สองสามวันมานี้ปณัยเคลียร์งานที่บริษัทเพื่อมาทำอีกหน้าที่หนึ่ง หน้าที่ที่เขารักมากกว่าใส่สูทผูกไทนั่งอยู่ในห้องประชุม
สนามแข่งรถที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงนักแข่ง วันนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งนักข่าวสายกีฬาหลายสำนักและผู้ที่รักความเร็ว แฟนคลับของทีมรถยนต์ที่ตนเชียร์ ต่างมารอทำข่าวและดูการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบประจำปี
ทุกทีมตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพื่อเก็บคะแนนในรอบนี้ให้มากที่สุด แม้จะยังมีเก็บคะแนนอีกสองครั้ง ก่อนรวมเพื่อคัดเลือกทีมที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปชิงแชมป์ปลายปี
ตอนนี้รถทุกคันเตรียมความพร้อมอยู่ในสนามแล้ว
ทีมที่ได้รับการพูดถึงและจับตามากที่สุดคือทีมจากค่ายรถของปณัย ด้วยทำคะแนนนำมาโดยตลอด และเป็นที่คาดหมายของใครหลายๆ คนว่าทีมของเขาจะคว้าชัยชนะในฤดูกาลนี้ ซึ่งถ้าทำได้นั่นจะเท่ากับว่า ทีมปณัยได้แชมป์ติดต่อกันสามปีรวด!
เวลานี้เขาสวมบอดี้สูทนักแข่งเต็มตัว หมวกกันน็อก ถุงมือ อุปกรณ์เซฟตี้อีกเพียบ และประจำหลังพวงมาลัยรถที่ปรับแต่งจูนมาอย่างดีที่สุดสำหรับการแข่งขัน
ปณัยทำสมาธินึกถึงตอนซ้อมรอบสุดท้ายเมื่อสักครู่ ไลน์การเลี้ยว ผิวแทร็กของทางวิ่ง จากนั้นก็ทำใจให้สงบนิ่ง เตรียมพร้อมสำหรับการประลองความเร็วในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้
เสียงเครื่องยนต์เสียงเชียร์ดังอื้ออึงทั่วสนามเมื่อรถแข่งทุกคันพร้อมที่จุดออกสตาร์ต
และเมื่อธงหมากรุกโบกสะบัด เขาเหยียบเต็มฝีเท้า การแข่งรถทางเรียบหรือเซอร์กิต ก็คือแข่งในสนาม วิ่งรอบให้เร็วที่สุด หาไลน์แซงขึ้นไปให้ได้และพยายามไม่ให้คนอื่นแซง
ตอนออกตัวใหม่ๆ รถแข่งหลายคันวิ่งกันเบียดเสียด ปณัยพยายามเข้าไลน์ที่ซ้อมมา คงระยะและความเร็วไม่ให้ใครแซง จากนั้นค่อยหาทางแซงขึ้นไป แต่เวลานี้เขานำอยู่ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือรักษาไลน์ตัวเองให้ดีอย่าให้ใครแซงได้แล้วกัน
เสียงเครื่องดังลั่นแม้ใส่หูฟังไว้ติดต่อกับพิทคอนโทรล ปณัยยิ้มเมื่อเข้าโค้งของแลปแรกก็รู้ว่าไลน์ที่กำลังวิ่งอยู่นั้นดีงาม เป็นไปตามที่ซ้อม ถ้าเขาคงระยะอย่างนี้ได้ไม่น่าหนีสามลำดับแรกแน่นอน เมื่อเข้าทางตรงอีกครั้งและผ่านครบรอบ เสียงเชียร์เสียงกรี๊ดดังลั่น เขาหันไปมองผู้คนบนอัฒจันทร์แวบหนึ่ง คนมากมายแต่เห็นสาวๆ ทรงสะท้านที่ยืนกันเป็นแผงด้านล่างชัดเจนที่สุด ทว่า...ปณัยกลับนึกถึงใครบางคน
สมาธิโว้ยสมาธิ! เขาสบถในใจเมื่อมองหลังเห็นรถคันที่ตามอยู่เร่งขึ้นมากระชั้น เขาเหยียบคันเร่งมิด ตัวเลขไมล์ขึ้นสองร้อยปลาย เสียงเตือนจากคอนโทรล
“ระวังยางเบิร์นก่อนเวลาครับนาย”
“รู้แล้ว!”
การเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางก่อนรอบที่ควรคือหายนะ เพราะจะเสีย เวลาชนิดอาจกู่ไม่กลับ ปณัยยอมผ่อนความเร็วแต่เลี้ยงไลน์กันไม่ให้คู่แข่งแซงได้
รถวิ่งวนกันหลายรอบตามแทร็กในสนาม แต่ละครั้งที่ผ่านแฟนคลับทีมเขา เสียงเชียร์สุดใจดังท่วมท้น เขาชอบบรรยากาศแบบนี้จริงๆ นึกอยากให้ใครบางคนได้มาอยู่ตรงนี้ด้วย อีกแล้วไอ้ปณัย
สมาธิโว้ย!
ปณัยกำลังขับเคี่ยวมากับรถอีกคันที่ผลัดกันเป็นที่หนึ่งและสอง รถจากบริษัทคู่แข่งตลอดกาลที่เขารู้จักดี
แลปสุดท้าย มันไล่บี้จี้ตูดมาตลอดทาง ไอ้ธนัส! ปณัยกัดฟันกรอด
วินาทีนี้สายตาของผู้ชมอยู่ที่รถของเขากับธนัส ทั้งสองต่างเร่งเต็มที่ เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นหู และโค้งสุดท้าย ปณัยตบเกียร์ลงเพื่อเข้าโค้ง เพียงรถติดโค้งเขาก็แตะคันเร่งทันทียอมให้ท้ายปัด แล้วปรับพวงมาลัยอย่างที่ฝึก ดริฟต์มา ให้เสียงดัง
เอี๊ยด!
ล้อบดถนนจนควันขาวคลุ้ง เมื่อกลับเข้าไลน์ตรงเขาก็เหยียบมิด เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่ม เขามองกระจกหลังเห็นรถของธนัสตามมาไม่ห่าง แต่ยังไงก็ไม่น่าทันแน่นอน ปณัยสะใจเห็นชัยชนะใสๆ แค่เอื้อม
“ใครว่าเซอร์กิตดริฟต์ไม่ได้ กูทำไปแล้วโว้ย!” เขาเอ่ยอย่างลำพอง
เสียงเชียร์ดังสนั่น ผู้ที่อยู่ติดกับเส้นชัยต่างลุกขึ้นยืน กระโดดโลดเต้นทั้งส่งเสียงและแกว่งผ้าประจำทีม เชียร์ทีมตัวเองกันใจหายใจคว่ำ
แล้วปณัยก็ผ่านเส้นชัยฉลุยเป็นคันแรก กรรมการโบกธงหมากรุกสะบัดเหนือรถ ความรู้สึกที่ดีที่สุดสำหรับนักแข่ง ปณัยยกกำปั้นขึ้นชูให้กับกองเชียร์เมื่อขับผ่านพอดี แล้วประคองให้ความเร็วลดลงวนรถเพื่อเข้าพิทตนเอง ก่อนจะมีเสียงเครื่องยนต์ขับตามมาใกล้จนขึ้นเบียด ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร
มันเปิดกระจกเมื่อขับตีคู่ขึ้นมา แม้สวมหมวกกันน็อกเต็มใบเขาก็รู้ว่าคือนายธนัส นักแข่งรถตัวแทนจากทีมคู่แข่งของเขา นายนั่นชี้นิ้วมา ตามด้วยสองนิ้วปาดคอตัวเองก่อนจะเร่งเครื่องจากไป
“ไอ้เวร! รอบหน้ามึงน่ะตายแน่ เตรียมโลงรอเลยน้อง” เขาตะโกนตามหลังไป ก็ภาษามือของมันที่บอกว่ารอบหน้าปณัยตายแน่ทำเขาเดือดปุดๆ เลยทีเดียว
ดีว่าพอเข้าพิท สาวๆ ทรงงามก็เข้ามารายล้อม
เขาก้าวลงจากรถขณะมีเจ้าหน้าที่ถือเครื่องเป่าลมมาจ่อตัว การขับรถแข่งด้วยความเร็วสูงสร้างความร้อนมหาศาล ทั้งชุดที่ใส่เพื่อความปลอดภัยก็หนาหลายชั้น ถุงมือ หมวกอะไรๆ อีก เหงื่อท่วมจนแทบจะอาบเหงื่อต่างน้ำ เมื่อทันทีที่ลงจากรถจึงต้องมีคนมาช่วยเป่าลมให้
“คุณปณัยสุดยอดเลยค่ะ จีจี้เชียร์เต็มที่ กรี๊ดทุกรอบจนเสียงแหบเลยค่ะเนี่ย”
เขาถอดหมวกให้กับวรัทที่เดินเข้ามารับอย่างเคย อดไม่ได้ที่จะเอามือไปโอบสะโพกผายของน้องจีจี้ พริตตี้ตัวท็อปของทีม ตามองร่องอกขาวอร่ามกับทรวงตูมสะดุดตา น้องให้รางวัลด้วยการหอมแก้มเขาดังจ๊วบ ปณัยยิ้มตอบ
แปลกที่เขารู้สึกดีว่ายังไม่ได้ถอดหมวกโม่งออก น้องเลยจูบผ้าไปเต็มๆ ไม่ใช่เนื้อแก้มเขา เอ...ทำไมเขากลับนึกถึงเธออีกคนที่ไม่อยู่ตรงนี้ อยากให้เธอหอมแก้มเขานัก
“นายครับ ผมขอให้ช่างดูเครื่องทั้งหมดก่อนนะครับคันนี้ แล้วค่อยปล่อยมาซ้อมใหม่”
เขาพยักหน้าพลางหัวเราะน้อยๆ “กลัวเครื่องพังเลยเหรอ มันขับ เคลื่อนสี่ล้อดริฟต์นิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า”
ผู้จัดการทีมค้อมตัว “นายขับสวยมากครับ ยินดีด้วยครับนาย”
“ขอบใจ”
เขามองรถแข่งสีแดงจากบริษัทตนเอง รอบนี้เขาตั้งใจใช้รถขับ เคลื่อนสี่ล้ออยู่แล้ว แต่รอบชิงแชมป์นี่สิต้องใช้คันที่สมรรถนะเยี่ยมที่สุด ขับเคลื่อนล้อหน้า และรถขับเคลื่อนล้อหน้าดริฟต์ไม่ได้
ไม่เป็นไรน่า...เขาปลอบตัวเอง รอบนี้เขาชนะทำคะแนนสะสมมาดี ถ้ารอบหน้าเขารั้งสามตำแหน่งแรก โอกาสลุ้นแชมป์ก็สูงอยู่แล้ว
กรรมการในสนามเข้ามาจับมือกับปณัยแสดงความยินดี เขาจับมือตามมารยาท มือหนึ่งยังโอบเอวพริตตี้ประจำทีมอยู่ก่อนจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระเมื่อสาวๆ แฟนคลับอีกหลายคนเริ่มเดินเข้ามาหา
ปณัยถูกรุมล้อมถ่ายรูป เขายิ้มแย้มไปตามบทบาทหน้าที่ ทักทายพูดคุยกับแฟนคลับ และฉอเลาะกับสาวๆ เหมือนเคย ทว่าวันนี้ทำไมปณัย กลับกระวนกระวายลึกๆ อย่างไรไม่รู้ เขาเรียกวรัทเข้ามาบอกความต้องการ
ไม่นานวรัทก็จัดการ์ดเข้ามากันเขาอย่างเนียนๆ จนปณัยฝ่าวงล้อมสาวๆ ออกมาได้อย่างไม่เป็นที่สังเกตมากนัก เพราะเจ้าหน้าที่อีกหลายคนช่วยพูดคุยกับแฟนๆ ต่อให้ ยังการ์ดเดินตามปิดท้ายไม่ให้ใครเข้าใกล้เขาได้อีก ชายหนุ่มจ้ำเดินเร็วๆ กลับเข้ามายังจุดพักด้านในสนามแข่ง ที่เฉพาะสำหรับนักแข่งและทีมงานเท่านั้น
เขาเดินขอบคุณทีมงานทุกคนทั้งช่างเทคนิค ผู้จัดการทีม เจ้าหน้าที่ประสานงานและใครอีกหลายคนที่เกี่ยวข้อง แม้ปณัยจะเป็นเจ้านายที่ดุและเย็นชาในบริษัท แต่ในสนามแข่งเขาคือนักแข่งที่มีน้ำใจนักกีฬาเต็มร้อย อาจจะเป็นเพราะสิ่งนี้คือตัวตนของเขามากกว่าการเป็นซีอีโอ
ปณัยถอดหมวกโม่ง ถุงมือ แล้วเรียกคนสนิทมาอย่างใจร้อน
“ฉันจะไปผับเลยนะ ไม่แวะที่ไหน”
“ขะ...ครับ แล้วนายไม่เปลี่ยนชุดก่อน” วรัทถามตะกุกตะกัก
“ไม่ ฉันรีบ”
คนสนิททำหน้าแปลกๆ แต่แล้วก็ถามอย่างอื่น
“นายไม่อยู่ฉลองกับพวกเราเหรอครับ ปกติ...”
“ฉันอยากไปผับว่ะวันนี้ เอาน่า ถ้ารอบหน้าคะแนนนำอีกเดี๋ยวฉันปิดผับฉลองเลย” เขาหลิ่วตาไม่สนใจกับแววตาสงสัยของวรัท
ปณัยก็แปลกใจตัวเอง เพราะทุกครั้งที่ชนะ คืนนั้นเขาจะพาทีมงานไปฉลองต่อ แต่วันนี้เขาให้งบผู้จัดการทีมไปฉลองกันเอง
ไม่รู้ว่ะ ทำอะไรไม่มีเหตุผลบ้างก็ได้มั้งนายปณัย เขารำพึงในใจ
นอกจากไม่มีเหตุผลแล้ว เขายังทำอะไรแปลกๆ อีก ด้วยการขับรถสปอร์ตส่วนตัวไปที่ผับอย่างไม่รอใคร ทั้งที่ปกติเขามีคนขับรถให้ ไม่รู้ทำไมใจมันร้อนรุ่ม ไม่รู้หัวใจหนุ่มมันเป็นอะไร อยากแต่จะแล่นมาที่นี่เพื่อพบหน้าใครบางคน
ทว่าเมื่อบึ่งรถมาด้วยความเร็วน้องๆ ในสนามแข่ง มาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่ามันเป็นเวลาที่เธอต้องขึ้นร้องเพลงแล้ว แต่การณ์กลับไม่เป็นดั่งใจหวัง เมื่อไม่พบเธอที่ผับ! ทำเอาอารมณ์คุกรุ่นภายในอกประหนึ่งฟ้าตั้งเค้าก่อนพายุใหญ่จะมาเลยทีเดียว
“หยุด!? แล้วได้บอกล่วงหน้าไหม!”
เขาถามซูซานเสียงเข้ม รายนั้นยืนหน้าซีดเสียงสั่น
“อะ...เอ่อ บอกค่ะ แจ้งล่วงหน้าไว้แล้วว่าวันนี้ขอลา”
“แล้วทำไมไม่บอกผม!”
ซูซานอ้าปากค้าง พูดตะกุกตะกักอีกอย่างน่ารำคาญ
“ซูซาน ผมชักจะหงุดหงิดกับคุณหลายเรื่องแล้วนะ นักร้องใหม่มาไม่รู้ ลากะทันหันไม่บอก ผมถามอีกคำถามเดียวถ้าคุณไม่รู้อีกเตรียมตัวตกงานได้เลย!”
“ว้าย! อย่านะคะบอส ซูขอโทษค่ะ คิดว่าเรื่องเล็กน้อย บางทีมีนักดนตรีวงโน้นวงนี้ลาบ้างฝากกันบ้าง บอกคุณปณัยก็ปวดหัวเปล่าๆ ค่ะ”
“คนอื่นผมไม่สน แต่เรื่องของเจ้านางผมต้องรู้ทุกเรื่องจำไว้ ถ้าเธอมีอะไรต้องรายงานผมโดยตรงทันทีต่อไปนี้ เข้าใจไหม”
ทั้งหน้าตาถมึงทึงกับเสียงเข้มระดับสิบทำซูซานยกมือไหว้ปลกๆ พร่ำรับคำค่ะๆ ไม่หยุด
“พอแล้ว! ตอบผมได้ไหมว่าเธอไปไหน!” เขากระแทกเสียง
“น้องบอกว่าคืนนี้มีงานแสดงคอนเสิร์ตเก็บคะแนนสอบที่คณะค่ะ”
ปณัยนิ่งไปเลยทีเดียว ก่อนจะหันหาคนสนิทที่เพิ่งตามมาทันเพราะ ปณัยเล่นผลุนผลันออกมาจากสนามแข่งก่อน เขาเรียกคนสนิทเสียงดัง “วิน!”
“ครับนาย” วรัทรีบสาวเท้ามาหยุดยืนใกล้ๆ
“ถามสายสืบเราซิว่าเจ้านางเรียนอยู่ที่ไหน ผมให้เวลาสิบนาที!”
** หมายเหตุ: ความเร็ว ความรัก และมายา เปิดจองตั้งแต่วันนี้ - 23 ธ.ค. 65 รายละเอียด (คลิก) **
>> eBook วางจำหน่ายแล้ววันนี้! <<
คลิกอ่านเล่มเต็ม
ดาวน์โหลด eBook ภายใน 7 วันแรก
ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 249฿ (จากปก 350฿)
ราคาโปรโมชั่นสิ้นสุดเที่ยงคืนวันที่ 8 ธ.ค. 65