เจิมจันทร์กลับไปที่คฤหาสน์ของวิญญูอีกครั้งในวันถัดมา
ยามรักษาการณ์ปฏิบัติกับนางแบบเดียวกับวันแรกที่นางมาไม่มีผิดเพี้ยน นางพยาบาลก็ด้วย เจิมจันทร์จึงใช้วิธีเดียวกัน และสามารถเข้ามาอยู่ในห้องคนป่วยได้ในที่สุด
เมื่อเหลือเพียงนางกับญานีนภายในห้อง นางก็จัดการดึงสายระโยงระยางบนตัวหลานสาวออก สวมจี้เพชรที่เพิ่งได้คืนจากบ้านอัคนีลงบนลำคอระหง จากนั้นก็เริ่มนำไข่มาไล้ตามตัวหลานสาวที่ยังคงนอนหลับใหลอยู่บนเตียง พร้อมกับท่องบทสวดอีกครั้ง ไม่นานก็ปรากฏควันสีดำคล้ำค่อยๆ ลอยออกจากผิวหนังของหญิงสาว ตามมาด้วยอาการกระตุกสองสามครั้งญานีนก็ขย้อนเอาของเหลวสีดำออกมาเลอะเต็มเตียงนอน
ระหว่างนั้น เจิมจันทร์หันไปจัดการกับวิญญาณชั้นต่ำที่สะกดหลาน สาวตน ด้วยการหยิบด้ายเส้นเล็กจากกระเป๋าถือแล้วโยนออกไป พลันนั้นด้ายก็กลายเป็นงูตัวเล็กๆ สีดำสนิทรัดวิญญาณตนนั้นเอาไว้
ครู่ต่อมา ญานีนที่ขย้อนของเหลวออกมาจนหมดท้องแล้ว ก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ ห้องด้วยความมึนงง ครั้นหญิงสาวเห็นว่าคุณยายของตนอยู่ตรงนั้นด้วย ก็โผเข้าหาอย่างเด็กที่ถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวมาเป็นเวลาครึ่งปี แต่ทว่าเจิมจันทร์กลับผละออกด้วยท่าทีห่างเหิน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“แกตื่นมาก็ดีแล้ว รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ”
“ที่นี่ที่ไหนเหรอคะยาย ไม่ใช่โรงพยาบาลนี่คะ...แล้วทำไมหนูถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“นี่คือบ้านของพ่อแก มันเอาแกมานอนแบ็บเอาไว้”
“อะ...อะไรนะคะ”
ญานีนตามไม่ทัน ขณะเดียวกันก็พยายามทบทวนความทรงจำช่วงที่ประสบอุบัติเหตุ “หนูเคยรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งนี่คะ หนูจำทุกอย่างได้หมดเลยด้วย แล้วกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ยังไง”
“ถามโง่ๆ ก็มีคนอยากให้แกกลายเป็นแบบนี้น่ะสิ”
หลานสาวขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เห็นอย่างนั้นคนเป็นยายเลยมองด้วยสายตาระอา “แกนี่มันโง่ดักดานตั้งแต่เด็กยันโตจริงๆ แบบนี้ไงถึงถูกเขาบังคับให้เป็นเจ้าหญิงนิทราได้...ฟังฉันให้ดีนะยายยิหวา ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าพ่อแก นังวารุณ และก็นังหนึ่ง...เป็นคนทำ!”
“เพื่ออะไรคะ” ญานีนยังคงงุนงง
“ก็เพื่อที่ลูกสาวสุดที่รักของพวกมันจะได้เป็นแกไง”
“อะไรนะคะยาย ยายหนึ่งน่ะเหรอคะจะเป็นหนู? หนูยิ่งไม่เข้าใจใหญ่เลยค่ะ”
“แกมันเข้าใจอะไรยากจริง!” เจิมจันทร์พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ชักสีหน้ารำคาญออกไป
“ตอนนี้มีคนหน้าเหมือนแกอยู่ข้างนอกนั่น ฉันเดาว่าเป็นนังหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นแก แต่ไม่ใช่แค่ศัลยกรรมให้หน้าเหมือนแกแน่ หึ เล่นกับใครไม่เล่น ฉันล่ะเชื่อยิ่งกว่าเชื่อว่าพ่อของแกมีส่วนรู้เห็นด้วย เขาเกลียดแม่แก ก็เลยพาลเกลียดแกไปด้วย”
ญานีนนิ่งอึ้ง มันเป็นเรื่องที่หล่อนไม่คาดคิดว่าในชีวิตนี้จะได้ยิน!
“เอาเถอะ แกเพิ่งฟื้นคงยังมึนๆ อธิบายอะไรไปตอนนี้จะยิ่งเสียเวลากันเปล่าๆ” เจิมจันทร์ตัดบท จะฉุดหลานสาวให้ลุกขึ้นจากเตียง จะได้ออก ไปให้พ้นๆ จากคฤหาสน์ของวิญญูเสียที
ทว่า...ญานีนกลับขืนตัวไว้
“เดี๋ยวก่อนค่ะยาย...”
ญานีนเอ่ยแค่นั้น แต่แววตาเริ่มมีน้ำใสๆ เอ่อคลอ
“หนู...ถูกคุณพ่อทำให้เป็นแบบนี้...จริงๆ เหรอคะ” ญานีนถามออก ไปด้วยน้ำเสียงเจือความเจ็บปวด
และนั่นทำให้เจิมจันทร์ชะงักไปเหมือนกัน
นางคลายมือจากการฉุดกระชากหลานสาวอัตโนมัติ
จู่ๆ หลานสาวก็น้ำตาหยดแหมะ คนเป็นยายกำลังรีบๆ กลัวแผนล่มเลยอ่อนลง แต่ถ้าหวังว่าจะได้ยินคำปลอบจากนาง นั่นคงไม่ใช่เจิมจันทร์ สิ่งที่นางเอ่ยออกไปจึงทั้งห้วนทั้งดุหลานสาวในคราเดียวกัน
“แกจะร้องไห้หาพระแสงของ้าวอะไรตอนนี้ ยายยิหวา นี่ไม่ใช่เวลามาคร่ำครวญ พวกมันขังแกไว้กับนังพยาบาลรักษาสัตว์ แล้วก็สั่งเก็บรูปยายหนึ่งทั้งหมด สั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาเยี่ยมแก พวกมันทำกับแกได้ขนาดนี้ แกยังคิดว่าพ่อแกไม่รู้ไม่เห็นด้วยอีกไหม”
“งั้นแสดงว่าตอนนี้ยายหนึ่งเป็นหนูอยู่อย่างนั้นเหรอคะ”
“เอ้อ หายโง่ซะที”
เจิมจันทร์อดไม่ได้ขอแขวะหลานสาวให้หายรำคาญ
“พวกมันเล่นทั้งวิทยาศาสตร์ทั้งไสยศาสตร์กับแก แกต้องเอาคืนให้สาสม เข้าใจไหม! แต่ฉันยังไม่รู้หรอกว่าทำไมนังหนึ่งมันถึงอยากเป็นแก ชีวิตมันก็ออกจะดี”
“หนูว่าหนูรู้ค่ะ” ญานีนเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบาแทบเลือนหาย
ตอนนั้นเองดึงความสนใจจากเจิมจันทร์ หันขวับมามองหลานสาว
“พี่เดี่ยวก็ร่วมมือด้วยค่ะยาย พะ...พวกเขาร่วมมือกันฆ่าหนู” จากที่ว่าคุมสติตัวเองได้แล้ว พอเอ่ยบอกยายเท่านั้น น้ำตาก็ไหลพราก
“นี่ผัวแกก็เป็นไปกับเขาด้วยเรอะ! แกรู้ได้ไง แน่ใจแล้วใช่ไหม หน็อย ก็ว่ามันไม่เคยเอะใจเลยรึไงว่าเมียที่มันนอนกอดด้วยทุกคืน ไม่ใช่แก!”
ได้ยินอย่างนั้น ญานีนก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเก่าปานจะขาดใจเสียให้ได้ จึงถูกเจิมจันทร์ตวาด
“หยุดร้องได้แล้ว! เดี๋ยวคนของพวกมันก็ได้แห่กันเข้ามาพอดี เวลานี้แกควรต้องรีบแข็งแรงเพื่อแก้แค้นพวกมันถึงจะถูก”
“หนูขอโทษค่ะ...” ญานีนเสียงอ่อย กัดปากตัวเองพยายามที่จะหยุดร้องไห้ให้ได้ตามที่ยายว่า แล้วใช้หลังมือผอมแห้งนั้นปาดน้ำตาทิ้ง
“ฉันเคยบอกแกแล้วว่าผัวแกมันไว้ใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันไม่ยอมแต่งงานกับแกง่ายๆ หรอก”
“แล้วยายรู้ได้ยังไงว่าหนูอยู่ที่นี่”
“เหอะ” เจิมจันทร์สะบัดเสียงใส่
ครานั้นคนเป็นยายก็นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดความสงสัยจนเป็นที่มาของการเข้ามาปลุกญานีนในวันนี้
นางสะดุดใจในท่าทีบางอย่างของญานีนตัวปลอมเข้าให้อย่างจัง ก็ในวันที่ญานีนตัวปลอมได้ออกจากโรงพยาบาล กลับมาอยู่บ้านแล้วนั่นละ จริงอยู่ ถึงนางจะไม่ค่อยได้ใส่ใจหลานสาวคนเล็กสุดนัก แต่ยังไงเสียนางก็พอรู้นิสัยใจคอหลานสาวตัวเองอยู่ว่าเป็นคนอย่างไร
ญานีนนั้นหัวอ่อน เชื่อคนง่าย และเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง ไม่ได้มีท่าทีติดจะกระด้างและอวดโอ้แบบที่วิรัลยาเป็น เรื่องเดียวที่ญานีนดื้อกับนางคือเรื่องแต่งงานกับอัคนี นอกนั้นไม่ว่านางจะให้ทำอะไร แม้ในสิ่งที่ไม่อยากทำ ญานีนไม่เคยปฏิเสธ หล่อนจะก้มหน้าก้มตาทำไป
และการที่ญานีนอยู่โรงพยาบาลนาน นางก็อดเป็นกังวลไม่ได้ว่า อาจมีวิญญาณร้ายตามติดและครอบงำหลานสาวอยู่ ถึงได้ส่งพรายไปเฝ้าดูหลานสาวที่บ้าน ผีที่นางเลี้ยงไว้แทบทุกตนรู้จักญานีนดี ฉะนั้นจึงจับความผิดปกติได้ทั้งกิริยาท่าทาง การพูดจา และนิสัยยามที่ญานีนคนนั้นอยู่บ้านอัคนี
เหตุนี้วันนั้นนางจึงเรียกตัวญานีนคนนั้นมาหาที่เรือนเสน่ห์จันทน์ เพื่อจับตาดูทุกฝีก้าว และก็เป็นจริงอย่างที่พรายรายงานไว้
“พอฉันมั่นใจว่านั่นไม่ใช่แก ก็เลยสงสัยยายหนึ่งขึ้นมา ถึงได้รู้ว่าคนที่นอนแบ็บอยู่นี่ ที่แท้เป็นแก” เจิมจันทร์กล่าวตบท้าย
“ทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้แต่ต้นแล้ว ตั้งแต่ต้นเลย...”
อยู่ดีๆ ญานีนก็เอ่ยเหมือนละเมอ น้ำตาไหลเป็นทางอีกครั้งแต่ไม่สะอึกสะอื้นฟูมฟาย
“ตกลงแกจะออกไปจากที่นี่หรือเปล่า” คนเป็นยายถามแกมเหน็บเพราะดูท่าหลานสาวไม่คิดจะลุกจากเตียงสักที
“หนู...ขออยู่ต่อได้ไหมคะยาย หนูจะอยู่แก้แค้นพวกเขาค่ะ แก้แค้นให้หมดทุกคนเลย!” ญานีนประกาศก้องขึ้นมาเอง แววตามีแต่ความคั่งแค้นชนิดที่เจิมจันทร์เองก็ไม่เคยเห็นในตัวหลานสาวมาก่อน!
“ดีมากยายยิหวา” คนเป็นยายหัวเราะเสียงเย็นยะเยือก
“แค้นก็ต้องแก้แค้น ไม่ใช่ใช้วิธีโง่ๆ แบบแม่ของแก เข้าใจไหม!”
“แต่หนูยังคิดวิธีไม่ออกเลยค่ะ เมื่อกี้ยายบอกว่าพวกเขา เอ่อ ใช้ไสยศาสตร์ด้วย แล้วยายก็มาปลุกหนู...ด้วยวิธี...เดียวกันเหรอคะ”
ญานีนมองคนเป็นยายอย่างค้นหาคำตอบ
เจิมจันทร์เลยมองหน้าหลานสาวคนเล็กสุดนิ่ง สักพัก...นางก็เผยรอยยิ้มบางอย่างที่หลานสาวเองก็อ่านไม่ออก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาด้วยแววตาหมายมาด...
วูบหนึ่งญานีนถึงกับขนลุกซู่
** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **