยๆ ละริมฝีปากและมือออกไป เขาจุมพิตขมับของเธอเบาๆ เหมือนปลอบประโลม กดศีรษะทุยของเธอแนบศีรษะของเขา

“คนเก่งของผม”

เจ้านางหอบอยู่พักหนึ่ง เธอรู้สึกโล่งโปร่ง มีความสุขอันอิ่มเอมไปทั่วกาย หากเรี่ยวแรงแทบหายหมดจนยกแขนขาไม่ขึ้น ปณัยเอียงตัวไปด้านหนึ่งของโซฟาใหญ่แล้วเท้าแขนมองเธอ ใบหน้าคมคายยิ้มอย่างเอ็นดูแต่มันทำให้เธออายเหลือเกิน เธอหลบตาเขา

“มองผมหน่อยสิเจ้านาง ผมรู้ว่านี่คือครั้งแรกของคุณ นี่คือความสุขนะเจ้านาง เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องอาย”

เธอมองเขาอย่างหวาดๆ “ตะ...แต่...”

เขายกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมา “ไม่ต้องแต่อะไร คุณมีความสุข ผมทำให้ได้ คุณยังบริสุทธิ์นักเจ้านาง คุณยังไม่รู้อะไรอีกมาก นี่แค่บทเริ่มต้น”

เจ้านางตาโต แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว ถ้าบทต่อไปมันจะเป็นยังไง แล้วปณัยก็นิ่วหน้าจนเธอตกใจ

“คุณเจ็บแผลหรือเปล่า เมื่อกี้นางบีบแขนคุณนางขอโทษ”

เขาพ่นลมหายใจ มองเธออย่างอ่อนใจในความไร้เดียงสา “ผมไม่รู้สึกอะไรเลยแผลน่ะ แต่ตอนนี้ผมกำลังทรมาน” เขาหลิ่วตา

“ทรมาน ทรมานอะไรคะ แผลระบมหรือเปล่า ให้นางดูหน่อย” เธอลุกขึ้นจะดูแขนเขาแต่ปณัยพลิกตัวคร่อมเธออีกครั้ง ใบหน้าปานเทพบุตรก้มมาจนชิด เสียงหายใจแรงจนเธอได้ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาปะทะใบหน้า แววตาของเขาเหมือนคนเมาอีกแล้ว ยิ่งเสียงพูดแหบพร่า

“คราวนี้ ถึงคิวคุณต้องช่วยผมบ้างแล้วเจ้านาง”

เธอเบิกตาโต “คะ ช่วย ช่วยยังไง”

เขาหรี่ตาเอียงหน้านิดๆ “เดี๋ยวผมบอกเอง”

“ตะ...แต่...”

เขาก้มลงจุมพิตเธอเร็วๆ ทำเสียงแปลกๆ ในลำคอเหมือนคนกินเผ็ดมา แล้วเขาก็กระซิบข้างหูเธอ

“ไม่มีแต่ ทำตามผมบอก เร็วด้วย ก่อนที่ผมจะหน้ามืดไร้สติกว่านี้ ผมไม่รับประกันความปลอดภัยนะ”

“คุณณัย!”

เขาไม่พูดเล่นด้วยอีกแล้ว เจ้านางตาโตเมื่อเขาดึงกางเกงลง เธอลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นบางอย่างผงาดโดดเด่น ปณัยยิ้มกับสีหน้าของเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ

“คุณทำน้องผมจากดักแด้เป็นตัวโตเต็มวัยเลย ชอบไหม”

ขณะเธอนิ่งอึ้ง เขาก็ดึงมือเธอให้สัมผัส เจ้านางทั้งเกร็งทั้งสั่นเลยทีเดียว หากเขายิ้มละไมเสียงยั่วยวนยามคุย

“มันเป็นของคุณนะ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ”

เจ้านางหายใจติดขัดด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก กระดาก อาย หากคนตรงหน้ากลับมีสีหน้าชื่นมื่นอย่างที่สุด เขายิ้มพรายสลับกับใบหน้าเหยเก

แล้วต่อจากนั้นสิ่งที่ปณัยบอก สิ่งที่เขาสอน เปิดโลกใหม่ให้เธอกับเรื่องอย่างว่าที่เจ้านางไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย เธอทำให้เขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทั้งเกร็งและเกรง รู้สึกตัวเองไม่ประสา ไม่รู้เรื่อง และกังวลว่าเขาจะมีความสุขหรือเปล่า

เมื่อปณัยเริ่มกระวนกระวายมากขึ้น จนคลับคล้ายจะอดรนทนไม่ไหว เขาก็วางมือทาบทับมาบนมือของเธอ เพื่อสั่งให้เธอทำตามจังหวะที่เขาต้องการ

“เร็วขึ้นเจ้านาง เร็วอีก” เขาร้อง

ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเวลานี้เต็มไปด้วยริ้วรอยจากคิ้วที่ขมวดจนหน้าผากยับย่น ริมฝีปากยู่อย่างคนเจ็บปวด ได้ยินเสียงเขาพ่นลมหายใจแรงซ้ำๆ ดวงตาหลับแน่นจนเส้นขึ้นรอบเบ้าตา

“เรียกผมเจ้านาง พูดชื่อผม” เขาสั่ง

“ขะ...คุณณัย”

“เรียกอีก” เขาปรือตามอง

“คุณณัย” เธอเรียกชื่อเขาอีกครั้ง

ปณัยเอื้อมมือหนึ่งโอบหลังเธอให้ก้มลงใกล้ๆ เขายกศีรษะขึ้นเพื่อประกบปากจูบ เจ้านางยังไม่ทันตั้งตัวจู่ๆ เขาก็ผละออกปล่อยเธอเป็นอิสระพร้อมเสียงคำรามก้องไปทั้งห้องจนเธอตกใจ

แล้วเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาดังเดิม หายใจถี่แรงขณะที่เธอได้แต่นั่งมองอยู่ข้างๆ ท่าทางปณัยอย่างกับคนวิ่งมาราธอนมาสักสี่สิบกิโลฯ เข้าเส้นชัยเสร็จก็นอนแผ่หลาแบบนั้น

เขาหลับตานิ่ง ไม่พูดอะไร ใบหน้าไร้ซึ่งร่องรอยทั้งหลายทั้งปวงกลับมาคมคายมากเสน่ห์อย่างเคย เธอรอจนเขาค่อยๆ หายใจช้าลงๆ เกือบปกติ แล้วเธอก็จิ้มแขนเขาเบาๆ

“คุณณัย คุณ...โอเคหรือเปล่า”

เขาเปิดเปลือกตา ยิ้มขี้เล่น มือหนึ่งแตะหัวเธอโคลงเบาๆ “โอเคสิสาวน้อย โอเคมากๆ ด้วย”

เธอยิ้มแหยๆ “นาง...นางนึกว่าจะทำให้คุณหงุดหงิด”

เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่ง “หงุดหงิด? หงุดหงิดได้ไง ผมมีความสุขมาก ปลดปล่อยเต็มที่จนหมดแรงเลยดูสิ ขอบคุณนะครับเจ้านาง” เขายิ้มกริ่ม

“เหรอคะ” เธอค่อยสบายใจ แล้วเธอก็มองอย่างเหลือบๆ ตาไปตรงนั้นของเขา “เอ่อ...ทำยังไงดี คุณ...เลอะ”

เขาหัวเราะ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดการเอง ส่งทิชชูให้ผมหน่อย คุณไปอาบน้ำนอนเถอะดึกแล้ว”

“ค่ะ” เธอรับคำ หลบตาเขานิดๆ ก่อนจะลุกขึ้น รู้สึกกระดากอายเพราะเสื้อกระโปรงตัวเองดูจะไม่เข้าที่เข้าทาง ตะขอชั้นในก็หลุดออกจากกันแล้ว สภาพของเขาด้วย คนอะไรไม่อายกันเลยสักนิด

“ราตรีสวัสดิ์นะเจ้านาง กู๊ดไนต์สาวน้อยของผม” เขาเอ่ยทำเธอต้องหันไปกู๊ดไนต์ตอบเร็วๆ ได้เห็นเขากำลังทำความสะอาดตัวเองก็ให้รู้สึกหน้าแดงขึ้นอีก รีบหันหลังจ้ำกลับเข้าห้องตัวเอง

เธอคลับคล้ายจะได้ยินเสียงเขาหัวเราะอยู่ในลำคอ

 

 

ติดตามต่อในฉบับเต็มได้แล้ววันนี้ ทั้งแบบ หนังสือเล่ม และ อีบุ๊ก

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com