ทดลองอ่าน โคเฒ่าสายเปย์ : ตอนที่ 3

 

 

ตอนที่ 3

 

 

อาชวินทร์ปั่นจักรยานสีขาวคันค่อนข้างเล็กผ่านเข้ามายังเขตรั้วบ้านของเพื่อนรักวัยเด็กด้วยหัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ดวงตาคมเหลือบมองหาเจ้าของร่างเล็กบอบบางผู้ที่ทำให้หนุ่มใหญ่เช่นเขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

“อ้าว คุณลุง!”

เขาจำเสียงนี้ได้...อาชวินทร์หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาเต้นเร่าอยู่นอกอกเสียอย่างนั้น เขากำเบรกจอดรถจักรยาน แล้วเหลียวมองไปตามทิศทางของเสียงหวาน

ภาพที่เห็นทำให้ผู้ชายตัวโตที่ออกจะหน้าดุและค่อนไปทางยิ้มยาก ถึงกับเผลอกระตุกยิ้มที่มุมปาก เมื่อแม่สาวน้อยกำลังวิ่งตรงมาหาเขาด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวยเป็นระเบียบ ดวงตาของเธอเล็กหยีจากการฉีกยิ้ม ผมสวยถูกถักเปียเอาไว้สองข้างแกว่งสะบัดไปมา

วันนี้รตาแต่งกายด้วยกางเกงขาสามส่วน เสื้อยืดสีขาวแขนสั้น และรองเท้าแตะแบบคีบธรรมดาๆ ทว่าเขากลับรู้สึกว่าเธอทั้งสวยและน่ารักจนแทบจะหยุดหายใจ

“สวัสดีค่ะคุณลุง มาหาคุณพ่อเหรอคะ เดี๋ยวหนูไปตามคุณพ่อให้ค่ะ แกอาบน้ำให้ไก่ชนลูกรักอยู่หลังบ้านโน่นค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้แถมย่อถอนสายบัวอย่างเด็กมีสัมมาคารวะ ส่งผลให้คนตัวโตหุบยิ้มทันควันก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ

“เปล่า ฉันไม่ได้มาหาไอ้โรจน์”

“ถ้าอย่างนั้นมาหาคุณย่าใช่ไหมคะ”

“เปล่า”

“อ้าว” เด็กสาวร้องอ้าวเมื่อเขาไม่ได้มาหาคนที่เธอเอ่ยชื่อสักคน ทว่าจังหวะนั้นเธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าจักรยานที่เขาใช้ขี่มานั้นเป็นจักรยานของเธอที่ได้รับการซ่อมเรียบร้อยแล้ว จึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงดีใจ “หรือว่าคุณลุงมาหาหนูคะ”

“อื้อ” อาชวินทร์ส่งเสียงตอบรับแค่ในลำคอ ก่อนจะลงจากจักรยานแล้วปัดขาตั้งให้ค้ำกับพื้นหญ้า มองคนตัวเล็กเดินสำรวจรอบจักรยานด้วยท่าทางดีใจแล้วก็ถึงกับแอบกระตุกยิ้มที่มุมปากอีกรอบ

“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณลุงที่ช่วยซ่อมจักรยานให้หนูจนกลับมาเป็นเหมือนเดิม หนูคิดว่ามันจะพังจนเอากลับมาขี่ไม่ได้แล้วเสียอีก” รตาพูดพลางทำจมูกย่นน้อยๆ มือข้างหนึ่งจับผมเปียของตนเองแกว่งไปมา

ชายหนุ่มมองตามมือเล็กเรียวที่กำลังจับผมเปีย แล้วรู้สึกอยากจับผมเปียสวยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าบ้าง อีกทั้งยังอยากยื่นมือไปบีบจมูกเชิดรั้นด้วยความมันเขี้ยวเหลือกำลัง แต่สิ่งที่ทำได้คือการยืนเฉย ทำหน้านิ่งๆ และพูดให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจ

“วันนี้หนูช่วยคุณย่าทำขนมด้วยนะคะ”

“งั้นหรือ” เขาตอบกลับไปอย่างงุนงง ที่จู่ๆ เด็กสาวก็เปลี่ยนเรื่องด้วยท่าทางกระตือรือร้น

“คุณลุงลองชิมขนมตาลฝีมือหนูนะคะ” ไม่พูดเปล่าเด็กสาวคว้าหมับที่ข้อมือหนาแล้วลากกึ่งจูงให้เขาเดินตามเข้าไปในบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ส่วนครัวอยู่ชั้นล่างและมีแคร่ไม้ไผ่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง บนแคร่มีใบตองกลัดด้วยก้านมะพร้าววางเรียงซ้อนเป็นแถว ข้างแคร่นั้นมีทะลายตาลวางอยู่เต็มไปหมด

รตาเดินกึ่งวิ่งไปยังหม้อนึ่งขนาดใหญ่ ทันทีที่เธอเปิดฝาหม้อออกไอน้ำสีขาวก็พวยพุ่งจนเธอต้องถอยหลังรอจนควันจางหายไปจึงยื่นมือเข้าไปหยิบขนมตาลออกมาเป่าไล่ความร้อน

“มันยังร้อนอยู่เลยค่ะคุณลุง เดี๋ยวหนูขอเป่าก่อนนะคะ”

หญิงสาวยิ้มกว้างในขณะที่ขยับขนมตาลสลับสองมือไปมาเพราะร้อน ปากเล็กสีระเรื่อห่อเข้าหากันทำให้คนตัวโตถึงกับมองเพลินไม่ยอมละสายตาเลยทีเดียว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนตัวเล็กยื่นขนมตาลมาตรงหน้า

“คุณลุงลองชิมดูสิคะว่าอร่อยไหม”

ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังพร้อมกับตาเป็นประกายที่จ้องมองมาแทบไม่กะพริบ ทำให้อาชวินทร์จำต้องรับขนมตาลมาจากเด็กสาวอย่างเสียมิได้ ทั้งที่เขาไม่ชอบกินขนมหวานทุกชนิด แต่ด้วยความกลัวว่าเด็กสาวจะเสียความตั้งใจเขาจึงไม่กล้าปฏิเสธ

“อร่อยไหมคะ”

“อืม อร่อยมาก”

เขาพยักหน้าน้อยๆ แล้วกลืนขนมตาลลงคอ โชคดีที่ขนมตาลที่รตาทำไม่ค่อยหวานมาก เขาจึงไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนกินจนเกินไปนัก

“ดีใจจังเลยค่ะ เดี๋ยวหนูจะแบ่งขนมตาลให้คุณลุงเอากลับไปทานที่บ้านด้วยนะคะ ขนมตาลทำเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ ถ้าทานไม่หมดก็สามารถใส่ตู้เย็นไว้ได้หลายวันค่ะ จะกินก็ค่อยเอาออกมาเข้าไมโครเวฟ รสชาติยังคงอร่อยไม่เปลี่ยนแน่นอน” รตาพูดเจื้อยแจ้ว ขณะที่สองมือหยิบจับขนมตาลใส่กล่องอย่างคล่องแคล่ว ไม่ทันที่อาชวินทร์จะได้ปฏิเสธกล่องขนมตาลก็อยู่ในมือของเขาเป็นที่เรียบร้อย

“ขอบใจ” เขาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกมาโดยไม่ร่ำลา

ยอมรับ...ว่าทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะวางตัวอย่างไรให้สมกับตำแหน่งลุง ด้วยรู้ดีแก่ใจว่าตนนั้นคิดไม่ซื่อ ไม่ได้มองรตาเป็นลูกหลานอย่างที่ปากพูดเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเธอมาทำดีด้วย มายืนยิ้มหวานสดใสราวกับดอกไม้แรกแย้ม หัวใจที่ด้านชามาหลายสิบปีก็ถึงกับถลำลึกจนกู่ไม่กลับ

นานแล้วที่เขาไม่ได้มีความรักอย่างหนุ่มสาว ไม่แม้แต่จะแอบชอบใครสักคน ครั้งสุดท้ายคงตอนที่เขาเรียนปริญญาโท ความรักครั้งนั้นแม้จะไม่ได้ลึกซึ้งตรึงใจแต่เขาก็จริงจังคบหากับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเปิดเผย และวางแผนจะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน แต่สุดท้ายเธอก็ทิ้งเขาไปกับชายคนใหม่อย่างไร้เยื่อใย นับแต่นั้นอาชวินทร์ก็ไม่เคยเปิดหัวใจให้กับผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่ใช่เพราะยังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ แต่เพราะเบื่อหน่ายที่จะสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มากกว่า ดังนั้นเขาจึงหันไปทุ่มเทเวลาทั้งหมดกับการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เขามีความสุขตามอัตภาพ ใช้ชีวิตอย่างราบเรียบและสงบสุข แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงสาวรุ่นลูกมาเรียกเขาว่า ‘คุณลุง’ ด้วยน้ำเสียงสดใสราวกับระฆังแก้ว อีกทั้งยังกระชากหัวใจที่ตายด้านของเขาให้กลับมาเต้นแรงราวกับจังหวะร็อกอีกด้วย

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com