ทดลองอ่าน อลเวงนัก รักของมาริสา : ตอนที่ 18

 

 

ตอนที่ 18

 

 

นี่ไม่ใช่อย่างที่มาริสาวาดฝันไว้เลย หล่อนจะต้องได้เข้าพักห้องสวีตกับมาวินสิ ไม่ใช่เสียห้องสุดหรูนั่นไปให้วิชุดา วิชุดาสั่งเบลบอยให้เอาของของมาวินเข้าห้องเดี๋ยวนั้นและไล่ตะเพิดมาริสาออกไป มาริสาเลยต้องลากกระเป๋าและสัมภาระทั้งหลายของตัวเองลงลิฟต์มาเคาะประตูหน้าห้องคมสันอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวแจ้งแก่เจ้าของห้องสั้นๆ ว่าวิชุดามาและอยากอยู่เป็นส่วนตัวกับมาวิน จากนั้นก็ลากทุกอย่างเข้ามาในห้อง จัดของใส่ตู้เงียบๆ

ดูซิ แผนที่เตรียมมาพังหมด เพราะมีตัวมารแท้ๆ กล้องฟรุ้งฟริ้ง พกมา ถ้าไม่ได้ถ่ายเซลฟีกับมาวินแบบใกล้ชิดจะมีความหมายอะไร แล้วนี่อีกน้ำหอมฟีโรโมน เห็นสรรพคุณว่าดีนักดีหนา ใช้แล้วผู้ชายรักผู้ชายหลง มาริสาคงอยากใช้กับคมสันหรอกนะ สาวเจ้าได้แต่หยิบ ‘ขยะ’ ที่พกมาจากกรุงเทพฯ ขึ้นดูอย่างหงุดหงิด ก่อนจะยัดกลับใส่กระเป๋าเดินทางดังเดิม

เลขาฯ สาวได้แต่ปลอบใจตัวเองว่ายังไงตอนทำงาน หล่อนกับมาวินก็จะต้องทำงานเป็นทีมอยู่ดี คนนอกอย่างวิชุดาไม่มีบัตรผ่านเข้างาน ยังไงก็มายุ่มย่ามไม่ได้

แต่ที่ไหนได้ วิชุดาเข้างานไม่ได้ก็จริง แต่ก็ลากมาวินไม่ให้เข้างานด้วย บุฟเฟต์มื้อกลางวันต้อนรับ อาหารนานาชาติและซีฟู้ดละลานตาไปหมด คนอื่นๆ ในทีมดูท่าคงจะไม่ได้กินข้าวเช้ามา ต่างเจริญอาหารกันถ้วนหน้า ยกเว้นมาริสาได้แต่ตักอาหารมากินเพียงแค่อย่างละสองสามคำ เพราะมาวินไม่ได้มาร่วมโต๊ะด้วย วิชุดาเล่นลากเขาไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรมอีกห้อง

ระหว่างที่เอาส้อมเขี่ยๆ แซลมอนเผาเกลือกับซอสครีมเลมอนในจานที่เชฟประจำจุดตักให้ มาริสาสงสัยเหลือเกินว่าสองคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ อาจจะจิบไวน์ขาวกับล็อบสเตอร์อยู่สองคนชู้ชื่น ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ

มาริสาจิบน้ำ เอาผ้าเช็ดปากทำหน้าบูดบึ้ง เพื่อนร่วมโต๊ะบางคนยังต่อด้วยไปหยิบของหวานมากิน แต่หล่อนขี้เกียจลุกแล้ว

“ปูนิ่มจานนี้ตักมาคุณมาริสายังไม่ได้กินเลย ผมขอได้ไหมครับ”

หญิงสาวปั้นยิ้มเป็นเชิงอนุญาต แต่พอคมสันคว้าจานของหล่อนไป มาริสาก็ลอบนึกในใจ ไม่รู้ว่าเขาไปตายอดตายอยากมาจากไหนถึงได้กินเอาๆ ทำไมมีแต่หล่อนคนเดียวที่กินอะไรไม่ลงแม้ว่าอาหารจะรสชาติโอชะแค่ไหนก็ตาม

ไม่แค่นั้น ไม่รู้แม่วิชุดานั่นใช้ความสามารถอะไร ถึงทำให้มาวินเข้ามาห้องสัมมนาเลตไปกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้ไม่ได้มานั่งที่เดียวกับทีม ต้องนั่งห่างกันคนละมุมห้อง

ผู้บรรยายต่างพูดภาษาอังกฤษไฟแลบแล้วเปลี่ยนสไลด์บนจอไปรัวๆ สมองของมาริสาไม่รับรู้ข้อมูลอะไรทั้งนั้น ได้แต่นั่งเอาปากกาเคาะกับสมุดจดว่างๆ ถึงแม้จะเป็นหน้าที่โดยตรงของหล่อนที่จะต้องจดบันทึกและสรุปผลการสัมมนา เพื่อช่วยมาวินทำรายงานส่งบริษัท แต่ในเมื่อไม่มีสมาธิอย่างนี้ จะไปทำอะไรได้ แค่มีอารมณ์เอามือถือออกมาบันทึกเสียงไว้ตลอดทั้งชั่วโมงได้ก็บุญโขแล้ว ไว้ไปถอดเทปทีหลัง ส่วนเมื่อไรจะถอดเทปน่ะเหรอ...เมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ

เลิกสัมมนา มาริสาก็ขอแยกออกมาทันที ช่วงเย็นเป็นช่วงพักผ่อนตามอัธยาศัย ไม่ต้องสงสัยว่าคมสันกับทีมคงรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากระโดดลงทะเล พอดึกๆ ก็ไปเที่ยวบาร์กัน ส่วนมาวินก็หายไปดื้อๆ ช่วงที่เจ้าภาพกล่าวปิดงานในส่วนของวันนี้จบ หันไปดูอีกทีเจ้านายคนดีก็หายตัวไปซะแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย วิชุดาคงลากตัวไปอี๋อ๋อ เกลียดนัก!

มาริสาไม่รู้จะทำอะไร หล่อนไม่อยากเล่นน้ำหรือเล่นสนุกอะไรกับใครทั้งนั้น ในเมื่อสิ่งที่วาดฝันไว้เป็นได้แค่ฝันกลางวัน คิดว่ากลับห้องไปนอนเปิดทีวีดูฆ่าเวลาไปพลางๆ แหละดีที่สุด อาศัยช่วงที่คมสันยังไม่กลับ เพราะถ้ารายนั้นกลับมาเมื่อไหร่ ห้องก็จะไม่ใช่ของหล่อนคนเดียว แล้วเขาก็จะต้องแย่งรีโมตไปดูช่องที่หล่อนไม่อยากดูแน่นอน

แต่ยังไม่ทันจะเดินไปถึงลิฟต์ มาริสาก็เจอกับคนที่ตัวเองเพิ่งด่าว่าเกลียดนักเกลียดหนาจังๆ ตรงล็อบบี้

“จะไปไหนหรือมาริสา”

“คุณวิชุดา...”

ทั้งคู่เงียบกันไปพักหนึ่งก่อนที่มาริสาจะพูดขึ้น

“สาจะกลับห้องน่ะค่ะ ขอตัวนะคะ”

“เดี๋ยวสิ” วิชุดาก้าวมาดักหน้าหล่อนไว้ “ไม่อยากรู้เหรอว่ากลางวันวินไปทานอะไรกับฉัน และไม่อยากรู้เหรอว่าสัมมนาจบวันนี้ฉันกับวินจะไปทำอะไรกัน เป็นเลขาฯ ควรจะรู้หน่อยนะว่าเจ้านายไปไหนทำอะไร ใครถามจะได้รายงานถูก”

แม่นี่กำลังเยาะเย้ยหล่อน มาริสาตาขวางขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ห้องอาหารแดฟโฟดิลส์ที่ชั้นสิบสองน่ะ อาหารเขาอร่อยมากนะ วินชมไม่ขาดปากเชียวล่ะเมื่อกลางวัน บรรยากาศก็โรแมนติก แต่ราคาแพงหูฉี่ เลขาฯ ง่อยๆ อย่างเธอน่ะ คงไม่มีปัญญาเข้าไปกิน”

“ขอโทษนะคะ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” มาริสาเริ่มหน้าร้อนเมื่อได้ยินคำดูถูกเมื่อสักครู่

“เลขาฯ ง่อยๆ ไง นอกจากสมองง่อยเปลี้ยแล้วยังหูหนวกอีกนะเธออะ”

โอเค ในบริษัท มาริสาไม่ใช่พนักงานดีเด่น มีเรื่องกับฝ่ายบุคคลและวิชุดาประจำ โดนตำหนิมาก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่โดนดูถูกเหยียดหยามแบบนี้

“ตอนนี้วินรอฉันอยู่ที่ชั้นบี เราจะไปเล่นสนุกเกอร์ที่คลับด้วยกัน จากนั้นก็จะไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารริมทะเล” วิชุดาลอยหน้าลอยตาพูดต่อ “บอกเอาไว้ เธอจะได้รู้ ว่าเขาคงไม่มีคิวว่างให้แมวขโมยอย่างเธอขโมยเขาไปควงอวดใครๆ แบบวันก่อน”

มาถึงตรงนี้มาริสาก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องที่หล่อนไปเดินช็อปปิงกับมาวินไปทั่วห้างฯ ผ่านไปหลายวันแล้วยังจะเคียดแค้นอะไรนักหนา เป็นโรคโกรธไหลย้อนหรือไง

“ก็รักษาคิวเขาเอาไว้ให้ได้ตลอดแล้วกันค่ะ” ด้วยความโกรธปนหมั่นไส้ มาริสาจึงตอบโต้กลับไป

“หมายความว่ายังไง”

“อย่าลืมสิคะ ยังไงสาก็เป็นเลขาฯ ของคุณมาวิน ยังไงก็ต้องทำงานร่วมกันแบบใกล้ชิดไปอีกนาน เผลอๆ วันๆ หนึ่งอาจต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าที่เขาอยู่กับคุณเสียอีก วันนี้ได้ตัวเขาไปก็เอาไปเถอะค่ะ วันหน้าไม่ได้หมายความว่าคุณจะจองตัวเขาได้แบบนี้ตลอดไป”

“นี่เธอจะประกาศสงครามกับฉันใช่ไหม” วิชุดากำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ที่ผ่านมาวิชุดาคิดว่ามาริสาคงได้แต่อ่อยเล่นๆ ไม่กล้าพอ ไม่นึกว่าวันนี้จะกล้าพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ รู้ว่าหล่อนหมายตามาวินไว้ ยังจะทำตัวหน้าด้านหน้าทนมาเป็นคู่แข่ง

คดีเก่าก็ยังไม่ได้สะสาง มันชักจะมากไปแล้ว!

“แล้วแต่จะคิด” มาริสาไม่ลดละ แรงมาก็แรงไป ในเมื่ออีกฝ่ายทำหล่อนหงุดหงิดมาทั้งวัน มันต้องฉะกันบ้าง “อย่างคุณน่ะ นอกจากหน้าสวยๆ กับเงินในกระเป๋า ก็คงไม่มีดีอะไรที่ทำให้ผู้ชายเขาเอาหรอก”

“ไหนเธอลองพูดอีกทีซิ” วิชุดาพูดเสียงเยียบเย็นลอดผ่านไรฟัน

“ว่าแต่คนอื่นหูหนวก ไม่ดูตัวเองเลยนะคะ ฉันบอกว่า อย่างคุณน่ะ นอกจากหน้าสวยๆ กับเงินในกระเป๋า ก็คงไม่มีดีอะไรที่ทำให้ผู้ชายเขา...”

เพียะ!

มาริสาหน้าหันไปตามแรงปะทะของฝ่ามืออีกฝ่าย ทั้งพนักงานและแขกไทยแขกเทศที่เข้ามาเช็กอินและผ่านไปผ่านมาบริเวณล็อบบี้ ต่างหยุดกิจกรรมของตัวเองหันมามองยังต้นเสียงที่ก้องสะท้อนไปทั้งห้องโถง

นี่วิชุดาตบหล่อนหรือ นี่หล่อนโดนตบจริงๆ ใช่ไหม

“จำความเจ็บนี้ไว้นะ มาริสา เผื่อหน้ามันจะได้หายด้านบ้าง!”

พูดจบก็เดินออกไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้มาริสายืนงง ทั้งมึนทั้งชา แล้วชั่วพริบตาต่อมา ความชาก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บและแสบพวงแก้มไปหมด มาริสาเห็นทุกสายตาจ้องมาที่หล่อน เห็นแขกคนไทยคนหนึ่งลุกลี้ลุกลนรีบเก็บมือถือตัวเองที่กำลังยกขึ้นถ่ายคลิป เมื่อเห็นมาริสาหันมา

พอเขาไม่ตบกันต่อก็รีบเก็บมือถือเลยสินะ...นิสัย!

มาริสาน้ำตาคลอด้วยความเจ็บและความอาย โดนตบหน้ากันกลาง ล็อบบี้ต่อหน้าประชาชีขนาดนี้ ใครจะไปตั้งตัวรับสถานการณ์ได้เล่า

หญิงสาวก้มหน้าเดินกึ่งวิ่งออกไป วันนี้วันซวยอะไรของมาริสานะ โดนเททั้งวัน แล้วยังมาโดนตบอีก! ถ้ายังมีเรื่องซวยเกิดขึ้นในวันนี้อีก ราหูคงอมดวงหล่อนไม่ยอมคายจริงๆ หล่อนขอโกนหัวบวชชีสะเดาะเคราะห์ไปเลย!

 

 

** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com