ทดลองอ่าน ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ : เลื่อมลายพรายจันทร์ : ตอนที่ 10

 

 

ตอนที่ 10

 

 

‘น้องมิ้งค์พอมีวันว่างไหมคะ’

อรจีราส่งข้อความมาทางไลน์ เมื่อดมิสาตอบกลับไปว่าว่างวันจันทร์คือวันพรุ่งนี้หลังสี่โมงเย็น เพราะเธอไม่ต้องไปทำงานที่คลินิก อรจีราจึงส่งสติกเกอร์การ์ตูนตาเป็นประกายกลับมาทันที

‘พอดีเลย มากินข้าวกันนะคะ พรุ่งนี้วันเกิดพี่’

บอกจบอรจีราก็ส่งโลเคชันมาเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งใจกลางกรุง

ดมิสาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบตกลงไปเพราะไม่ได้มีธุระที่ไหน นานๆ ทีได้ปาร์ตี้บ้างก็คงดีกว่าวันๆ เอาแต่ทำงาน กลับบ้านนอน ตื่นมาทำงาน กลับบ้านนอน เป็นวัฏจักรราวกับวงเวียนชีวิตของยุง

หากทว่าทางฝั่งอรจีรา ขณะที่อ่านข้อความตกลงซื่อๆ ของดมิสา ก็แอบเบ้ปากมองบน เธอเพลียเหลือเกิน ไม่ได้เพลียดมิสานะ เพลียบอสของเธอเนี่ย! ทำให้เธอจำเป็นต้องมีวันเกิดวันเดียวกับที่ดมิสามีเวลาว่าง เฮ้อ คิดว่าแค่แนะนำให้รู้จักกันที่วัดจะจบเรื่องแล้วแท้ๆ ไหงบอสถึงยังสิงเธอดั่งเจ้ากรรมนายเวรตามหลอกหลอนไม่เลิกรา นี่ชอบเขาสินะ โธ่! หล่อก็หล่อ รวยก็รวย ทำไมไม่จีบไปให้จบๆ ไม่รู้ แผนการเยอะแยะอะไรมากมาย

แต่ถึงอยากยุบอสยังไงว่า จีบเลยๆ ชะตากรรมของภรรยาเก่า ทั้งสองของจิณไตยก็ทำให้นุชชารีย์ลังเลที่จะยุส่ง เธอเลยตัดสินใจว่าจะแค่ทำตามคำสั่งของบอสไป ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าก็แล้วแต่บุญกรรมของใครของมันก็แล้วกัน

“คุณจี”

“ขา...บอส” เลขาสาวตอบรับเสียงหวานทันทีโดยอัตโนมัติเมื่ออีกฝ่ายเรียก วันนี้เธอติดตามจิณไตยมาไซด์งานก่อสร้าง และตอนนี้ชายหนุ่มก็ยืนคุยตากแดดอยู่กับวิศวกร ทำไมไม่เข้าไปคุยกันใต้ต้นไม้ อรจีราไม่เข้าใจ!

“มีอะไรคะบอส”

“เดี๋ยวคุณจดที่ผมจะสั่งนะ แล้วไว้เตือนผมด้วย อ้อ! แล้วเรื่องงานวันเกิดเป็นยังไงบ้าง”

อรจีรายกมือทำท่าโอเคและขยิบตาให้ จิณไตยจึงยิ้มรับและสั่งงานให้หญิงสาวใช้ปากกา เอส เพ็น (S Pen) จดบันทึกลงยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในมือ ท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆ ที่ทำเอาเครื่องสำอางบนใบหน้าเลขาสาวหยดเยิ้มผ่านคางไปถึงลำคอเพราะเหงื่อ และเธอได้แต่ปลงสังเวชร่างกายไม่เที่ยงหนออยู่ในใจ ไม่อย่างนั้นอาจจะจดผิดจดพลาด จดด่าเจ้านายก็ได้ว่าทำ ไมไม่เข้าไปยืนในร่ม

----------

เย็นแล้ว ดมิสาออกมาจากโรงพยาบาลในชุดเดรสลูกไม้สีขาวที่สวมออกจากบ้านเสน่ห์จันทน์ตั้งแต่เช้า เธอเพียงถอดเสื้อกาวน์ออกและเติมแป้งเติมลิปสติกก็เดินทางมายังที่นัดหมายกับอรจีราได้ทันที หญิงสาวจอดรถไว้แล้วเดินเข้าไปในคาเฟ่กระต่ายที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมดและตกแต่งอย่างน่ารัก เมื่อเปิดประตูกระจกเข้าไป กระต่ายน้อยสีน้ำตาลตัวหนึ่งก็วิ่งออกมารับ แต่หญิงสาวยังไม่กล้าจับเพราะไม่เคยเลี้ยงมาก่อน

“เจ้านี่ชื่อซูกัสค่ะ เป็นกระต่ายรับแขก” เจ้าของร้านสาวสวยเดินยิ้มออกมาอุ้มซูกัสอย่างคล่องแคล่ว “อยากลองอุ้มไหมคะ เดี๋ยวเชิญล้างมือทางนั้นก่อนได้นะคะ”

ดมิสายิ้ม มองเจ้าขนฟูตาเป็นประกาย แต่...อย่าเพิ่งดีกว่า

“ยังก่อนดีกว่าค่ะ พอดีนัดเพื่อนไว้”

“อ๋อ น้องจีเหรอคะ” หล่อนยิ้มกว้างขึ้น “เชิญค่ะเชิญ น้องจีบอกไว้แล้วว่าจะมาปาร์ตี้วันเกิด นี่พี่จัดโต๊ะไว้ให้แล้วค่ะ ใกล้โซนกระต่ายเลย”

ถ้อยความนั้นดมิสาอ่านได้ว่าเจ้าของร้านสนิทสนมกับอรจีราเป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะอรจีราเองก็เลี้ยงกระต่ายอยู่ตัวหนึ่ง

กุมารแพทย์หญิงเดินตามไปนั่งลงยังเบาะนั่งสีเขียวใบไม้ เป็นโต๊ะใหญ่ขนาดหกที่นั่ง เลขาสาวคงชวนเพื่อนๆ ที่สนิทกันมา คิดแล้วดมิสาก็อดเกร็งไม่ได้เพราะเธอไม่รู้จักเพื่อนของอรจีราเลยสักคน ยกเว้นจิณไตยที่คงไม่ได้มา เพราะเขาไม่ใช่เพื่อนของอรจีรา แต่เป็นเจ้านาย

คิดแล้วหญิงสาวก็ส่งไลน์หาอรจีราบอกว่ามาถึงแล้ว จากนั้นก็กดเข้าเฟซบุ๊กดูไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งที่โปรแกรมไลน์ชื่อของอรจีราเด้งกลับมา

‘พี่ขอโทษ น้องมิ้งค์ พี่ท้องเสียค่ะ ถ่ายไม่หยุดเลย นี่พี่อยู่บ้านแล้ว’

ดมิสาเบิกตาโต ก่อนรีบพิมพ์ตอบกลับไปด้วยความห่วงใย

‘เป็นอะไรมากไหมคะ ไปโรงพยาบาลไหม เดี๋ยวมิ้งค์ไปรับ’

‘ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง พี่กินเกลือแร่แล้วดึงฟูกมานอนเฝ้าหน้าห้องน้ำแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมาป่วยเอาวันเกิด...’ อรจีราพิมพ์ไปเบ้ปากไป ไม่คิดเลยว่าต้องมาโกหกพกลมเพราะบอสสั่ง!

‘พี่ส่งแช็ตไปบอกแขกทุกคนแล้วค่ะ ตกหล่นน้องมิ้งค์ไปได้ยังไงนะ’

‘ไม่เป็นไรค่ะพี่จี พักผ่อนมากๆ นะคะ ถ้าอย่างนั้นมิ้งค์จะกลับเลย’

อรจีราเบิกตาโต ไม่ได้สิ ไม่ด๊าย!

‘เดี๋ยวๆ ค่ะ’ หญิงสาวรีบพิมพ์ข้อความมือเป็นระวิง

‘พี่เพิ่งเช็กเมื่อกี้ บอสยังไม่อ่านไลน์เลย โทร.หาก็ไม่ติด เดี๋ยวบอสคงไปถึงร้านโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่เหมือนน้องมิ้งค์แน่เลย ฝากน้องมิ้งค์อยู่รอบอกบอสได้ไหมคะว่าพี่ไม่สบาย ฝากลางานให้พี่ด้วยเลยก็ดีค่ะ บอกว่าพรุ่ง นี้พี่ลาป่วย’

พิมพ์ส่งไปเรียบร้อยอรจีราก็แคปหน้าจอส่งไปทางไลน์ของจิณไตย พร้อมกับพิมพ์บอกว่า ‘ลาจริงนะคะ นับว่าเป็นรางวัลนะคะบอสขา’

จิณไตยอ่านแล้วตอบกลับมาทันที

‘ไม่ได้ แต่เดี๋ยวปลายปีขึ้นเงินเดือนให้’

อรจีราอยากจะกลอกตาเป็นเลขแปด แต่เอาเถอะ ได้ขึ้นเงินเดือนก็เท่ากับปีหน้ามีเงินจ่ายค่าครองชีพแบบอู้ฟู่ขึ้น หญิงสาวจึงส่งสติกเกอร์ตัวการ์ตูนส่งจูบกลับไปแล้วสลับหน้าต่างไปยังหน้าจอของดมิสา เห็นว่ากุมารแพทย์สาวส่งข้อความตอบรับกลับมาแล้ว จึงบอกขอบคุณแล้ววางโทรศัพท์ลงข้างตัว

“เบเน่ มาหาแม่มาลูก”

อรจีราเอ่ยเรียกจบ กระต่ายขนฟูสีขาวปลอดก็กระโดดเข้ากรงไปนั่งกินถั่วตากแห้ง ปล่อยให้แม่กระต่ายนั่งเคว้งคว้างอยู่กลางห้องเพียงลำพัง

 

 

** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com