ทดลองอ่าน ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ : มาลีเริงไฟ : ตอนที่ 36

 

 

ตอนที่ 36

 

 

ไอศูรย์รู้สึกตัวเองเหมือนปลาช่อนที่โดนทุบหัวครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ตาย แต่เจ็บหนักใกล้ตาย แถมยังผิดหวังหนัก ด้วยคนที่ ‘ทุบหัว’ คือ คนสองคนที่เขามีความรู้สึกดีๆ ให้ คนหนึ่งคือผู้หญิงที่เขารัก และเขาก็มองหล่อนด้วยสายตาที่ชื่นชมมาโดยตลอด ส่วนอีกคนนั้นที่ร่วม ‘ทุบหัว’ เขาด้วยก็คือผู้ชายที่เขาศรัทธาในความดีและความสามารถ แต่ในเวลานี้ คนทั้งสองกลับทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรงที่สุด

เลว!

ทางด้านอัคนีและญานีน หลังจากไอศูรย์ออกไปแล้ว อัคนีก็ตรงเข้ากอดรัดร่างแบบบาง ร่างเขาสั่นเล็กน้อยด้วยความปรารถนาที่เหมือนอัดแน่นมานานแล้ว เขาสัมผัสหล่อนด้วยท่าทางอันคุ้นเคย และมันก็ปลุกความต้องการของหล่อนให้ลุกโชนได้

“คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงเหมือนใจจะขาด”

อัคนีพึมพำเสียงแหบพร่า ก่อนก้มลงช้อนตัวหล่อนขึ้นอุ้มแล้วนำไปวางบนเตียง แล้วโถมร่างสูงใหญ่ของตัวเองลงมา ญานีนสนองตอบเขาด้วยน้ำตา สามีของหล่อนแท้ๆ แต่หล่อนต้องใช้ยาเสน่ห์เรียกเขามา ที่เขาฝากฝังความรักให้หล่อนเร่าร้อนขนาดนี้ก็เป็นไปด้วยแรงไสยศาสตร์ หาใช่แรงรักไม่

“ร้องไห้ทำไมจ๊ะ” เขาที่กำลังจะหอมแก้มนวลเนียนของหล่อนชะงัก ผงกศีรษะขึ้นมองด้วยความแปลกใจ

“ดีใจน่ะค่ะที่ได้อยู่กับพี่อีกครั้ง” ญานีนเช็ดน้ำตาทิ้งแล้วยิ้มให้เขา “นี่เมียพี่รู้หรือเปล่าคะ”

“เมียพี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไงจ๊ะ...เราอย่าพูดถึงคนอื่นเลยนะ เรียกคืนเวลาที่หายไปของเราดีกว่า” เขาบอกและก้มหน้าลงมาอีกครั้ง

----------

ไอศูรย์มาเดินเกร่ในห้างสรรพสินค้าอย่างไร้จุดหมาย แต่เดิมเขาตั้งใจว่าจะชวน ‘วิรัลยา’ มาเลือกซื้อของเข้าห้องด้วยกัน และเขาก็หวังว่าจะได้ใช้เวลากับหล่อนให้นานหน่อย แต่แผนของเขาก็พังไม่เป็นท่า

ชายหนุ่มเดินมาถึงแผนกเสื้อผ้าผู้หญิง สายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเพิ่งจะเดินเข้าร้านร้านหนึ่งไป

วิรัลยา!

“เอ๊ะ คุณหนึ่ง ทำไมมาที่นี่เร็วจัง” เท้าไวเท่าความคิด เขาก็รีบก้าวตามทันที สายตาแทบไม่ละจากร่างบอบบางนั่น เป็นไปได้ไหมว่า หล่อนกับอัคนีไม่ได้มีอะไรอย่างที่เขาคิด

เมื่อเข้ามาในร้านแล้ว ไอศูรย์ก็ตรงไปหาหญิงสาวที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ทันที

“คุณหนึ่ง”

หญิงสาวคนนั้นหันขวับมามองด้วยความตกใจ ไอศูรย์เองก็อึ้งไปเหมือนกันเมื่อเห็นใบหน้านั้นชัด

“คุณยิหวา”

วิรัลยาวางผ้าลงบนราวแล้วหันมาสบตาเขาตรงๆ “ไงคะ คิดถึงเขามาก จนเห็นใครเป็นเขาไปหมด?”

“คุณสองคนเหมือนกันมากจริงๆ เห็นแต่ข้างหลังเมื่อกี้นี้ ผมนึกว่าคุณหนึ่ง ท่าเดินเหมือนมาก”

วิรัลยาในนามญานีนพยักหน้าหงึกๆ “แล้วนี่เขาไม่มาด้วยเหรอ วันก่อนเห็นเดตกันนี่”

“คุณล่ะ สามีคุณไปไหน ทำไมถึงมาคนเดียว” ไอศูรย์ถามเสียงแห้ง มองหล่อนอย่างเห็นใจเป็นครั้งแรกนับแต่รู้จักหล่อนมา

“พี่เดี่ยวเขาไม่มาเดินช็อปด้วยอยู่แล้ว ฉันเลือกของนาน ขี้เกียจให้พี่เขารอ”

ผู้ช่วยของหล่อนทำเสียงรับทราบ “เขาบอกคุณอย่างนั้นเหรอ”

“เขาไม่ต้องบอกหรอก ก็เป็นอย่างนี้มาตลอด เอ...มีอะไรหรือเปล่าคะ” วิรัลยาหรี่ตามองเขาอย่างพิจารณา

“เปล่าหรอก...ผมขอตัวก่อนนะ” ชายหนุ่มทำท่าจะผละจากไป แต่หญิงสาวเรียกไว้

“ไอซ์...คุณไอซ์...กินกาแฟกันหน่อยไหมคะ”

----------

วิรัลยาเลือกร้านกาแฟเล็กๆ ที่คนไม่เยอะ เสียงไม่ดัง แต่ก็อยู่ในจุดที่คนนอกจะมองเห็นได้ถ้ามองเข้ามา

“เดี๋ยวฉันสั่งให้นะ” หญิงสาวอาสา แล้วทำอย่างที่ว่าทันที รอไม่นานหล่อนก็ได้เครื่องดื่มกลับมาสองแก้ว ยื่นให้เขาแก้วหนึ่ง

“ขอบคุณครับ”

“ดื่มได้ไหมคะ อเมริกาโน่เย็น” วิรัลยาแสร้งถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่านี่คือเครื่องดื่มโปรดของเขา

“ของโปรดเลยละครับ...ว่าแต่คุณยิหวามีอะไรจะคุยกับผมครับ” ไอศูรย์วกเข้าประเด็นทันที

หญิงสาวยกเครื่องดื่มของตนขึ้นจิบครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยอย่างระมัด ระวัง

“วันก่อน ยายหนึ่งเผลอพูดว่า เขามีคุณช่วยสอนงานให้ ทำไมต้องสอนเขาด้วยคะ ในเมื่อเขาเก่งขนาดนั้น”

ไอศูรย์มองหน้าหญิงสาวอย่างพิจารณา “คุณถามทำไม”

“ก็...ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า อีกอย่าง ฉันก็อยากให้คุณสอนงานให้ฉันบ้าง”

ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่งก่อนหัวเราะอย่างเห็นขัน “คนอย่างคุณญานีนนะเหรอครับจะให้ผมสอน ตอนนี้คุณเก่งจะตายไป ผมมิบังอาจหรอก”

“ฉันพูดเล่นน่ะค่ะ...แค่อยากเห็นคุณหัวเราะบ้าง เมื่อกี้หน้าคุณเหมือนเด็กโดนเพื่อนหักหลังมายังไงไม่รู้”

ไอศูรย์ชะงัก “จริงครับ ผมโดนหักหลังมาจริงๆ”

“ตายจริง ฉันแซวเล่นนะคะเนี่ย นี่อย่าบอกนะคะว่ายายนั่นแอบคบคนอื่นลับหลังคุณน่ะ จริงด้วย ตอนนี้ยายนั่นมาสายนี้นี่นา แน่ๆ เลย คุณน่ะ ต้องทำใจหน่อยละ หรือถ้าทำใจไม่ได้ก็ต้องถอยออกมา อย่าอยู่ให้เขาสนตะพายเลย”

“นี่ถ้าไม่เห็นหน้า ได้ยินแต่คำพูด ผมต้องคิดว่าคุณเป็นคุณหนึ่งแน่ๆ” ไอศูรย์ยิ้มอีก แววตาที่มองหญิงสาวอ่อนแสงลงเล็กน้อย

“งั้นเหรอคะ ทำไมล่ะ” วิรัลยาถามกลับด้วยท่าทีสบายๆ

“ก็คุณหนึ่งเคยสอนผมด้วยคำพูดแบบนี้เหมือนกัน...ตอนนั้นผมโดนผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นนักข่าวบันเทิงฉบับหนึ่งปั่นหัว คุณหนึ่งรู้เข้าก็เรียกผมไปสอน แล้วก็ช่วยผมให้พ้นจากผู้หญิงคนนั้น”

หญิงสาวแสร้งเบิกตากว้าง “ยายนั่นน่ะนะ สนใจคนอื่นเป็นด้วยเหรอ”

“ภายนอกเธอเหมือนผู้หญิงแข็งๆ มั่นใจในตัวเองจนไม่ฟังใคร แต่จริงๆ เป็นคนมีน้ำใจและให้ใจลูกน้อง พวกเราทุกคนถึงรักเธอ”

หัวใจคนฟังพองฟูคับอก หากแต่พยายามทำหน้าเฉยๆ “โดยเฉพาะคุณสินะ”

ได้ยินคำนั้น ความเศร้าก็เคลื่อนเข้าปกคลุมสีหน้าแววตาของไอศูรย์จนหมดสิ้น ชายหนุ่มถอนหายใจยาวๆ ก่อนตัดบท

“ที่เลี้ยงกาแฟผม คงไม่ใช่แค่อยากฟังความรู้สึกผมที่มีต่อคุณหนึ่งกระมัง”

วิรัลยายิ้มน้อยๆ “คุณถามตรงๆ ฉันก็จะตอบตรงๆ ถ้าฉันจะ...ขอซื้อความลับของยายนั่นจากคุณล่ะ คุณจะว่ายังไง”

สีหน้าเขาไม่บ่งบอกความแปลกใจแต่อย่างใด

“ผมแอบเดาไว้เหมือนกันว่าต้องเป็นเรื่องนี้”

“ฉันทำเพื่อสถานีของเรานะคะ คุณไอศูรย์ คุณก็เห็นว่าตอนนี้ยายนั่นทำป่วนไปหมดแล้ว ถ้าฉันรู้ว่าเขาจะทำอะไร ฉันจะได้ขัดขวางทันไงคะ นี่ก็ไม่รู้จะแผลงฤทธิ์อะไรอีก” วิรัลยาทำสีหน้าหนักใจ

ไอศูรย์นิ่ง เขารู้ดีทีเดียวละว่าหญิงสาวผู้นั้นกำลังแผลงฤทธิ์อย่างไร

“ฉันยินดีจ่ายไม่อั้นเลยนะ คุณอยากได้เท่าไหร่ก็เรียกมาเลย” หญิงสาวพูดขึ้นอีก มองเขาลุ้นๆ

“ขอบคุณที่คิดว่าผมมีค่าพอที่คุณจะจ่าย แต่ผมไม่มีความลับอะไรจะขายให้คุณ”

“คุณจะปล่อยให้เจ้านายของคุณทำให้สถานีเสียหายไปอย่างนี้เรื่อยๆ งั้นเหรอคะ คุณน่ะได้รับเลือกให้ร่วมเสนอคอนเทนต์ของสถานีด้วยนี่นา แล้วจะให้มันพังไปต่อหน้าต่อตาเพราะความไม่ได้เรื่องของยายนั่นเหรอ”

“คุณรู้?” ไอศูรย์เลิกคิ้ว เพราะตอนวางคอนเทนต์ของสถานี ญานีนยังไม่เข้ามาทำงานเสียด้วยซ้ำ ตอนนั้นเขายังทำงานในส่วนการตลาดของบริษัทในเครือวายอีเอส ซึ่งเป็นธุรกิจบันเทิงครบวงจร ทั้งงานอีเวนต์ระดับประเทศ จัดคอนเสิร์ตทั้งระดับประเทศและระดับโลก ก่อนวิญญูจะตัดสินใจเข้าประมูลทีวีดิจิทัลได้ เขาจึงถูกเรียกตัวให้มาทำงานที่นี่ และมีส่วนในการวางคอนเทนต์ของสถานีจริงๆ ร่วมกับพนักงานอีกหลายคน รวมถึงวิรัลยาด้วย

“ฉันรู้มากกว่าที่คุณคิดอีก...ว่าไงคะ ที่ฉันเสนอไป”

“ผมจะเป็นคนทำให้คุณหนึ่งเธอหยุดทุกอย่างเอง” เป็นการปฏิเสธข้อเสนอของหล่อนที่ชัดเจนที่สุด และวิรัลยาผู้ที่มักจะได้ทุกอย่างเสมอก็ชักหงุดหงิด

“ผู้ชายอย่างคุณหยุดยายนั่นไม่ได้หรอก”

ไอศูรย์สะอึก ภาพที่อัคนียืนอยู่หน้าห้องของ ‘วิรัลยา’ ปรากฏขึ้นในความคิดอีกครั้ง นั่นใช่ไหม ผู้ชายที่จะหยุดหล่อนได้

“คุณก็คงหยุดเธอไม่ได้เหมือนกัน...ขอโทษนะ ผมขอตัว” เขาว่าพลางลุกขึ้น

“คุณจะรักภักดียายนั่นไปถึงเมื่อไหร่ คุณได้อะไรตอบแทนจากความรักของคุณบ้าง ในเมื่อเขาไม่เคยหันมามองคุณเลย มันหมดสมัยที่จะรักแบบงมงายและทุ่มเทอย่างไร้สติแล้วนะ ไอศูรย์ นี่เป็นยุคของผลประโยชน์ อย่างน้อยก็ควรจะเป็นการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่การให้แค่ฝ่ายเดียว”

คำพูดของวิรัลยานั้นหยุดชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกจากร้านได้

 

 

** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com