ทดลองอ่าน โคเฒ่าสายเปย์ : ตอนที่ 6

 

 

ตอนที่ 6

 

 

ไม่ได้เห็นหน้า ได้เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี...

อาชวินทร์ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างออกจากบ้านของไพโรจน์มาเรื่อยๆ ไม่ได้ตรงกลับไปยังบ้านตัวเองเช่นทุกครั้ง ตั้งใจจะขับรถกินลมชมวิวปล่อยให้สมองได้ผ่อนคลาย ทว่า...

“คุณลุงขา คุณลุง ทางนี้ค่ะ หนูอยู่ทางนี้!”

ผู้หญิงที่ทำให้หนุ่มใหญ่อย่างอาชวินทร์ไม่เป็นอันกินอันนอนกำลังปั่นจักรยานคู่ใจสวนมา เธอยกสองมือขึ้นโบกทักทายพลางส่งยิ้มกว้างจนตาหยี ส่งผลให้คนตัวโตถึงกับเผลอกระตุกยิ้มที่มุมปากในความสดใสก๋ากั่นของเด็กสาว ทว่าบนถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยหลุมเล็กหลุมน้อยยังกับพื้นผิวของดวงจันทร์ ทำให้จักรยานที่ไร้การบังคับเพราะมัวแต่ยกมือขึ้นโบกไปมา หักหัวลงข้างทางซึ่งเป็นคูน้ำอย่างรวดเร็ว

ว้าย!

รตาหวีดร้องหน้าเหวอด้วยความตกใจ รีบใช้สองมือบังคับจักรยานแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เพราะเวลานี้จักรยานและตัวเธอได้เหินลงสู่ความเย็นชุ่มฉ่ำของสายน้ำที่เต็มไปด้วยผักบุ้งและผักกระเฉดออกดอกสีเหลืองอร่ามเต็มคูน้ำ

ตูม!

“รตา!”

อาชวินทร์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาเองก็ไม่อาจตั้งตัว ชายหนุ่มรีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้วกระโดดลงไปยังคันดินข้างคูน้ำอย่างรวดเร็ว จังหวะที่ตั้งใจว่าจะยื่นมือให้หญิงสาวจับเพื่อดึงเธอขึ้นมาจากคูน้ำนั้น รองเท้าของเขากลับลื่นโคลนจนเสียหลักตกลงไปในคูน้ำอีกคน

ตูม!

อาชวินทร์และรตาต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างทำอะไรไม่ถูก สภาพของทั้งคู่เปียกโชก ใบหน้าและลำตัวเปื้อนโคลนตมไม่น่าดู ชุดเอี๊ยมกางเกงขายาวสีฟ้าครามของรตาแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไปเสียแล้ว ผมที่มวยเป็นรูปโดนัทกลางศีรษะยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง ส่วนคนตัวโตนั้นก็มีสภาพไม่ต่างกัน ผิดกันแค่ว่าเสื้อผ้าของเขาเป็นโทนสีเข้มจึงไม่ขะมุกขะมอมน่าขบขันเท่ารตา

ทั้งสองต่างสบตากันเนิ่นนาน แล้วท้ายที่สุดก็พากันหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างขบขัน รตาถึงกับหัวเราะจนทิ้งตัวลงนั่งเพราะน้ำในคูสูงเพียงแค่เข่า ในขณะที่คนตัวโตก็หัวเราะจนตาคมเล็กหยี และนั่นทำให้รตาค่อยๆ หยุดหัวเราะแล้วเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มกว้างแทน

“เวลาคุณลุงหัวเราะนี่น่ารักดีนะคะ ดูดุน้อยลง”

อาชวินทร์ได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ก่อนจะย้อนถามกลับไป “ปกติฉันดูดุหรือ”

“ใช่ค่ะคุณลุงดูดุมาก ไม่เชื่อก็ไปถามคนงานในไร่ของคุณลุงสิคะ พวกเขากลัวคุณลุงจะตายไป หนูเคยถามนะคะว่าพวกเขาเคยโดนคุณลุงดุด่าเหรอถึงได้กลัวนัก พวกเขาบอกว่าไม่เคย แต่เพราะคุณลุงพูดน้อยยิ้มยากทำให้พวกเขาแอบกลัวกันไปเอง ทั้งที่ลึกๆ แล้วพวกเขาก็พูดเป็นเสียงเดียว กันนะคะว่าคุณลุงเป็นคนใจดีมาก ซึ่งหนูช่วยยืนยันอีกเสียงว่าคุณลุงใจดีที่สุดเลย ดูสิคะ พยายามช่วยหนูจนตัวเองต้องมาพลอยซวยตกคูไปด้วย”

“เธอนี่ช่างพูดเหมือนนกแก้วนกขุนทอง”

เมื่อถูกชมซึ่งๆ หน้าอาชวินทร์ก็ออกอาการเขินจนต้องแสร้งเปรียบเปรยว่าเด็กสาวพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อยหาได้มีแก่นสาร ก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วพยายามปีนขึ้นจากคูน้ำ ซึ่งรตาสังเกตเห็นว่าที่ใบหูของอาชวินทร์นั้นแดงระเรื่อเผยชัดว่าเขาเขินอายที่ถูกเธอชม

“หนูพูดจริงๆ นะคะ คุณลุงใจดีที่สุดเลย”

หัวใจของหนุ่มใหญ่ถึงกับเต้นโครมครามจนเผลอยกมือขึ้นกุมที่หน้าอกข้างซ้าย ใจเย็นสิวะไอ้วินทร์ เด็กมันไม่ได้บอกรักเสียหน่อย ทำไมต้องใจเต้นแรงแถมรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าแบบนี้ด้วย เขาสะบัดหน้าแรงๆ แล้วรีบปีนป่ายขึ้นไปบนถนน จากนั้นจึงใช้มือหนึ่งคว้ากิ่งต้นกระถินข้างทางเอาไว้มั่น แล้วโน้มตัวยื่นมือส่งให้รตา

“จับมือแล้วปีนขึ้นมาสิ”

“ค่ะ”

รตาพยักหน้าแล้วยื่นมือให้เขาจับ ก่อนจะค่อยๆ ปีนขึ้นมาอย่างทุลักทุเลด้วยเติบโตมาในเมืองหลวง อีกทั้งมารดาและบิดาเลี้ยงยังฟูมฟักทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหิน เรียกได้ว่าริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม จนเธอโหยหาการใช้ชีวิตที่ไร้กรอบ ไร้การปรุงแต่ง อยากอยู่กับธรรมชาติ อยากใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเร่งรีบ และดูเหมือนว่าที่นี่จะตอบโจทย์สิ่งที่เธอต้องการได้เป็นอย่างดี

อาชวินทร์กลับลงไปในคูอีกรอบเพื่อแบกจักรยานคู่ใจของรตาขึ้นมา และเอาไปวางไว้ที่รถพ่วงข้างมอเตอร์ไซค์ จากนั้นจึงชี้มือไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ทั้งคู่ยืนอยู่เท่าใดนัก

“ตรงโน้นมีบ้านคนรู้จัก เดี๋ยวไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วค่อยกลับบ้าน”

“ค่ะคุณลุง”

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com