ยามเย็นของต้นฤดูฝน สมคิดเปิดประตูบ้านออกมากวาดใบไม้นอกกำแพงด้วยความขยัน กวาดไปกวาดมาก็มีแมวหลงเดินผ่านมาที่หน้ารั้วบ้าน มันเดินมาเอาหัวถูสมคิดอ้อนขออาหาร ชายหนุ่มผู้อ่อนโยนจึงเรียกมันให้ตามเข้ามาในรั้วบ้านเสน่ห์จันทน์
“เข้ามาเลยๆ ฉันมีไก่ทอดให้แกกินนะ”
สมคิดนั่งลงที่เก้าอี้ไม้หน้าอิสราภรณ์คลินิก ซึ่งเขาวางถุงใส่ไก่ทอดของโปรดไว้ตรงนั้น แมวเหมียวเดินนวยนาดตามเข้าไปตามคำบอกอนุญาต โดยที่สมคิดไม่รู้เลยว่าตานีที่ซุ่มรอท่าอยู่หน้าบ้านมาหลายเดือนแล้ว พุ่งตัวตามแมวเหมียวเข้าไปทันที!
สมคิดก็เป็นคนในบ้าน ใช่แต่อีดมิสาเมื่อไรที่ถือสิทธิ์จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตอยู่ในมือ!
ผีสาวลอยลิ่วไปเกาะกอดรอบคอสมคิด ทำให้เขารู้สึกหนาวยะเยือกสั่นสะท้านขึ้นมาทันทีทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่ชายหนุ่มก็คิดว่าเพราะเขาทำงานหนัก เหงื่อไหลไคลย้อย เมื่อลมพัดมาก็เลยหนาว
ชายหนุ่มแกะเนื้อไก่ทอดวางให้แมวเล็มกิน เขามองเจ้าตัวเล็กอย่างมีความสุขเพราะร้อยวันพันปีบ้านนี้ไม่มีสัตว์ให้เล่นเลย ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ป่า เมื่อก่อนนี้มีบุญเลิศ แต่เจ้าหมาตัวนั้นก็อายุสั้นด่วนตายจากไปก่อน นั่นเป็นสัตว์ตัวแรกและตัวสุดท้ายที่เขาได้กอดได้จับได้อาบน้ำให้ เมื่อมีแมวเหมียวหลงเข้ามาจากไหนไม่รู้ เขาก็คิดอยากจะขอคุณท่านเลี้ยงเอาไว้
แต่แมวน้อยเล็มกินไก่ได้ไม่นาน สัญชาตญาณก็จับได้ถึงสัญญาณอันตรายจนมันสะดุ้ง! ลุกขึ้นขู่ฟ่อ ขนลุกตั้งชันไปตลอดแนวไขสันหลัง เมื่อสมคิดตกใจยื่นมือไปหาจะปลอบ มันก็สะบัดมือข่วนมือเขาดังแควก แล้ววิ่งเตลิดหนีออกจากบ้านไปท่ามกลางความงุนงงและแสนเสียดายของสมคิด
ชายหนุ่มจับมือที่เป็นแผลแมวข่วนจนเลือดไหลซิบ ขณะมองตามเจ้าตัวเล็กไปอย่างแสนเสียดาย เขาเลยอดมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงาเลย
เสียดายได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงรถเมอร์เซเดสเบนซ์ของเจิมจันทร์ เขาจำเสียงได้ สมคิดรีบเอาผ้าเช็ดเหงื่อมาพันมือห้ามเลือด ก่อนวิ่งไปเปิดประตูรั้วให้อย่างขยันขันแข็ง ชายหนุ่มยกมือไหว้คุณท่านตอนที่รถคันหรูแล่นผ่าน โดยที่เจิมจันทร์แค่ปราดตามองอย่างรำคาญ ใช่จะรำคาญสมคิด นางรำคาญอีผีตานีมักมากใฝ่ต่ำที่เข้ามาในบ้านให้รกหูรกตานางอีกแล้ว!
ถนอมขับรถไปจอดที่หน้าเรือนเสน่ห์จันทน์ ก่อนกุลีกุจอลงจากรถมาเปิดประตูให้เจิมจันทร์ที่นุ่งชุดขาวสำหรับถือศีล ในมือนางถือกระเป๋าใบหรูราคาเหยียบแสนเดินขึ้นเรือนไป ในขณะที่ถนอมเอารถเข้าไปจอดในโรงจอดรถที่ตอนนี้มีเพียงรถยนต์ของเจิมจันทร์เท่านั้นที่เข้าไปจอดได้ ไอ้อีที่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์! แม้แต่ดมิสาผู้เป็นหลานก็ตาม
เมื่อเดินขึ้นเรือนไปถึงห้องนอนส่วนตัวได้แค่ชั่วอึดใจ วางกระเป๋าถือราคาแพงลงบนโต๊ะวางของเรียบร้อย ถนอมก็หอบเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมตามเข้ามาวางไว้ให้อย่างนอบน้อม แล้วออกจากห้องไปโดยไม่ลืมปิดประตูให้ด้วย เจิมจันทร์เดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แกะมวยผมออกแล้วใช้หวีสางจนเรือนผมดำขลับสยายไปกับแผ่นหลัง มีรอยงอเล็กน้อยจากการมัดรวบตึงมาเกือบตลอดสามวัน
ที่สะท้อนจากเงากระจก คือหญิงชราวัยเจ็ดสิบปีเศษ แม้เรือนผมจะยังดำเงาราวสาวรุ่น แต่ใบหน้าก็อ่อนเยาว์ลงได้แค่ที่วัยสี่สิบห้าสิบเท่านั้น เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์มองสบตาตัวเองในกระจกอย่างเจ็บใจ ทำไมความสาวความสวยถึงอยู่กับนางได้ไม่นานนัก ทั้งที่อวิชชาของนางเมื่อใช้ผสมในว่านสมุนไพรก็รักษาเส้นผมได้ไม่หงอกสักเส้น แต่ผิวหนังกลับเต่งตึงดังสาวรุ่นไม่ได้
‘สมคิดจ๋า...’
เสียงนั้นลอยมาตามลม และผลจากการเดินทางไปนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูพลังมนตร์ดำของนางถึงวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีก็ทำให้หูทิพย์ของเจิมจันทร์มีพลังมากขึ้น อีตานี...อีไพร่ชั้นต่ำ! อีมักมากในกาม! หญิงสูงวัยผุดลุกจากเก้าอี้ ทุบโต๊ะเครื่องแป้งดังปัง!
คราวก่อนนางอุตส่าห์ไม่สนใจแล้วยังจะมีหน้าย้อนกลับมาทำระยำจัญไรอีก อีร่าน! อีผีโคมเขียว! วันนี้มึงจะได้รู้ว่าเรือนเสน่ห์จันทน์ไม่ใช่ตรอกเต๊าสำหรับมึง!
----------
ระหว่างสมคิดพรวนดินรอบต้นประดู่ทีละต้นอย่างขยันขันแข็ง ตานีสาวก็ลูบไล้ปลายนิ้วไปบนแผงอกล่ำสันจากการทำงานหนัก นึกอยากร่วมรักกับเขาในป่าประดู่แห่งนี้ให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ต้องรอให้สมคิดหลับเสียก่อนจึงจะทำได้
เฮ้อ กว่าจะค่ำมืด กว่าสมคิดจะนอนหลับ นังดมิสาหมอจองหองนั่นจะกลับมาก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ช่างเถอะ ตานีรู้แล้วว่าบ้านนี้มีดมิสาคน เจิมจันทร์คนที่มองเห็นหล่อนได้ ตานีจึงปกปิดตัวเองไม่ให้สองคนนั้นเห็นอีกอย่างผีมีประสบการณ์
แต่กระนั้น เมื่อครู่นี้ที่เจิมจันทร์นั่งรถผ่านไป ไยตานีจึงรู้สึกราวกับถูกจ้องอย่างน่ากลัวเสียจนหล่อนชักไม่แน่ใจในปราการป้องกันของตัวเอง
แต่...แต่อีกนั่นแหละ!
ช่างหัวยายแก่นั่นสิ ตอนนี้ตานีควรคิดเรื่องสนุกๆ มากกว่า
ผีตานีสาวสวยผละออกจากร่างแกร่งกำยำของสมคิด หล่อนพินิจพิจารณามัดกล้ามที่โผล่พ้นแขนเสื้อแล้วก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างกระหาย ยิ่งเห็นสมคิดถอดเสื้อวางไว้บนดินเพราะร้อน ตานีก็ได้เชยชมมัดกล้ามหน้าอกที่ระลอกไหวยามเขาออกแรงขุดดิน เห็นแค่นี้ก็แทบทนต่อไปไม่ไหวแล้ว น่าทำให้สลบแล้วปลุกปล้ำกลางป่าประดู่นี่นัก!
ผีสาวนั่งลงบนตอไม้ ลูบไล้ใบหน้าของตนขณะจินตนาการถึงคืนหวามรัญจวนที่จะบังเกิดขึ้นหลังสมคิดหลับใหล เมื่อเขาหลงเข้ามาในแดนสนธยาขณะหลับฝัน เธอจะปราฏกายในร่างสาวสวยสวมสไบสีตองอ่อน เย้ายวน งดงาม ชวนลุ่มหลง
เธอจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกทีละชิ้น ปล่อยให้ผ้าผ่อนร่วงหล่นลงสู่พื้นกระทั่งเขาเปลือยเปล่า ตานีรู้ดีว่า ต้องทำอย่างไรกับเรือนร่างแกร่งกำยำ เธอจะจูบเขา สอดลึกปลายลิ้นอ่อนนุ่มพัวพันกับลิ้นแข็งซาบซ่าน ปลุกปั่นให้เขาร้อนให้เขาคลั่งไคล้ ให้มือหยาบระคายจากการทำงานหนักเริ่มลูบไล้เรือนร่างอ่อนนุ่มของเธอ
อา! ฝ่ามือของเขาคงให้รู้สึกรัญจวนหวามเสียนี่กะไร
ตานีจินตนาการถึงสไบสีตองอ่อนของหล่อนหลุดร่วงลงพื้นปะปนกับเสื้อผ้าของสมคิด ตามด้วยเข็มขัดทองและผ้าซิ่น หล่อนจะแนบกายาอ่อนนุ่มหอมกรุ่นด้วยเนื้อนวลสาวเข้ากับความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม จะจูบเขาไปทั่วร่าง ดื่มด่ำกล้ามท้องแกร่งเป็นลอน ต้นขาแน่นแข็ง สะโพกเปี่ยมความเป็นชายอย่างหฤหรรษ์
เธอจะร้องร่ำครวญครางเมื่อเปลี่ยนให้เขาเป็นฝ่ายรุกไล่บ้าง เมื่อฝ่ามือหยาบๆ บีบกระชับทรวงอกอ่อนนุ่มราวบัวตูม เมื่อเขาดื่มด่ำกับเม็ดบัวสีชมพูหวาน เมื่อเขาเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปถึงหน้าท้องแบนราบ แล้วต่ำลงไป...ต่ำลงไป...
สมคิดต้องเก่งฉกาจแน่หากได้ครูดีแบบหล่อนสอน!
โอ หากเขาเข้ามาในตัวหล่อน ตานีคงรู้สึกเหมือนร่างกายบอบบางถูกกระชากขาดวิ่น! หากเขาขยับสะโพกเสียดสี เปิดโอกาสให้หล่อนได้กลืนกินความใหญ่โตคับแน่นของเขา ตานีคงรู้สึกเหมือนกับต้องตายแล้วตายอีกอย่างสุขสมเกินเหตุ!
เธอจะขึ้นสวรรค์แล้วพาเขาไปด้วย
แค่คิด ก็รู้แล้วว่าเซ็กส์ของเขาต้องแสนวิเศษเกินกว่าชายใดที่เธอเคยได้ลิ้มลอง!
หมับ!
ตานีสะดุ้ง ตื่นจากจินตนาการวาบหวามของตนเมื่อถูกมือเย็นยะเยียบจับหมับที่ไหล่เปลือยข้างที่ไม่ได้ห่มสไบ
ใครกันเล่าจะจับตัวหล่อนได้ หากไม่ใช่ผีด้วยกัน
เมื่อพยายามสะบัดหนี แขนทั้งสองก็ถูกจับไว้ด้วยฝีมือของวิญญาณอีกสองตนที่ตานีไม่รู้จัก ผีสาวหันรีหันขวาง เห็นดวงวิญญาณอดีตนักเรียนที่ตีรันฟันแทงกันจนตายแล้วก็ยิ่งมั่นใจว่าหล่อนไม่เคยเห็นไอ้ผีเวรตะไลพวกนี้
พวกผีห่าซาตาน เสือกโผล่มาดับฝันจินตนาการกู!
‘พวกมึงจับกูทำไม!’
วูบหนึ่ง สมองที่กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์บรรจุไว้ด้วยเรื่องกามคุณคิดว่าจะถูกฉุดไปรุมโทรม ตานีพินิจพิจารณาผีหนุ่มทีละตนเพื่อตัดสินใจว่าจะยินยอมดีไหมเพราะกว่าสมคิดจะหลับ อีกนาน ช่วงนี้ถ้าจะมาทีละสามแก้ขัดก็น่าสนใจ แต่ผีตนแรกที่เห็นแค่หน้าก็เน่าแล้ว แถมมีมีดสปาต้าเสียบท้องไว้อีก ตานีเบะปาก ตัดออกจากตัวเลือกทันที มองคนที่สองก็แขนขาด โดนยิงเจาะกบาล
โอ๊ย! มีตายแบบหล่อๆ บ้างไหมนี่
คนสุดท้ายยิ่งไปกันใหญ่ เนื้อตัวรุ่งริ่งเละเทะเหมือนตายเพราะโดนระเบิดจนร่างกระจุยกระจาย เหลือแค่มือที่ขาดแล้วแต่ยังลอยไปไหนมาไหนได้และจับตัวหล่อนได้ด้วย โอ๊ย! ไม่เอา ตานีไม่เอาผีขี้เหร่ทำพันธุ์หรอก ฝันไปเถอะ
‘ปล่อยฉันนะพวกหน้าเน่าหน้าหนอน ไปหล่อแบบพ่อสมคิดมาก่อนเถอะ ฉันถึงจะอ้าขาให้!’
มือที่ขาดวิ่นลอยมาตบหน้าตานีดังเพียะ! หล่อนถึงกับหน้าหัน ชาไปถึงกรามและลามลงคอแทบหันหน้ากลับไม่ได้ อีกคนกระชากผมแล้วดึงหน้าหล่อนให้เข้ามาใกล้หน้าเละเทะของตน มันมองตานีด้วยดวงตา ที่มีแววสาแก่ใจขณะกระซิบเสียงเหี้ยม
‘แล้วมึงจะได้รู้ว่าหน้าเน่าหน้าหนอนของจริงเป็นยังไง!’
เพียงพริบตา สามดวงวิญญาณผู้เป็นทาสรับใช้ของเจิมจันทร์ก็พาวิญญาณตานีหายวับเข้ามาในห้องพระ หญิงชราเตรียมการไว้รอท่าแล้ว เมื่อตานีถูกโยนโครมลงกลางพื้นไม้ที่มีสายสิญจน์ลงอาคมล้อมไว้ เจิมจันทร์ก็ยกเท้าขึ้นถีบอกจนผีสาวกระเด็นไปปะทะสายสิญจน์
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังโหยหวน
“นี่สำหรับที่มึงเห็นเรือนกูเป็นซ่อง อีผีชั้นต่ำ!”
ตานีไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หล่อนหวาดกลัวลนลาน ก่อนที่เจิมจันทร์จะท่องคาถางึมงำแล้วสะบัดน้ำตาเทียนจากเทียนเล่มใหญ่เข้ามาในวงสายสิญจน์
ตานีเบิกตาโตเหลือกลานก่อนหลับตาลงด้วยความกลัวจับขั้วหัวใจ
แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังระงมไปทั่วบ้านเสน่ห์จันทน์อย่างน่าสยดสยอง ดังออกไปทั่วจนผีป่าผีไพรผู้เป็นอิสระไม่ได้ถูกจองจำพากันหลบเข้าที่อยู่ของตัวเองด้วยความหวาดหวั่น เสียงกรี๊ดยังดังต่อเนื่อง ดังสนั่นท่ามกลางดวงตะวันยามสนธยา แต่ก็เป็นเสียงที่ได้ยินกันเพียงในโลกทิพย์เท่านั้น
ในโลกแห่งกายหยาบ สายพิณกำลังเก็บผ้า...
ถนอมกำลังขัดรถ...
สมคิดกำลังพรวนดินอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย...
ไม่มีใครเอะใจเลยว่าเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์กำลังกระทำวิบากกรรมชั่วช้าเพียงไรอยู่บนเรือนที่หวงแหนนักหนาของตัวเอง!
** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **