ทดลองอ่าน ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ : มาลีเริงไฟ : ตอนที่ 15

 

 

ตอนที่ 15

 

 

ไอศูรย์เดินยิ้มไม่รู้ตัวเข้ามาในสถานีวายอีเอส

จะว่าไปช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ชีวิตเขาค่อนข้างเหนื่อย ไม่สิ ต้องบอกว่าเหนื่อยมากถึงมากที่สุด นับตั้งแต่มีวิรัลยามาอยู่ด้วยเป็นเพื่อนร่วมห้อง แต่ทว่าสำหรับเขาแล้ว เป็นความเหนื่อยที่มีความสุข

วิรัลยาในตอนนี้ แตกต่างลิบหล้ากับวิรัลยาคนเก่า หล่อนไม่ได้เป็นคนมั่นอกมั่นใจ ไม่ได้พูดจาฉะฉานหรือสมองไวแก้ปัญหาเก่งแบบเดิม แต่หล่อนกลายเป็นคนซื่อใส อ่อนโยน และมีเสน่ห์ตรงยิ้มแหยๆ เวลาพูดหรือถามอะไรที่เจ้าตัวนึกว่าไม่เข้าท่า ไอศูรย์บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน คนโน้นให้ความรู้สึกชื่นชม กระตือรือร้น และมีพลัง แต่คนนี้เขาอยากช่วย และอยากปกป้องดูแล

ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยเมื่อเจอะเข้ากับ ‘ญานีน’ และณัฐยาซึ่งกำลังจะออกไปข้างนอกด้วยกัน

“สวัสดีคุณไอศูรย์” ญานีนเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อนตามเคย

ไอศูรย์แค่ผงกศีรษะให้เป็นการทักทายกลับ แล้วก็ทำท่าจะเดินผ่านไป หากแต่ก็คิดอะไรบางอย่างได้เสียก่อน

หรือจะเป็นญานีนที่ไม่อยากให้เขารู้ว่า วิรัลยารู้สึกตัวแล้ว และส่งคนไปทำร้ายเขาวันนั้น

“คุณยิหวา” ไอศูรย์หันกลับมาเรียก ขณะที่หญิงสาวทั้งสองกำลังจะออกเดินต่ออยู่แล้ว

“คุณ เอ่อ ได้ไป...เยี่ยมหรือทราบข่าวคุณหนึ่งบ้างหรือเปล่า”

คำถามนั้นของชายหนุ่ม จากที่อีกฝ่ายมีรอยยิ้มทักทายให้ หุบฉับ

เจ้าหล่อนเชิดหน้าน้อยๆ ตอบเขาว่า

“ทำไมฉันต้องไปเยี่ยมคนที่พยายามจะแย่งของทุกอย่างของฉันไป แถมยังเป็นคนที่พยายามจะฆ่าฉันด้วย”

“แต่เธอเป็นพี่สาวคุณ”

“ผีเข้าเหรอคุณ ถึงได้พูดอะไรน้ำเน่าแบบนี้” ญานีนหัวเราะขัน

“ฉันไม่เคยเห็นยายนั่นเป็นพี่ เหมือนที่ยายนั่นก็ไม่เคยมองว่าฉันเป็นน้องสาวเหมือนกัน ว่าแต่...ทำไมจู่ๆ คุณถึงถามถึงยายนั่น”

“ก็...ผมพยายามจะเข้าไปเยี่ยมเธอ แต่คนที่นั่นไม่ให้เข้าไป ผมก็เลยอยากรู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง คุณอย่าลืมว่าเธอเป็นเจ้านายผม”

“ฉันว่าคุณควรจะหาเจ้านายใหม่ไว้จงรักภักดีได้แล้วนะ หรือไม่ก็จะขึ้นเป็นหัวหน้าเองไหมล่ะ เดี๋ยวฉันบอกคุณพ่อให้”

“ผมมีความสามารถมากพอ ไม่จำเป็นต้องให้คุณช่วย” ไอศูรย์สวนกลับ

“อ้อ แต่ยังไงผมก็จะรอคุณหนึ่งนะ ผมมั่นใจว่าวันหนึ่งเธอจะกลับ มา เธอต้องกลับมาเพื่อเป็นที่หนึ่งเหมือนเดิม”

ท่าทางของไอศูรย์ที่ดูมั่นใจเสียเต็มประดา ญานีนเลยส่งยิ้มสมเพชให้เขา “การมีความหวังน่ะเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามันมากเกินไปหรือหวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ มันก็ไม่ต่างจากคนที่กำลังเพ้อฝันล้มๆ แล้งๆ นะคุณไอศูรย์ เผื่อใจไว้บ้างก็ดี”

พูดจบ เจ้าหล่อนก็เดินเชิดผละไปก่อน โดยมีณัฐยาที่รีบเร่งฝีเท้าตามให้ทันเจ้านายสาว ทิ้งไอศูรย์ไว้ข้างหลัง

ไอศูรย์ยังคงมองตามร่างระหงนั้น คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันน้อยๆ

กลับมารอบนี้ ญานีนเปลี่ยนไปมากจริงๆ นั่นหมายความว่า วิรัลยาต้องทำการบ้านอย่างหนักและต้องรื้อฟื้นความทรงจำให้เร็วที่สุดด้วย!

เย็นวันนั้นทันทีที่ไอศูรย์กลับถึงคอนโดฯ นอกจากสอนงานให้วิรัลยาเหมือนเช่นทุกวันที่เขากลับจากที่ทำงานแล้ว เขาหารูปถ่ายของคนรอบ ตัววิรัลยามาให้หล่อนทำความรู้จักด้วย รวมทั้งเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่คิดว่าจะช่วยกระตุ้นความทรงจำของหล่อนได้

“วันนี้ท่าทางคุณดูแปลกๆ นะคะ มีอะไรหรือเปล่า”

ผู้หญิงที่เขาคิดว่าคือวิรัลยาถามขึ้นในตอนหนึ่งอย่างสงสัย

“ผมดูแปลกขนาดนั้นเลยหรือครับ” แทนที่ไอศูรย์จะบอก กลับถามกลับยิ้มๆ

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่อยากให้คุณจำอะไรได้เร็วๆ น่ะ”

“คุณคงเบื่อที่จะช่วยฉันแล้วสิ” หญิงสาวตัดพ้อแบบไม่จริงจังนัก

“ผมไม่เคยเบื่อและยังยืนยันคำเดิมว่ายินดีมาก” ไอศูรย์รีบบอกน้ำเสียงหนักแน่น สบตาหล่อนแน่วเพื่อยืนยันคำพูดนั้น

“ฉันล้อเล่นค่ะคุณไอศูรย์ โธ่...ฉันรู้หรอกว่าคุณอยากช่วยฉันจริงๆ” หล่อนเอื้อมมือมาจับมือเขาอย่างลืมตัว

“คุณเหนื่อยหรือเปล่าคะ”

น้ำเสียงอ้อนๆ กับท่าทีที่หญิงสาวแสดงออกมาว่าห่วงใยนั้น ทำให้หัวใจไอศูรย์พองโตคับอก เขาส่ายหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ

“ฉันโชคดีจริงๆ ที่ได้พบคุณ อย่างน้อยในโลกที่มันโหดร้ายนี้ ก็ยังมีคุณเป็นความสวยงาม” แล้วหล่อนก็ปล่อยมือเขา ก้มลงมองภาพถ่ายครึ่งตัวของบรรดาพนักงานในแผนกที่เขาหามาให้ จากนั้นก็ไล่ถามไปทีละคนว่าใครเป็นใคร ทำหน้าที่อะไรบ้าง

ขณะที่ญานีนกำลังเรียนรู้งานจากไอศูรย์อย่างคร่ำเคร่ง วิรัลยาในใบหน้าของญานีนก็ค่อยๆ สร้างความน่าเชื่อถือจากทีมงานทีละน้อย หล่อนอดทนและใจเย็นพอที่จะไม่หงุดหงิดหรือเกรี้ยวกราด ทั้งที่อยากตะโกนใส่หน้าทุกคนว่าฉันคือวิรัลยา ก็ถ้าหล่อนยังเป็นวิรัลยาละก็ ทุกคนพร้อมที่จะรับฟังและเชื่อมั่นในฝีมือของหล่อนเสมอ

ที่สำคัญ นับวันหล่อนก็ยิ่งเกลียดเจ้าของใบหน้านี้หนักขึ้นทุกที!

----------

สองเดือนผ่านไป...

“คุณยิหวาคะ ผู้จัดทั้งสามคนมาถึงแล้วค่ะ”

ณัฐยาเข้ามารายงานพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ ซึ่งเป็นประวัติการทำงานของผู้จัดทั้งสามคนนั้น

วิรัลยาพยักหน้ารับทราบ เช็กความพร้อมของตนเองเรียบร้อยแล้วจึงเดินนำณัฐยาออกจากห้องทำงาน หล่อนนัดผู้จัดมาคุยรายละเอียดงาน โดยหล่อนเลือกที่จะลงไปคุยด้วยตนเองเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งญานีนคนก่อนไม่เคยทำ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของณัฐยา

ระหว่างนั้น หญิงสาวยังอุตส่าห์เปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กตัวเอง เนื่องจากเพิ่งลงภาพถ่ายตัวเองกับอัคนีตอนไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูมา หล่อนลงทุนสร้างล็อกอินในสื่อโซเชียลใหม่ทั้งหมด และประกาศว่าอันเก่าโดนแฮก เท่านี้หล่อนก็สามารถเป็นตัวเองได้แล้วภาย ใต้รูปภาพโปรไฟล์ที่เป็นใบหน้าญานีน

หญิงสาวไล่อ่านความเห็นในอินสตาแกรม ซึ่งก็ล้วนชื่นชมในความเหมาะสมระหว่างหล่อนกับอัคนี แต่แล้วก็สะดุดกับความเห็นหนึ่งเข้า

‘ของปลอม’

หล่อนชะงักตามประสาคนมีชนักติดหลัง แต่สักพักก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า คนแสดงความเห็นคงหมายถึงเรื่องที่หล่อนต้องทำศัลยกรรมใบหน้าบางส่วนเนื่องจากอุบัติเหตุ หล่อนเลยไม่สนใจความเห็นนั้นอีก และเลื่อนอ่านความเห็นอื่นต่อไปด้วยด้วยความปลาบปลื้ม เพราะล้วนแล้วแต่เป็นคำชมถูกใจหล่อนที่สุด!

“สวัสดีค่ะ” เมื่อถึงห้องประชุม หญิงสาวก็ยกมือไหว้ผู้จัดทั้งสามคนด้วยท่าทีนอบน้อมถ่อมตน

“ขอบคุณมากนะคะ ที่กรุณาให้เกียรติช่องเล็กๆ อย่างวายอีเอส”

“ต้องขอบคุณคุณยิหวามากกว่าที่เลือกพวกเรามาคุยด้วย” หนึ่งในสามซึ่งเป็นชายวัยกลางคนร่างท้วม ผิวขาวจัด ตาชั้นเดียวเอ่ยยิ้มๆ ท่าทางของเขากระชดกระช้อยตอนที่พูด

“ยิหวาติดตามผลงานทั้งสามท่านมานาน และคิดว่าสไตล์เราน่าจะไปกันได้น่ะค่ะ” วิรัลยายิ้มอีก

แล้วกระบวนการคุยงานกันก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งก็เป็นไปอย่างสบายๆ ไม่เป็นทางการ แถมตอนเที่ยง วิรัลยาก็สั่งอาหารมาเลี้ยงผู้จัดทั้งสามคน บรรยากาศจึงเป็นกันเองมากขึ้น โดยมีอัคนีลงมาร่วมวงด้วย แต่ชายหนุ่มอยู่คุยได้ครู่เดียวก็ต้องขอตัวไปทำงาน ปล่อยให้หล่อนได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่

ตกบ่ายแก่ๆ การคุยงานก็สิ้นสุดลง

เมื่อส่งแขกแล้ว วิรัลยาก็เข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ล้างไม้ล้างมือ เรียบร้อยหล่อนก็เข้าเช็กอินสตาแกรมกับเฟซบุ๊กอีกครั้งตามวิสัย

แต่แล้วก็เจอความเห็นว่า ‘ของปลอม’ เป็นรอบที่สอง! ปรากฏอยู่ในเฟซบุ๊กของหล่อน ทั้งบนไทม์ไลน์และกล่องข้อความ ด้วยบุคคลที่ใช้ชื่อเดียวกันว่า ‘Star dust’

วิรัลยาทนไม่ได้ลองกดเข้าไปดู แต่กลับไม่พบประวัติใดๆ ไม่มีแม้แต่ประวัติการโพสต์ข้อความ

แบบนี้แสดงว่าสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อจงใจหาเรื่องหล่อนชัดๆ

วิรัลยาไม่รอช้ารีบส่งข้อความกลับไปหา แต่ก็เป็นอย่างที่คิด เพราะฝ่ายนั้นบล็อกหล่อน 

“ช่างเถอะ ก็แค่พวกขี้อิจฉา” หล่อนเลือกกดออกจากเฟซบุ๊ก ไม่ใส่ใจอีกตามเคย

หารู้ไม่ว่าหล่อนกำลังคิดผิด!

----------

ยังคงมีข้อความแปลกๆ ส่งถึงหญิงสาวในวันต่อๆ มา เป็นข้อความในทำนองเดียวกันว่า ปลอม/ขอให้เวรกรรมตามทัน/ยินดีต้อนรับสู่นรก/นรก! และอื่นๆ อีกเกินจะทนอ่าน

ที่สำคัญ คราวนี้มาในโทรศัพท์มือถือของหล่อน และไม่ใช่แค่หล่อนที่โดน อัคนีก็โดนด้วย!

สองสามีภรรยาไม่นิ่งนอนใจ จัดการแจ้งความในวันนั้นทันที ซึ่งตำรวจก็ดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว อาจเพราะไม่อยากเสี่ยงกับคนที่มีสื่ออยู่ในมืออย่างพวกเขา

ในส่วนของไอพีจากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นพบว่าเป็นร้านเกม ซึ่งอยู่คนละที่ และแต่ละที่ก็ห่างไกลกัน อีกทั้งร้านเกมทั้งหมดไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนเบอร์โทรศัพท์พบว่าเป็นเบอร์ที่จดบัญชีในชื่อผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียงชายพิการนอนแบ็บกับเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อันหมายความว่ามีคนขโมยสำเนาบัตรประชาชนของเขาไปใช้นั่นเอง และญาติๆ ของเขาก็ยืนยันว่าไม่มีใครทำพฤติกรรมดังกล่าวแน่นอน แค่เรื่องปากท้องที่ต้องหาเลี้ยงก็เหนื่อยหนักพอแล้ว

“ทางคุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่าครับ” นายตำรวจถามขึ้นหลังจากการติดตามหาคนร้ายคว้าน้ำเหลว

สองสามีภรรยาส่ายหน้าพร้อมกันด้วยความมั่นใจ

“ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นพวกโรคจิต ต้องการก่อกวน”

ได้ยินนายตำรวจเอ่ยเช่นนั้น ทั้งอัคนีทั้ง ‘ญานีน’ ได้แต่มองหน้ากัน แต่คนละความรู้สึก โดยเฉพาะรายหลัง หล่อนเชื่อว่าคนส่งไม่มีทางเป็นแค่พวกโรคจิตอย่างที่นายตำรวจว่า แต่น่าจะมีการวางแผนอย่างดีมากต่างหาก

“ใครกันที่ทำแบบนี้” วิรัลยาพึมพำขึ้นมา เมื่อออกจากสถานีตำรวจกลับมาขึ้นรถของอัคนีแล้วเรียบร้อย

“อย่ากังวลไปเลยจ้ะยิหวา อาจเป็นอย่างตำรวจว่าก็ได้” อัคนีปลอบภรรยาสาวพลางขับรถออกจากสถานีตำรวจเพื่อตรงกลับบ้าน

“เดี๋ยวพอทำอะไรเราไม่ได้ ก็คงเบื่อไปเอง”

“แต่ยิหวามีเซนส์ว่าไม่ใช่พวกโรคจิต”

“แล้วคิดว่าใครจ๊ะ”

“นึกออกก็บอกตำรวจไปแล้วสิคะ” หล่อนเผลอตวาดเขาเบาๆ

ครั้นเห็นเขาชะงักและมองหล่อนอย่างไม่แน่ใจ ก็รู้สึกตัวว่าชักแสดงความเป็นตัวเองมากไป จึงรีบเอนกายพิงไหล่กว้างของเขาและกอดแขนแข็งแรงนั้นเอาไว้

“ขอโทษนะคะ ยิหวาวิตกมากไปหน่อย เลยหงุดหงิดน่ะค่ะ”

อัคนีไม่ตอบอะไร เขาตบหลังมือภรรยาเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ

ตอนนั้นเองอัคนีคงไม่รู้ตัวหรอกว่า ทำให้ภรรยาตัวปลอมของเขา เกิดอาการเคืองขุ่นหนักกว่าเก่า ลอบส่งสายตามองเขาอย่างไม่พอใจ

ทำไมเขาไม่จุมพิตหน้าผากอย่างที่ชอบทำเวลาต้องการปลอบประโลมหล่อน จุมพิตที่ทำให้หล่อนอุ่นใจเสมอ

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ วิรัลยาเลยเพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มข้างกายเปลี่ยน ไป...ระยะหลังมานี้เขาแทบไม่แตะต้องหล่อนเลย ท่าทีห่างเหินยังไงชอบกล

หรือว่าเขารู้ความจริงแล้ว?

ไม่หรอก วิรัลยาส่ายหน้าค้านกับความคิดในหัวตัวเอง

ไม่มีวันที่ใครหน้าไหนจะรู้ความลับนี้ได้ อัคนีอาจจะแค่เหนื่อยก็เลยดูเครียดๆ

ปลอบใจตัวเองเช่นนั้น วิรัลยาก็หวนกลับไปนึกถึงข้อความแปลกๆ อีกครั้ง สังหรณ์บางอย่างแล่นวูบวาบอยู่ในความคิดหล่อน

----------

วิรัลยาตัดสินใจกลับมาบ้านตัวเองในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ สังหรณ์บางอย่างที่แล่นวูบวาบอยู่ในความคิดของหล่อนนั้น ทำให้ฉุกใจคิดขึ้นมาว่า ควรมาดูหน้าเจ้าหญิงนิทราเสียหน่อย


วิรัลยาไม่ลืมสวมแว่นตากันแดดสีดำขนาดใหญ่กับสวมหน้ากากอนามัยบดบังใบหน้าก่อนเข้าบ้าน ถึงแม้คนในบ้านจะไม่รู้ว่าเจ้าหญิงนิทราที่อยู่บนเตียงนั้นคือญานีน แต่พยาบาลก็เห็นว่าคนบนเตียงมีหน้าตาอย่างไร

“ดิฉันให้คุณเข้าไปไม่ได้จริงๆ ค่ะคุณญานีน”

ทันทีที่วิรัลยามาถึงหน้าห้อง พยาบาลสาวก็ออกมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน

วิรัลยาแนะนำตัวแล้วว่าเป็นญานีน และจะขอเข้าไปเยี่ยมคนในห้อง แต่ดูท่าทางพูดยังไงพยาบาลก็คงไม่ยอมให้หล่อนเข้าเยี่ยมแน่ๆ วิรัลยา  เลยต่อสายหาวารุณ เนื่องจากบิดามารดาไม่อยู่บ้าน ออกไปทำธุระตั้งแต่ไก่โห่แล้ว

พยาบาลคุยกับคนในสายอยู่ครู่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือคืนวิรัลยา ทั้งหน้าซีดเป็นไก่ต้ม

“ชะ...เชิญค่ะ” พยาบาลสาวจำต้องยอมถอย

แต่แทนที่จะถอยออกไปให้พ้นประตูห้อง เจ้าหล่อนกลับก้าวขาต่อไม่ออก ยังยืนขวางหน้าประตูอยู่นั่นเอง ลักษณะเหมือนไม่อยากให้เข้า

“เอ๊ะ หลบสิยะ” วิรัลยาเหลืออดดันพยาบาลสาวให้หลบไป

หากทว่าจังหวะนั้นเองที่แตะตัวพยาบาลสาว วิรัลยากลับชะงัก

หล่อนสัมผัสได้ถึงอาการสั่นเทาของอีกฝ่าย มิหนำซ้ำเห็นชัดว่ากำลังเหงื่อแตกพลั่ก แววตาที่มองหล่อนมีแต่ความหวาดหวั่นและกลัวอะไรบางอย่าง

“มีอะไรหรือเปล่า...”

ด้วยความที่รู้สึกสังหรณ์ใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถามโดยไม่รอคำตอบ หล่อนก็ตัดสินใจเปิดประตูพุ่งเข้าไปในห้องทันทีด้วยใจที่เต้นรัวแรง

 

 

** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com