เช้าวันรุ่งขึ้นระรันตามาช่วยงานที่เรือนโภชนาแต่เช้า ขณะกำลังจะไปที่เรือนพยาบาลเพื่อจัดยามื้อเช้าให้แก่เชลาลุส ชาบีก็เดินนวยนาดเข้ามา
“ระรันตา เจ้าช่วยอบขนมปังเพิ่มให้หน่อยสิ ทหารอีกผลัดกำลังจะมารับอาหารเช้า พอดีที่เหลือจากวันก่อนมีไม่พอ”
นานันรีบแย้ง “แต่แม่นางต้องไปจัดโอสถให้ท่านเชลาลุส ท่านหมอสั่งไว้”
ชาบีเชิดหน้า “เหอะ นางเป็นใครกัน ท่านหมอจึงไว้ใจให้ดูแลท่านเชลาลุส คิดว่าท่านพร่ำเพ้อหาเจ้าเหรอ ชะ ท่านแค่เมาฤทธิ์เหล้าที่ดื่มตอนผ่าหรอก”
“แต่ท่านหมอสั่ง” ระรันตาไม่อยากขัดคำสั่ง
“เจ้าทำครัวไป เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ข้าจัดการเอง” ชาบีเดินลอยหน้าออกไป
ระรันตามองตามด้วยความไม่สบายใจ ส่วนนานันทำเสียงเยาะ “เหอะ เดี๋ยวก็ได้โดนตะเพิดออกมาเท่านั้น”
ไม่นานหลังจากที่นานันพูดไว้ ขณะระรันตานั่งนวดแป้ง นานันกำลังยกถาดที่วางก้อนแป้งเรียงเป็นระเบียบเตรียมให้ผู้คุมเตาเอาเข้าอบกลับต้องสะดุ้ง เมื่อเห็นใครบางคนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง มีชาบีวิ่งหน้าตื่นตามหลัง
“เอ่อ...ท่านหายดีแล้วหรือเจ้าคะ” นานันทักอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เชลาลุสไม่ตอบ เขามองผ่านไปยังหญิงสาวที่นั่งหันหลังอยู่
“ทำไมเช้านี้เจ้าไม่เป็นคนเอายาไปให้ข้า!” เสียงกร้าวนั้นทำให้ระรันตาหันกลับมา
ร่างสูงกำยำเปลือยครึ่งบนผ้าขาวพันท่อนล่างคล้ายโจงกระเบน ต้นแขนข้างหนึ่งยังมีผ้าพันแผลรอบ หญิงสาวรีบลุกขึ้น เอ่ยอย่างหวั่นๆ เพราะดวงตาโกรธขึ้งที่จ้องมา
“ชาบีบอกข้าว่านางจะนำยาไปให้ท่านเอง”
“ข้าสั่งเจ้าไว้ว่าอย่างไรเมื่อวาน!”
ระรันตาอ้ำอึ้ง เขาคิดว่านางเป็นทหารในอาณัติหรืออย่างไร บางหนก็ใส่อารมณ์อย่างกับว่านางทำอะไรผิดกฎกองทัพเสียอย่างนั้น
“ข้ากำลังจะนำยาไปให้ท่านเมื่อครู่นี้ แต่ชาบีแจ้งว่าขนมปังขาดข้าจึงต้องทำหน้าที่ และชาบีก็เอื้อเฟื้อที่จะเป็นผู้นำยาไปให้ท่าน”
เชลาลุสหรี่ตา “ข้ามิเห็นเหตุผลอันสมควรที่เจ้าจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งข้า”
นางเชิดหน้าขึ้น “หน้าที่ของข้าคืออยู่โรงครัว ข้าเพียงช่วยดูแลท่านตามที่หมอดาปิโอรุสขอร้องเมื่อคืนวาน”
ทหารหนุ่มก้าวมาประชิด “หน้าที่อบขนมปังใครๆ ก็ทำได้ แต่คนที่จะปรุงยาให้ข้าได้มีแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้น”
ระรันตานึกต่อคำเพราะหงุดหงิดกับความเอาแต่ใจของเขา “ปรุงยาใครๆ ก็ปรุงได้เช่นกัน ท่านหมอบอกสูตรไว้ชัดเจน”
เชลาลุสเม้มริมฝีปากก่อนเอ่ย “ข้าคงพูดผิดไป ถูกของเจ้า ใครจะปรุงยาก็สุดแล้วแต่เถิด แต่ผู้ที่จะทำให้ข้ายอมกินยาได้ มีแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้น”
ระรันตาจนคำพูดทีเดียว หลบตาเขาก็พบกับนานันที่ยืนยิ้มแก้มปริ ส่วนชาบีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ดวงตาที่มองมาอย่างกับจะฉีกทึ้งนางอย่างนั้น
สบตาคนตรงหน้าอีกครั้งก็เห็นเขายิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ แล้วในพริบตาเขาก็เรียกชาบีลั่นจนคนถูกเรียกสะดุ้ง
“เจ้าอยู่ช่วยนานันอบขนมปังและช่วยงานอื่น จนกว่าระรันตาจะหมดหน้าที่กับข้า เข้าใจไหมชาบี!”
ทหารหนุ่มพูดจบก็คว้าข้อมือนาง
“ส่วนเจ้า มากับข้าได้แล้ว”
----------
เชลาลุสปล่อยมือระรันตาเมื่อเข้ามาถึงเรือนพยาบาล เขานั่งลงบนเตียงแล้วรอนิ่ง หญิงสาวเห็นถาดยาวางอยู่ข้างๆ ยังไม่ได้รับการปรุงใดๆ จึงหันไปผสมโอสถตามสูตร เขารับไปดื่มอย่างง่ายดายแล้วเอ่ย
“เจ้าช่วยเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ข้าเช้านี้ได้หรือไม่”
นางเบิกตา “ท่านหมอน่าจะอยากเปลี่ยนเอง”
ทหารหนุ่มพ่นลมหายใจแรง “ท่านหมอมือหนักนัก ทำทีไรข้าระบมทุกที เจ้าน่ะมือเรียวบางอย่างนี้รับรองข้าไม่เจ็บ”
“แต่...”
“กลัวหมอดาปิโอรุสจะว่าหรือ ไม่ว่าหรอกคำสั่งข้า” เขาขยิบตา
นางยังลังเล
“หรือเจ้าอยากให้แผลข้าระบมจับไข้อีกรอบ”
“ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้น” ระรันตารีบปฏิเสธ
เขาทำสีหน้าตัดพ้อพอๆ กับน้ำเสียง “ก็เจ้าไม่อยากทำแผลให้ข้า แต่ก็ดีข้าไข้ขึ้นอีกรอบเจ้าก็ต้องมาเช็ดตัวให้ข้าอยู่ดี”
หญิงสาวหลิ่วตาใส่บ้าง “ท่านเจ้าเล่ห์นัก”
เชลาลุสคว้ามือนางไปกุม “ข้าเจ้าเล่ห์กับเจ้าเท่านั้น ก็ข้าอยากให้เจ้าอยู่ใกล้ๆ ข้าอย่างไรล่ะ ไม่รู้อีกหรือ”
“ท่าน” นางดึงมือออกแต่คนตัวโตยังคงยึดไว้มั่น
“ท่านปล่อยมือข้าเถิด ใครมาเห็นเข้าจะไม่งาม” นางอ้อนวอน
เชลาลุสทำเป็นไม่สนใจ “เจ้าจะยอมทำแผลให้ข้าหรือยังเล่า”
หญิงสาวค่อยๆ ดึงผ้าพันแผลออกอย่างเบามือที่สุด กระนั้นยังลอบมองหน้าเขาเกรงจะเจ็บ แต่ใบหน้าทหารหนุ่มกลับมีรอยยิ้มละไมจนนึกหมั่นไส้อยากจะแกล้งดึงแรงๆ ทว่าเมื่อเห็นแผลผ่าตัดนางกลับเป็นห่วงจับใจ
“แผลท่านยังบวมนัก”
เชลาลุสเอียงหน้ามองแผลตนเอง “ข้ารู้ แต่หมอดาปิโอรุสดูให้เมื่อคืนว่าแผลดีขึ้นกว่าวันก่อนแล้ว”
ขณะที่ระรันตานำผ้าชุบน้ำยาแตะลงบนแผล เชลาลุสถึงกับสะดุ้ง นางรีบละมือถามอย่างตกใจ “ขอประทานโทษเจ้าค่ะ ท่านเจ็บมากหรือ”
เชลาลุสหลับตาลง “เจ้าทำเถิด”
ความหมั่นไส้จนอยากแกล้งเมื่อครู่มลายสิ้น ระรันตาพยายามเบามือเป็นที่สุด กระนั้นยังเห็นเขากัดริมฝีปากข่มความเจ็บ นางไพล่นึกถึงวันที่เขาถูกคมมีดกรีดเพื่อผ่าตัดแล้วต้องรีบกะพริบตาถี่ๆ รีบพันผ้าให้เสร็จ
“ครั้งหน้าท่านให้ผู้อื่นทำแผลให้เถิดเจ้าค่ะ”
“ทำไมล่ะเจ้า” เชลาลุสขมวดคิ้ว
“ข้า...ข้าไม่อยากเห็นท่านเจ็บ” นางเสียงเครือ น้ำตารื้นขึ้นมาเอง
“โธ่เจ้า อย่าร้องไห้” เขารวบมือนาง “ทหารอย่างข้ากับเรื่องบาดเจ็บเป็นของคู่กัน ข้าไม่เป็นไรมากดอก”
ระรันตาก้มหน้า น้ำตารินผ่านแก้ม เชลาลุสเลื่อนมือประคองใบหน้าใช้นิ้วซับน้ำตาให้นุ่มนวล
“ขอบใจที่เป็นห่วงข้า” เขาก้มมองพยายามสบตานาง “แต่ข้าไม่อยากเห็นน้ำตาเจ้าเลย เจ้ารู้หรือไม่ระรันตา”
เขาเชยคางนางขึ้นให้สบตากัน
“อย่างวันนั้น ที่ท่านหมอผ่าตัด ข้าก็ทนเห็นน้ำตาเจ้าไม่ได้ ที่สำคัญ ข้าไม่อยากให้เจ้าเห็นข้าในสภาพแบบนั้น ถึงให้เจ้าออกไปอย่างไรล่ะ”
ระรันตาเพิ่งกระจ่างในเหตุผล หัวใจในทรวงอกอุ่นวาบขึ้นมา ยิ่งเชลาลุสจ้องมองด้วยนัยน์ตาเปล่งประกายดั่งดาวพราวฟ้าทำนางแก้มแดงระเรื่อ นิ้วแข็งแรงไล้ลงบนกลีบปากของนาง ใบหน้าคร้ามแดดอันคมเข้มเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษโน้มลงมาใกล้ ใกล้ขึ้น...ใกล้จนริมฝีปากของเขาแตะลงบนริมฝีปากนาง
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **