สายๆของวัน แม่ทัพคลอดิอุสสั่งการให้เหล่าทหารเตรียมม้าเพื่อออกสำรวจบริเวณรอบค่าย
ที่โรงม้าขนาดใหญ่หลังค่าย พลทหารประจำคอกจูงอาชาสีดำตัวใหญ่ออกมา ลักษณะของมันดียิ่ง กีบใหญ่ หลังยาวที่แสดงว่าปอดใหญ่และรูปร่างปราดเปรียว สมเป็นอาชาคู่ใจแม่ทัพ พลทหารดูแลใส่อานเรียบร้อย ท่านคลอดิอุสก็ขึ้นหลังมันอย่างรวดเร็ว เชลาลุสรับสายบังเหียนที่พลทหารเตรียมให้คล้องลงบนคอม้าสีขาวตัวใหญ่...เจ้าบาราม ม้าประจำตัวเขา พลทหารนำอานมาวางบนหลังมัน เชลาลุสช่วยจับขยับให้เข้าที่ ไม่นานเขาก็ขึ้นนั่งอย่างคุ้นเคย เหยาะย่างไปยืนเคียงข้างท่านแม่ทัพแล้วออกม้าไปพร้อมกัน
กลุ่มม้าสิบกว่าตัว นำโดยอาชาสีดำเคียงข้างด้วยอาชาสีขาวที่ฝีเท้าวิ่งเสมอกัน ทั้งหมดควบขนานริมฝั่งทะเลสีครามในเวลาบ่ายดูงดงาม ท้องนภาแจ่มจรัสมีปุยเมฆบางเบา ฝุ่นทรายฟุ้งเป็นควันกระจายตามหลังฝูงม้าที่กำลังวิ่งอย่างองอาจไปเบื้องหน้า
ทั้งหมดควบม้ามาหยุดยืนบนเนินสูงซึ่งมองเห็นชายฝั่งทะเลด้านล่างเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตาได้อย่างชัดเจน เมืองชายฝั่งอย่างเมสซานาปรากฏเป็นทัศนียภาพสวยงามเมื่อมองจากมุมสูงเช่นนี้ ลมทะเลโกรกแรง ปะทะลำตัวและผ้าคลุมซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องแบบของเหล่าทหารหาญไปล่ปลิวดุจธงโบกสะบัด
สายตาของท่านแม่ทัพจับอยู่ที่ภาพตรงหน้า หากมิได้ชื่นชมทิวทัศน์แต่กำลังคิดพิเคราะห์
“เกาะซิซิลีแห่งนี้ ถูกแบ่งการปกครองเป็นสามส่วน” ท่านกล่าว
เชลาลุสขยับเจ้าบารามเข้าใกล้เพื่อฟังอย่างใคร่รู้เช่นเดียวกับขุนพลอื่น
ท่านชี้มือไปเบื้องหน้า “ทางฝั่งตะวันตกของเกาะมีหลายเมืองที่คาร์เธจมีอิทธิพลอยู่ อย่างอะกรีเจนตุม (Agrigentum) พานอร์มุส (Panormus) และลิลีเบอุม (Lilybaeum) ส่วนทางตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในความปกครองของผู้ปกครองนครแห่งไซราคิวส์ และส่วนที่สาม ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เมืองเมสซานาที่ถูกยึดโดยพวกแมมเออร์ทีนซ์”
ท่านเหยียดยิ้มเหลียวมายังเชลาลุสก่อนมองกลับไปยังทิวทัศน์เบื้องล่าง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าซิซิลีนี้เป็นเกาะที่มีภูมิศาสตร์ยากแก่การรบบนพื้นราบนัก”
“เหตุเพราะมีเนินมากหรือไม่ขอรับ” เชลาลุสตอบเมื่อสังเกตลักษณะภูมิประเทศ
“ใช่ เกาะนี้เต็มไปด้วยเนิน เป็นอุปสรรคสำคัญในการวางแผนการรบภาคพื้นดิน” ท่านแม่ทัพหันไปยังทหารอาวุโสนายหนึ่ง
“ท่านฟาธามว่าอย่างไร ภูมิประเทศแบบนี้ ใช้กลยุทธ์ใดในการรบจึงจะเหมาะสม”
ฟาธาม...ทหารวัยขึ้นเลขห้า ผมขาวปนจนเห็นเป็นสีเทา ผู้กรำศึกมานานตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ได้รับตำแหน่งต่างๆ มาแล้วมากมาย ประสบการณ์ ความสามารถและกลยุทธ์การศึกเป็นเยี่ยม จนได้รับตำแหน่งลีเกต (legate) หรือผู้ช่วยแม่ทัพในการศึกครั้งนี้
“เราคงต้องใช้ยุทธวิธีจู่โจมกลุ่มเล็ก ออกทัพที่ไม่ใหญ่มากนักในแต่ละครั้ง จึงจะเหมาะกับภูมิประเทศแบบนี้ ขอรับ”
แม่ทัพคลอดิอุสมองทหารผู้ผ่านโลกมาโชกโชนอย่างพอใจ “น่าสนใจทีเดียว แล้วท่านคิดว่าเราจะเปิดศึกกับคาร์เธจเมื่อใดดี”
ฟาธามมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “ข้าคิดว่า เราต้องเปิดศึกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ขอรับ เพราะการรบครั้งนี้เราต้องเผชิญศึกสองด้าน ระหว่างกองทหารรักษาการณ์ของคาร์เธจ และกองกำลังจากไซราคิวส์ ที่ยังอยู่คุมเชิงพวกแมมเออร์ทีนซ์ขอรับ”
“ข้าเข้าใจ คำแนะนำของท่านเป็นประโยชน์มาก ข้าก็รู้มาเหมือนกันว่า อีกไม่นานคาร์เธจกำลังจะยกทัพใหญ่ขึ้นบกที่เมืองลิลีเบอุม” แม่ทัพแห่งโรมเอ่ย
“เราคงต้องเร่งสร้างค่ายให้เรียบร้อยโดยเร็วขอรับ” เชลาลุสเอ่ยข้อที่กังวล
แม่ทัพเหลือบมองเขา “ถูกต้อง แต่ข้าไม่ห่วงดอก ทหารราบเราฝึกมาดีในเรื่องการสร้างค่ายและเตรียมตัวพร้อมรบ ข้ามั่นใจว่ากองกำลังทหารราบที่ทรงประสิทธิภาพของเรา จะเอาชนะเหนือคาร์เธจได้อย่างไม่ยากเย็นนัก”
เชลาลุสเชื่อว่าแววตาอันมุ่งมั่นดั่งข้อความว่า ‘โรมจะชนะ’ ของท่านแม่ทัพ จะทำให้ทุกคนรู้สึกมีกำลังใจในการศึกครั้งนี้เหมือนกับเขา ถ้าท่านผู้นำมั่นใจ หลักชัยก็ไม่ไกลเกินเอื้อม กำลังพลและกองทัพของโรมก็เป็นที่วางใจ ก็เขาฝึกทหารหาญเหล่านั้นมาเองกับมือทำไมจะไม่เชื่อมั่น ทหารหนุ่มกวาดตามองทั้งเจ้านายและเพื่อนพ้องน้องพี่ พวกเขาจะนำพาโรมสู่ชัยชนะในศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **