ทดลองอ่าน Sicily...ที่นี้มีรัก : ตอนที่ 25

 

 

ตอนที่ 25

 

 

ที่ลานประหารท้ายค่าย พลทหารทั้งสี่นายถูกจับมัดแขนไพล่หลังติดอยู่กับหลัก ท่านแม่ทัพคลอดิอุสนั่งบนเก้าอี้ภายในปะรำหน้าลาน เอ่ยคำเมื่อเห็นเชลาลุสเดินเข้ามา

“ข้าคุยกับทหารรัฐธรรมนูญแล้ว การกระทำของไอ้พวกนี้ ผิดด้านวินัยอย่างร้ายแรง ต้องโทษประหารหรือมิเช่นนั้นก็ติดคุกไปตลอดชีวิตของมัน ขึ้นกับความต้องการของแม่นางผู้เสียหายด้วย ข้าเห็นว่าแม่นางก็เจ็บหนักอยู่ จึงอยากให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินใจว่าต้องการให้พวกนี้มันต้องโทษใด”

เชลาลุสมองพลทหารเหล่านั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ท่านขอรับ ข้าจักขอให้แม่นางระรันตาเป็นผู้ตัดสินได้หรือไม่ ในเพลานี้ขอให้ขังพวกมันไว้คุกหลังค่ายก่อน เมื่อนางหายดี ข้าอยากจะขอให้ทำการตัดสินโทษในเพลานั้นอีกครา”

ท่านแม่ทัพพยักหน้ารับ “ได้สิเชลาลุส ข้าว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน”

เขากวาดตามองเมื่อไม่เห็นใครอีกคนจึงถาม “ข้าได้ให้ทหารไปนำตัวนางชาบีมาด้วยขอรับ”

ประจวบกับทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาข้างปะรำพอดีเพื่อแจ้งข่าว

“นางชาบีหายตัวไปขอรับ ที่เรือนโภชนาไม่มีใครทราบสักคนขอรับว่านางหายไปที่ใด”

“เจ้าหาทั่วค่ายหรือยัง!” เชลาลุสเอ่ยเสียงกระด้าง อย่างลืมตัวว่าอยู่กับท่านแม่ทัพ

“ขอรับ ข้าให้ทหารเวรยามตามจุดต่างๆ กระจายกันหาทั่วแล้วขอรับ” 

เขากำหมัดแน่น ความแค้นคับอก

“ขอบใจ เจ้าไปได้แล้ว” แม่ทัพเอ่ยแทนแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาหาเขา

“เชลาลุส ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนใจนัก แต่ข้าคิดว่าเจ้าชาบีมันคงไหวตัวก่อนและออกนอกค่ายไปแล้ว”

เชลาลุสก้มศีรษะ “ข้าเพียงกังวล ว่านางอาจจะย้อนกลับมาเป็นอันตรายได้อีกขอรับ”

“ก็จริง แต่นางคงไม่กล้าย้อนมาในเพลาอันใกล้นี้ดอก” ท่านแม่ทัพเดินมายืนตรงหน้าเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เชลาลุส หากเจ้ามีใจกับนางก็จงรับเป็นภรรยาให้เรียบร้อยเถิด จะได้ดูแลปกป้องได้อย่างเต็มที่”

“ท่าน...” เชลาลุสอ้ำอึ้ง ไม่คาดคิดว่าจะเป็นท่านแม่ทัพที่แนะนำเขาตรงๆ เช่นนี้ ที่สำคัญเขาเองยังคลางแคลงใจท่านด้วยซ้ำ

แม่ทัพคลอดิอุสวางมือบนบ่าของเขาอย่างไม่ถือตน “เชลาลุส วันก่อนข้าได้เรียกแม่นางมาถามไถ่ความรู้สึกที่นางมีต่อเจ้า”

เชลาลุสใจเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะเมื่อรู้ความจริงว่าคืนนั้นท่านเรียกหานางด้วยเหตุใด

“จงรู้ไว้เถิดว่า เจ้ารู้สึกกับนางเช่นไร นางก็คิดกับเจ้าเช่นนั้นเสมอกัน และสำหรับข้า” ท่านแม่ทัพกระซิบใกล้ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอย่างไรกับนางตั้งแต่วันแรกที่ข้าเอ่ยชื่อนางแล้ว สายตาของเจ้ามันฟ้องชัดเจนนัก”

----------

กระโจมพยาบาล


นานันกำลังเช็ดหน้าให้กับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ขณะที่หมอดาปิโอรุสตำสมุนไพรในครกยาเล็กๆ นานันมองนางที่ยังคงหลับใหล ใบหน้าที่ถูกเช็ดแล้วดูผ่องใสขึ้นจนอดเปรยไม่ได้

“นางงามจริงๆ ความงามของนางคงต้องใจท่านเชลาลุส ถึงได้มีใจให้นางเยี่ยงนี้”

หมอดาปิโอรุสบรรจงพอกยาสมุนไพรตามรอยแผลและรอยฟกช้ำบนแขนหญิงสาว เงยหน้าขึ้นมองนานัน “ท่านเชลาลุสมิได้เพียงมีใจแก่นางดอก ท่านรักแม่นางผู้นี้สุดหัวใจเลยทีเดียว”

แล้วทั้งสองก็ต้องสะดุ้งเมื่อคนที่ถูกเอ่ยถึงปรากฏกายข้างเตียง “เป็นอย่างไรบ้าง นางรู้สติหรือยัง”

ท่านหมอพยักหน้า “นางเหมือนจะพึมพำเป็นช่วงๆ แต่ยังไม่ตื่นดีซะทีเดียวขอรับ”

หากเพียงครู่ ระรันตาก็เริ่มขยับไปมา “ไม่ ไม่ อย่าทำข้า อย่าทำ”

เชลาลุสรีบโน้มตัวไปหากระซิบข้างหูนาง “ข้าอยู่ตรงนี้แล้ว เจ้าอย่าได้กลัว”

เขารวบมือระรันตาที่ยกปะป่ายมากุมไว้ “แม่นาง ข้าอยู่ตรงนี้ ข้าไม่ทิ้งเจ้าไปไหนอีกแล้ว”

หญิงสาวยังคงกระสับกระส่าย “ไม่ อย่าทำ ข้ากลัวแล้ว” นางยังคงดิ้นรนไปมา “ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย ท่านเชลาลุส”

เมื่อได้ยินชื่อตนหลุดจากปากนาง เขาก็ช้อนลำตัวแบบบางขึ้นกอดเอียงหน้าซบไปกับเรือนผมสวย

“โธ่! ระรันตา ข้าอยู่ข้างเจ้า มิได้ห่างหายไปไหนเลย” 

เชลาลุสพรมจุมพิตลงบนหน้าผากนาง เอียงใบหน้าแนบแก้มนวลอยู่อย่างนั้นจนระรันตาเริ่มสงบและหลับลงได้อีกครา

เขาอยู่เฝ้าข้างเตียงไม่ยอมไปไหน แม้ระรันตาจะนิ่งแล้วและนานันอาสาคอยดูแล

หมอดาปิโอรุสยังคงนั่งผสมยาเพิ่มเติม ลอบมองใบหน้าของเขาแล้วเปรย “ท่านควรพักผ่อนบ้างท่านเชลาลุส ท่านเองก็เพิ่งกลับจากทำศึก สีหน้าอิดโรยนัก”

ทหารหนุ่มยังมิทันตอบ ระรันตาก็ขยับตัวอีกครั้ง สุ้มเสียงแผ่วเบาลอดริมฝีปาก

“ท่าน...เช...ลา...ลุส”

เขาถลันไปอยู่ข้างๆ ถามอย่างปรีดาเมื่อเห็นนางลืมตา

“ระรันตา เจ้าฟื้นแล้วหรือ เป็นอย่างไรบ้าง” 

หมอดาปิโอรุสตรวจดูอาการ เมื่อเห็นว่านางคืนสติขึ้นมากแล้วก็ขอตัวออกไปพร้อมกับนานัน อย่างต้องการให้ความเป็นส่วนตัวแก่เขา

“เจ้าเจ็บตรงไหนอยู่อีกบ้างไหมระรันตา” เชลาลุสถามเมื่อขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงชิดใกล้คนเจ็บ

หญิงสาวส่ายหน้าเอ่ยเสียงเครือ “ข้า...กลัว กลัว...เหลือเกิน” 

เชลาลุสโอบนางไว้ “ไม่มีใครล่วงเกินเจ้า ระรันตา ไม่มีใครหน้าไหนที่จะมาทำแบบนี้กับเจ้าได้อีก ข้าให้สัญญา”

หญิงสาวยอมซบศีรษะทุยสวยลงบนแผ่นอกของเขา เชลาลุสดึงมือนางขึ้นกุมแล้วจุมพิตเบาๆ ยกหลังมืออันแบบบางแนบแก้มหนุ่ม

“ข้าอยากให้เจ้าลืมทุกสิ่งที่เลวร้ายไป และข้าอยากให้เจ้าระลึกไว้เสมอว่า เจ้ามีข้าอยู่ข้างกายเจ้า”

เสียงนางตอบยังแผ่วเบา แต่ชัดเจนเหลือเกินในหัวใจของเขา

“ขอบคุณท่าน ขอบคุณท่านมากจริงๆ”

----------

เมืองไซราคิวส์


กษัตริย์เฮียโรที่สองยืนมองจากพระบัญชรบานใหญ่ของห้องทรงงาน พระพักตร์วิตกกังวล ไม่นานทวารห้องทรงงานก็เปิดออก ทหารม้าเร็วเข้ามาถวายรายงาน

“ขอเดชะ ท่านอัลบุสให้ถวายรายงานว่า กองทัพโรมสามารถยึดเมืองฮาดรานอนและเมืองเคนโทริปาได้สำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

กษัตริย์เฮียโรถอนพระปัสสาสะแรงกลั้นพระทัยฟังม้าเร็วรายงานต่อ

“ขณะนี้เมืองคาทาเนียได้ส่งสารขอสงบศึกกับโรมแล้วด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“อะไรนะ!” สุรเสียงไม่พอพระทัย พระพักตร์เครียดจัด พระกรทุบลงบนโต๊ะทรงงานดัง

“คาทาเนียมันกล้าขอสงบศึกเป็นพันธมิตรกับโรมอย่างนั้นหรือ!”

พระองค์ทรงพระดำเนินไปหยุดยังแผนที่ผืนใหญ่แขวนมุมห้อง แล้วตรัสด้วยพระสุรเสียงกริ้ว

“โรมยึดฮาดรานอน เคนโทริปาได้ ส่วนคาทาเนียขอสงบศึก ไอ้พวกขี้ขลาด!”

ทหารม้าเร็วได้แต่ยืนนิ่ง ก้มหน้าลงรับฟังเมื่อทรงมีพระราชดำรัส

“เจ้าจงไปบอกอัลบุสว่า ข้าขอให้ทัพไซราคิวส์จงหยัดยืนต่อสู้กับกองทัพโรมจนถึงที่สุด ข้าเชื่อว่าทัพใหญ่ของเราร่วมกับทัพเสริมที่อัลบุสนำไปจะสามารถต้านทานกองทัพโรมันได้ และจงย้ำกับเหล่าทหารหาญแห่งข้า ให้สู้เพื่อคงความเป็นเอกราชแห่งไซราคิวส์!!”

 

 

ติดตามต่อในฉบับเต็มทั้งแบบ หนังสือเล่ม และ อีบุ๊ก

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com