ทดลองอ่าน ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ : มาลีเริงไฟ : ตอนที่ 22

 

 

ตอนที่ 22

 

 

เดินห่างจากอัคนีมาไม่กี่ก้าว ญานีนก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือแข็งแรงมือหนึ่งดึงร่างหล่อนไปกอด และทำท่าจะก้มลงมาจูบปากหล่อนด้วย แต่หล่อนรีบยันหน้าอกเขาไว้เสียก่อน แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมอง

เขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยตะวันตก อายุประมาณสามสิบปี หน้าตาหล่อเหลาสะดุดตา แต่อะไรบางอย่างในตัวเขาบอกญานีนว่านี่คือตัวอันตราย บางทีอาจเป็นที่ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาที่ดูขี้เล่น เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูก หรืออาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มลึกลับบนริมฝีปากสีสดนั่น

“เฮ้ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ยูไม่ดีใจเหรอที่เจอไอ”

เขาพูดภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง

“ขอโทษนะ พอดีฉัน เอ่อ ประสบอุบัติเหตุ ความทรงจำยังกลับมาไม่เต็มร้อย”

“วีย่า ผมรู้ว่าคุณโกรธที่ผมหายไปจากชีวิตคุณ แต่อย่าลงโทษผมด้วยการบอกว่าจำผมไม่ได้เลยนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด มองหน้าหล่อนเว้าวอน

“ฉันจำไม่ได้จริงๆ ค่ะ ต้องขอโทษคุณด้วยจริงๆ...ลักษณะคุณดูน่าจะสนิทกับฉันมากเหมือนกันนะคะ” ญานีนจงใจเน้นคำว่า สนิท หยั่งเชิงอีกฝ่าย แล้วเอ่ยต่อว่า

“คุณไม่รู้เลยเหรอคะว่าครึ่งปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกับฉัน?”

ถูกหล่อนย้อนถามตรงๆ เขาก็ชะงักไปนิดหนึ่ง

แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่เขาจะกลับมาทำหน้าและเสียงเสียใจส่งมาให้ “ผมขอโทษ เอ่อ คือพอเราทะเลาะกัน ผมก็บินไปเมืองนอก เพิ่งกลับมา แล้วผมก็บังเอิญเห็นคุณที่นี่พอดีเลยเข้ามาทัก”

ญานีนพยักหน้ารับรู้ “แล้วจะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไรดีคะ”

“โอเค...ถ้างั้นผมขอแนะนำตัวอีกครั้งก็แล้วกัน ผม ธนาคม ไรซ์ แต่คุณมักจะเรียกผมสั้นๆ ว่า เดฟ”

“ตกลงค่ะ เดฟ...ฉันดีใจที่ได้พบคุณนะคะ...ว่าแต่ เรารู้จักกันมานานแล้วเหรอคะ”

“ก็...สองสามปีได้ คุณเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที”

“อ้อ ค่ะ...แล้วนี่คุณจะเข้าไปในงานด้วยกันไหมคะ”

“ผมอยากอยู่กับคุณตามลำพังมากกว่า” เขาส่งยิ้มทรงเสน่ห์มาให้

“คุณออกไปข้างนอกกับผมเถอะนะ น่าจะดีกว่าอยู่ในงานเลี้ยงน่าเบื่อนั่น”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันเป็นลูกรักของคุณพ่อ ต้องอยู่จนจบงาน อีกอย่าง ในงานก็ไม่น่าเบื่อเลยค่ะ สนุกจะตายไป ถ้าคุณไม่เข้าไป งั้นฉันขอตัวก่อน แล้วเอาไว้เจอกันคราวหน้านะคะ” พูดจบหล่อนก็ทำท่าจะผละไป ร้อนถึงธนาคมรีบก้าวตาม

“ผมจะไม่ยอมปล่อยให้คุณห่างสายตาผมอีกแล้ว” เขาเอ่ยเสียงนุ่มลึก มองหล่อนอย่างมีความหมาย

ญานีนเพียงแต่ยิ้มแล้วก้าวนำเขากลับเข้าไปในงาน ตอนนั้นเองหล่อนพบไอศูรย์เข้าพอดี เขาเพิ่งปลีกตัวจากผู้ใหญ่มาได้ พอเห็นธนาคม ไอศูรย์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองฝ่ายนั้นอย่างสำรวจตรวจตรา แล้วหันมาเอ่ยกับหล่อน

“ผมขอโทษที่ไปหาคุณช้า พอดีผู้ใหญ่ท่านเรียกคุยน่ะ”

“เรื่องของฉันล่ะสิ คืนนี้วิรัลยากลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปแล้ว แหม ดีจัง ดังในชั่วข้ามคืน” แล้วหล่อนก็หัวเราะสนุก ระหว่างนั้น เสียง เพลงจังหวะสนุกสนานก็ดังขึ้น พนักงานหลายคนชวนกันลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปยืดเส้นยืดสาย

“เพลงน่าสนุกจัง มาเต้นกันค่ะ ไอซ์ เดฟ” ญานีนพยักหน้าเรียกทั้งสองหนุ่ม และไม่รอให้ใครเอ่ยว่าอะไร หล่อนดิ่งเข้าไปที่ฟลอร์ทันที ธนาคมก้าวตามติด แต่ไอศูรย์ก็วิ่งแซงจนได้ และพยายามกันหล่อนออกจากหนุ่มลูกครึ่ง ธนาคมก็ไม่ยอมแพ้ ไอศูรย์อยู่อีกทาง เขาก็ขยับร่างกายไปอีกทาง ภาพจึงออกมาเป็น ‘วิรัลยา’ คั่วผู้ชายสองคน

ภาพแบบนั้นทำให้คนที่เห็นเริ่มซุบซิบกระซิบกระซาบกัน และมอง ‘วิรัลยา’ ด้วยแววตาไม่อยากเชื่อปนขัดใจ

“เอ๊ะ นั่น คุณหนึ่งใช่ไหมคะ” ณัฐยาซึ่งยืนอยู่กับวิญญู อัคนี และ‘ญานีน’ อยู่ด้านหนึ่งของงานอุทานขึ้น ทั้งสามเลยเขม้นมองตามสายตาของณัฐยา และภาพที่ทุกคนเห็นคือ ‘วิรัลยา’ กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกในท่าที่เซ็กซี่เร้าใจอยู่บนเวที โดยมีหนุ่มหล่อสองคนขนาบข้างในลักษณะอยากเป็นคนที่หล่อนเต้นด้วย

“มันทำอะไรของมัน” วิญญูคำรามเสียงโกรธเกรี้ยว

“ตายแล้ว ทำไมหนึ่งทำแบบนั้น” ‘ญานีน’ อุทานเสียงตกใจ

“พี่เดี่ยวดูสิคะ เขาเป็นบ้าอะไรของเขา”

อัคนีไม่พูดอะไร ได้แต่มองคนบนเวทีนิ่งอยู่ และนั่นก็ทำให้คนเป็นภรรยาตาเขียวปั้ด

“ทำไมมองมันแบบนั้นคะพี่เดี่ยว” หล่อนกระชากเสียงถาม

“พี่กำลังคิดเหมือนทุกคนว่าหนึ่งเขาแปลกๆ ดูเขาจงใจทำให้ตัวเองถูกมองในแง่ร้ายยังไงชอบกล ทั้งที่เมื่อก่อนเขาห่วงภาพลักษณ์ตัวเองมาก”

ได้ยินอย่างนั้น สองพ่อลูกก็หันสบตากัน ก่อนที่วิรัลยาจะนึกอะไรออก!

จริงด้วย นังนั่นพยายามจะทำลายชื่อเสียงของหล่อน ด้วยการปล่อยมุกบ้าๆ บนเวที แล้วนี่ยังจะขึ้นไปเต้นอ่อยผู้ชายอีก ขณะที่หล่อนมัวแต่สร้างภาพสวยงามให้ร่างมัน เพราะหวังว่าจะอยู่ในร่างนี้ตลอดไป แต่มัน...มันคงหมายมั่นปั้นมือว่าสักวันจะกำจัดหล่อนได้สินะ ถึงใช้วิธีนี้ หน็อย กลับมารอบนี้ มันไม่โง่แล้วจริงๆ

“คุณพ่อจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้เหรอคะ พาหนึ่งกลับบ้านไม่ดีกว่าเหรอคะ”

วิญญูเห็นด้วย จึงขยับตัวหมายจะขึ้นไปเอาตัวลูกสาวตัวดีลงมา แต่ก็ต้องชะงักเสียก่อน เมื่อหนุ่มลูกครึ่งดึงร่างญานีนให้ห่างจากไอศูรย์สำเร็จ พร้อมกับที่เพลงเปลี่ยนจังหวะเป็นเนิบช้า เขาตระกองกอดเธอเอาไว้แล้วพาเคลื่อนไหวตามเพลง ญานีนพยายามดิ้นรนออกจากวงแขนนั่น แต่ไม่สำเร็จ ไอศูรย์จึงเข้าไปคงหมายจะช่วย แต่จู่ๆ ไฟก็ดับพรึ่บทั้งงาน หลายคนร้องอุทานด้วยความตกใจ

ไม่ถึงหนึ่งนาที ไฟก็สว่างเหมือนเดิม แต่บนเวทีไม่มีร่างของ ‘วิรัลยา’ และลูกครึ่งหนุ่มหล่อแล้ว

 

 

** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com