เช้านี้ เจ้านางตื่นขึ้นแล้วยังคงนอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียงนอนสีขาวอันกว้างใหญ่ กว้างกว่าเตียงที่เธอนอนมาตลอดทุกค่ำคืนตั้งแต่...ชีวิตหักเห ผกผันให้อยู่กับยายเพียงสองคน
ยาย ยายจ๋า...
นึกถึงยายก็น้ำตาไหลอีกแล้ว แม้ตื่นขึ้นมาพบแสงตะวันของวันใหม่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคือความจริง มิใช่ความฝัน ความจริงที่จะฝังอยู่ในความทรงจำไปตลอดชีวิต เจ้านางกดหน้าลงกับหมอนสะอื้นไห้
ทำไม ทำไม พ่อ แม่ ยาย ทำไมทุกคนทิ้งเธอไปหมด ทำไมเบื้องบนไม่เอาเธอไปด้วย เอาไปพร้อมกันสิ ทิ้งเธอไว้ทำไม หรือนี่คือกรรม กรรมที่เธอต้องชดใช้ ให้อยู่คนเดียว ทรมานคนเดียว อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว...ทำไม!
ทว่า...ขณะที่เธอกำลังดำดิ่งไปกับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ซ้ำสองในชีวิต เสียงเพลงแบบกล่องดนตรีก็ดังขึ้นเหมือนถูกตั้งเวลาไว้ เพลงป็อปคลาสสิกยุค ๘๐ ที่เพียงแค่ได้ยินเมโลดี้ก็รู้ว่าเพลงอะไร ความหวานจับใจแม้เพียงท่วงทำนองจากตัวโน้ต ทำให้หญิงสาวเงยหน้าที่ยังเปื้อนน้ำตามองหาที่มา
เจ้านางพบกล่องเพลงเล็กๆ วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เธอปาดน้ำตา วางหมอน แล้วขยับไปหาเจ้าสิ่งที่กำลังส่งเสียงหวานกังวานนั่น ข้างใต้มีกระดาษโน้ตสีขาวแผ่นหนึ่งเสียบอยู่ เธอหยิบมันขึ้นมาอย่างสนใจ เมื่อเห็นว่าบนนั้นมีลายมือของใครบางคนเขียนเป็นภาษาอังกฤษตวัดเส้นงดงาม อย่างคนที่เขียนตัวอักษรวิจิตรเป็น
‘No matter the weight of grief, nothing can compel the eyes to shed tears of blood.
No matter how long a person weeps, only tears continue to fall.
A man may remain in the stage of grief for a long time,
but he will eventually grow out of it.
For no matter how dark the night, it soon passes,
the sun, erects his grandiose emblem the following day.
ท้ายบทกวีอันคมคายนั้น ลงชื่อเจ้าของลายมือไว้ชัดเจน...ปณัย
เจ้านางอ่านทวนอยู่หลายรอบเลยทีเดียว กวีที่ให้ความหมายจับใจ...เธอค่อยๆ ถอดความ ให้ความวิจิตรบรรจงจากตัวอักษรเหล่านั้นซึมซับสู่ในหัวใจ
‘ไม่ว่าทุกข์ระทมสาหัสเพียงใด ดวงเนตรก็หลั่งได้เพียงแค่ อัสสุชล
สะอื้นไห้โหยหวนนั้นไซร้ คือแค่ น้ำตา
แม้นฝังตัวตนและวิญญาณในความโศกโศกา นานเท่านาน
ณ จุดหนึ่งแห่งกาลเวลา ผู้นั้นจะพ้นผ่าน แลว่างเปล่า
เฉกสุริยะ ฉายฉาน ผงาดความเข้มแข็ง แกร่งกล้า ขึ้นอีกครา’
เจ้านางถอนหายใจ เธอเชื่อ... เวลาเท่านั้นจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป ทั้งความรู้สึก ความนึกคิด มันคือการปรับตัว ก็อย่างที่เธอเคยผ่านมันมาแล้วนั่นละ แต่ทว่าเมื่อต้องพบกับความเจ็บปวดซ้ำสอง กว่าจะผ่านได้คงต้องใช้เวลาอีกกว่าเท่าตัว
เป็นความโชคดีหรือโชคชะตา ที่นำพาให้เธอมาพบเขาในเวลาเช่นนี้ มิเช่นนั้น...ป่านนี้เจ้านางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปซุกหัวนอนที่ไหน จะมีใครจับมือก้าวผ่านทัณฑ์ทรมานที่ฟ้าจงใจให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้หรือไม่
เจ้านางพยุงตัวกอบจิตใจอันร้าวรานจัดการตัวเอง เมื่อคืนหลังจากที่เขาขับกล่อมบทเพลงให้เธอ เจ้านางก็แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร น้ำตาเอ่อท้นทั้งภายนอกและภายใน เขาพาเธอดื่มค็อกเทลอีกแก้ว และส่งเข้านอนในห้องนี้
เธอมองสิ่งที่อยู่ในตู้ เสื้อผ้าผู้หญิง กางเกงผ้า ยีนขายาว ขาสั้น เสื้อยืด เดรส ไซซ์เธอทั้งนั้น เจ้านางจับผ่าน ทุกตัวมือหนึ่งของใหม่ ปณัยมีไว้ในห้องของเขาอย่างนั้นหรือ ของใครล่ะ หรือว่าเพิ่งซื้อมาให้เธอภายในค่ำคืนเดียว เขาเนรมิตของพวกนี้ได้รวดเร็วขนาดนั้นเลยเชียว
ช่างเถิด เจ้านางเลือกเสื้อยืดคอกลมพอดีตัว กางเกงยีนสามส่วนใส่ง่ายๆ มองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ เสื้อยืดไซซ์เอสเอสตัวน้อยที่มีอยู่แค่ตัวเดียวในตู้ ขับอกเน้นเอวเธอนัก เอาเถอะ ปกติเธอก็ใส่แบบนี้อยู่บ้างเหมือนกัน
หญิงสาวเดินออกมาจากห้อง โถงกว้างเหมือนเมื่อคืน สะอาด โล่ง ไพศาล ทุกอย่างนิ่งเงียบ เธอมองไปทั่วๆ ความกว้างของสถานที่ทำให้ไม่รู้ห้องเขาอยู่ไหน เห็นแต่ครัว โต๊ะตัวยาวตั้งอยู่ด้านหนึ่ง มีเหยือกกาแฟพร้อมแก้วและจานรอง ขนมปังก้อนกลมในตะกร้าสานเห็นชายกระดาษสีน้ำตาลเลยออกมา ไข่ต้มตั้งในที่วางสีเงิน ทว่าเธอไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด ความหิวมลายหายไปสิ้น
เจ้านางเดินไปยังระเบียง มองออกไปเห็นเก้าอี้หวาย พื้นที่กว้างน่าออกไปรับลม ประตูเปิดง่ายแค่สไลด์ลมก็พรูเข้ามาจนเย็น ผมเผ้าปลิวกระจาย เธอรีบงับบานเลื่อนปิด ไม่สนิทนักแต่ก็ไม่กว้างเท่าตอนเปิดเมื่อครู่ หญิงสาวตื่นตากับวิวของนภากว้าง ความสูงชั้นยี่สิบกว่าทำให้เหมือนอยู่กลางฟ้า ลมเย็นชื่นใจปะทะใบหน้า
ระเบียงออกแบบมากว้างเหลือเกิน มีเก้าอี้โต๊ะเข้าชุด เขาคงจัดปาร์ตี้ด้านนอกนี้หรือไม่ก็ไว้สังสรรค์กับคนรู้ใจ เพื่อนสนิทมิตรสหายแบบเอ็กซ์คลูซีฟไม่กี่คน เธอชอบซุ้มชิงช้าด้านหนึ่งจึงเดินไปนั่ง โล้เล่นนิดๆ ให้ความรู้สึกกลับเป็นเด็กอีกครั้ง ดีที่วันนี้เป็นวันหยุด มีเวลาให้ได้คิดว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไป
ใช่ อย่างแรกที่เธอต้องทำคือเรื่องยาย จัดการส่งท่านสู่สรวงสวรรค์ให้เหมาะสมตามพิธีกรรม เรื่องคดีความต่างๆ ก็ต้องไปหาตำรวจสินะ แล้วบ้านช่องข้าวของ โอ๊ย...เธอต้องดูอะไรอีกบ้างนี่ ที่สำคัญ ถัดจากคืนนี้ไปเธอจะทำยังไง หาที่อยู่ด้วย บ้านเช่า ห้องเช่า ต้องเริ่มแล้ว ไม่นานเดี๋ยวก็หมดวัน ต้องทำอะไรมากมายจะทันไหม
เจ้านางถึงกับถอนหายใจ อะไรๆ มันประดังประเดเข้ามา ความรู้สึกหนักหน่วงกดทับหลังไหล่จนหนักอึ้ง ความสุขลู่หล่นหายไปเหมือนน้ำรั่วออกจากถังจนหมด นับจากเมื่อวานชีวิตเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
หญิงสาวเหลือบไปเห็นซองบุหรี่นอกวางอยู่กับที่เขี่ยบุหรี่สลักลายสวยงาม ความหม่นหมอง ความเครียดทั้งปวงทำให้เธอหยิบซองนั้นขึ้นมา เคาะบุหรี่ใส่มือหนึ่งตัว ไฟแช็กวางคู่กันพอดี เธอจุดไม่นานปลายมวนก็สว่างวาบ เจ้านางสูดลมหายใจเบาๆ ดมกลิ่นควันที่อวลสารความสุขนั้นอย่างให้ร่างกายเคยชิน ก่อนจะจรดริมฝีปากลงตรงปลาย ค่อยๆ ดูดควันเข้าปากกลั้วไว้บางๆ แล้วพ่นออกมาช้าๆ
เพราะชีวิตเธอต้องทำงานหารายได้เสริมมาตั้งแต่เด็ก เจ้านางได้เจอคนมาพอสมควร ร้านอาหารที่เธอเคยไปช่วยงาน เฮียเจ้าของร้านวัยสักสี่สิบ สอนเธอสูบบุหรี่ แต่กำชับว่าไว้เฉพาะบางครั้งบางคราวที่ต้องการสารความสุขคลายกังวล เฮียกำชับ สูบได้แต่อย่าติด หลังจากนั้นเจ้านางก็แตะบุหรี่อีกสองสามครั้ง และครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่สี่ถ้าจำไม่ผิด
เธอพ่นควันยาวๆ อีกครั้ง มองควันเจือจางไปกับลมแรง ควันที่กลั้วในปาก หลอดลม และคงเข้าปอดไปบ้างทำให้ความกังวลลดลง แต่ก็ไม่หมดทีเดียว
เสียงก๊อกแก๊กที่ประตูระเบียงดึงความสนใจจากหญิงสาวหันไปมอง ปณัยนั่นเอง เขาเดินออกมามองเธอพร้อมขมวดคิ้วมุ่น แล้วก้าวปราดมายืนจ้องเขม็ง
“คุณสูบบุหรี่ด้วยเหรอ!” ทำไมน้ำเสียงเขาห้วนนักนะ
เธอพ่นควันพอดี แม้พยายามหันหน้าออกจากเขา แต่เขาก็ได้รับควันไปเต็มๆ แปลก...ปณัยไม่ได้เบือนหน้าหลบ เหมือนเขาอยากสูดควันนั้นเข้าปอดไปด้วย
เจ้านางสังเกตเขา เห็นอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำตัวใหญ่สีเทา มีเชือกสีเดียวกันผูกเอวหลวมๆ หยดน้ำยังเกาะพราวที่ไรผมตรงหน้าผาก ปลายจมูก และกรามอันแข็งแรง สาบเสื้อปิดหลวมๆ อย่างจงใจให้เห็นแผงอกกำยำด้วยลอนกล้ามสวย หยดน้ำเกาะพราวเช่นกัน เขาเซ็กซี่เป็นบ้า
“ผู้หญิงสูบบุหรี่ไม่ได้เหรอ” เธอถามกลับ รู้ว่าทำสีหน้าท้าทาย คงเพราะควัน กับตัวบุหรี่ที่เธอคีบอยู่ละมั้ง ทำให้กล้าขึ้นมาได้เอง
เขาก้าวเข้ามาอีกจนประชิดตัว ริมฝีปากอิ่มเต็มหยักหยัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มจนดุเลยทีเดียว
“ได้! ถ้าเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่คุณ!”
เจ้านางเบ้ปาก “ทำไม อย่าบอกนะว่าเพราะคุณเป็นเจ้านายอีกน่ะ ไม่งั้นป้าซูก็ต้องไม่สูบด้วยสิ”
เธอเอ่ยอย่างเด็กดื้อ ก็คนอื่นทำได้ทำไมเธอจะทำไม่ได้ เจ้านางตั้งท่าจะสูบอีก ทว่าปณัยเอื้อมมือมากระชากตัวบุหรี่ออกจากมือเธออย่างแรง แล้วบดมันทั้งๆ ที่ยังเต็มตัวลงกับที่เขี่ยหรูหราอันนั้น
“คุณ!” เธอส่งสายตาประท้วง
ปณัยมองเธออย่างตำหนิ “ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงของผมสูบบุหรี่!”
เจ้านางอ้าปากค้าง “นางไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ!”
เขาเหยียดริมฝีปากเบียดลำตัวเข้ามา เธอรีบถอยจนหลังชิดติดระเบียง ลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง เจ้านางเหลียวมองด้านล่าง ความสูงทำเธอใจเต้นแรง แต่ยังไม่เท่าตอนที่เขายื่นมือมาโอบตัวเธอไปกอดไว้อย่างรวดเร็ว
“อย่าพิงระเบียงแบบนั้นสิ มันอันตราย” เขาว่าแล้วกระชับวงแขนรัดรึงร่างบอบบางแนบกาย ก้มลงจนริมฝีปากใกล้กัน สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาระใบหน้าเธอ
“ต่อไปนี้คุณคือผู้หญิงของผม เจ้านาง”
“ไม่!” เธอผลักไสเขา แต่เหมือนเด็กตัวเล็กต่อสู้กับยักษ์ปักหลั่น “ปล่อยนะ ถ้าคุณจะมาช่วยนาง แล้วหวังให้นางเป็นนางบำเรอ เป็นเมียน้อย เป็นบ้านเล็กของคุณ ฝันไปเถอะ ปล่อย!”
หญิงสาวดิ้นสุดแรง หากปณัยยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นอีกจนกระดูกแทบร้าว
“หยุดนะเจ้านาง หยุดเป็นม้าพยศ มีเหตุผลหน่อย” เขาดุ
“ไม่หยุด คุณมันมักมาก ทำเป็นช่วยแต่ก็หวังในตัวนาง!” เธอตะคอก
เขากดริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากเธอ เจ้านางกัดฟันแน่นทำให้ปณัยเลื่อนมือหนึ่งมาบีบแก้มเธอจนต้องยอมเปิดปาก เขาดูดกลิ่นบุหรี่จากปากและลำคอเธอไปจนหมดสิ้น กวาดลิ้นดุนดันพร้อมๆ กับขยี้จุมพิตจนเจ้านางตัวอ่อน ร่างสาวมิอาจต้านทาน ยิ่งเขาบดเบียดกายอันเต็มไปด้วยเสน่ห์บุรุษเข้ามามากขึ้น จนสัมผัสความเป็นชายของเขาที่ฉายความแกร่งชัดเพราะคั่นแค่เพียงเสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น เจ้านางก็แทบทรุด
ปณัยรวบตัวเธอขึ้นอย่างง่ายดาย อุ้มพาเข้าไปด้านในแล้ววางเธอบนโซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก ส่วนเขายืนจังก้าเหมือนจะถอยห่างออกไป เธอเห็นอกเขาสะท้อนขึ้นลงอย่างคนหอบ ดวงตาแดงเรื่อวาววับขณะจ้องมองเธอ ลำคอที่เห็นลูกกระเดือกขยับเพราะเขากลืนน้ำลาย สีหน้าข่มอารมณ์อย่างยากลำบาก
เขาชี้นิ้วสั่ง “อยู่ตรงนี้อย่าไปไหนนะ อย่าดื้อกับผม”
เขาเหมือนจะรีบร้อนเดินออกไป แต่ก็หยุดเพียงครึ่งก้าวเหลียวกลับมา ดวงตาและใบหน้ายังคงเข้ม
“อย่าขัดคำสั่งผมนะเจ้านาง ไม่อย่างนั้นผมต้องคุยกับคุณตอนนี้ ตอนที่ผมไม่ปลอดภัยสำหรับคุณที่สุด ผมจะไปจัดการช้างตกมันในตัวผมก่อน เข้าใจนะ!”
** หมายเหตุ: ความเร็ว ความรัก และมายา เปิดจองตั้งแต่วันนี้ - 23 ธ.ค. 65 รายละเอียด (คลิก) **
>> eBook วางจำหน่ายแล้ววันนี้! <<
คลิกอ่านเล่มเต็ม
ดาวน์โหลด eBook ภายใน 7 วันแรก
ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 249฿ (จากปก 350฿)
ราคาโปรโมชั่นสิ้นสุดเที่ยงคืนวันที่ 8 ธ.ค. 65