มาริสาไม่รู้ตัวว่านอนหลับคอพับคออ่อนไปตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คมสันมาปลุกโดยการจับมือหล่อนเขย่าเบาๆ สงสัยเมื่อคืนตื่นเต้นไปหน่อยไม่ค่อยได้นอน ขึ้นรถเลยหลับไม่รู้เรื่อง
เสียดายอย่าง คนมาปลุกทำไมไม่ใช่มาวินนะ จะจุมพิตให้ฟื้นจากนิทรามาริสาก็ไม่ว่า
ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้ร่วมหอกันแล้ว ระหว่างที่มาริสาเดินตามเบลบอย ขนกระเป๋าของหล่อนเข้าไปในโรงแรม หล่อนวาดฝันไว้ว่าคืนนี้มาวินก็คงจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษโดยการเสียสละไปนอนโซฟา พร้อมทั้งห่มผ้าให้หล่อนก่อนนอนในห้องสวีตสุดหรู แค่คิดก็เคลิ้มแล้ว
“คุณสาจองห้องไว้สามห้องเหรอครับ” คมสันถามเมื่อมาริสากลับจากเคาน์เตอร์พร้อมคีย์การ์ดสามใบ
“ใช่ค่ะ ของคุณคมสันกับทีม สาจองห้องที่เชื่อมกันให้นะคะ คุณคมสันเอาไปห้อง คุณอภิชาติกับคุณสมศักดิ์จะอีกห้องก็ได้”
“แล้วอีกห้องล่ะครับ” คมสันถามต่อ
มาริสาปรายตาไปทางมาวิน ตามธรรมเนียม ทุกคนก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าผู้จัดการระดับสูง จะได้พักห้องเดี่ยว
“แล้วคุณสาล่ะครับ” มาวินถามบ้าง
“สาพยายามจองห้องแล้วค่ะ แต่เต็มหมด เลยจองได้แค่นี้ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน” มาริสาปด หน้าเศร้าๆ ตามที่ซักซ้อมมาอย่างดี
“งั้นคุณสาก็ต้องแชร์ห้องกับผมใช่ไหมครับ” คมสันว่า
จะบ้าเรอะ หล่อนก็ต้องอยู่กับเจ้านายหล่อนสิ...มาริสาอยากตอบออกไปอย่างนั้น แต่คิดว่าให้มาวินเป็นฝ่ายออกหน้าจะดีกว่า
“จะดีเหรอ ไอ้สัน”
นั่นแหละ ที่มาริสาต้องการ มาวินนี่เป็นเจ้านายที่น่ารักซะไม่มี ทีนี้ก็เชื้อเชิญหล่อนไปนอนกับเขาได้แล้ว เอ๊ย หมายถึง ไปพักห้องเดียวกับเขา
“เดี๋ยวผมไปรีเช็กกับเจ้าหน้าที่อีกทีให้ครับ เผื่อมีห้องว่าง” มาวินพูดแล้วก็หันหลังจะเดินกลับไปทางเคาน์เตอร์ทันที ทำเอามาริสาอ้าปากหวอ อ้าว ไหงเป็นงั้น ตายๆ หล่อนจะทำยังไงล่ะทีนี้ นี่ไม่ได้อยู่ในแผนเสียหน่อย ถ้าโรงแรมเกิดมีห้องว่างขึ้นมา หล่อนไม่ต้องหน้าแหกหรอกเหรอ
“ไม่ต้องค่ะคุณมาวิน” มาริสารีบคว้าแขนเขาไว้ “สาโทร.มาเช็กอีกทีเมื่อตอนเช้าแล้วค่ะ คงจะเต็มจริงๆ”
“ก็ไม่แน่ครับ” คราวนี้เป็นคมสันที่แทรกขึ้นมา “ตอนเช้าเต็ม แต่นี่จะเที่ยงแล้ว อาจมีใครแคนเซิลก็ได้”
เจ๋อจริงๆ คุณคมสันนี่ จะเป็นก้างขวางคอกันหรือไง ไม่ได้เด็ดขาด! หล่อนวางแผนมาซะดิบดี จะมาพังแบบนี้ไม่ได้!
“จะให้ช่วยขนกระเป๋าไปเลยไหมครับ”
ขอบคุณพระเจ้า เบลบอยมาขัดการสนทนาเรื่องห้องพอดี
“ค่ะ ขนไปได้เลย” มาริสารีบชิงตอบก่อน “ของดิฉันกับเจ้านายเอาไปห้องเดียวกันได้เลยนะคะ”
คำพูดหลุดพรวดออกไปก่อนจะคิดด้วยซ้ำ ทำเอาทั้งคณะหันมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย มาริสารู้ตัวว่าหน้าร้อนหน้าแดงไปหมด แต่ทำไงได้ล่ะ ด้านได้อายอด มัวเหนียมมัวอาย ไม่ได้กินกันพอดี
“ครับ” ทางด้านเบลบอยก็ลากกระเป๋าไปไม่ว่าอะไร จะมีก็แต่...
“คุณสาแน่ใจนะครับ” มาวินพูดขึ้น
“ก็...” หญิงสาวอ้ำอึ้งแล้วมองไปยังคณะผู้ร่วมเดินทางทุกคน “สาไม่อยากให้ทุกคนเสียเวลา อีกไม่ถึงยี่สิบนาทีทุกคนก็ต้องไปลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนากันแล้ว มัวแต่เช็กอินกันหลายๆ รอบ เดี๋ยวจะไม่ทันเอา อีกอย่าง...จะได้ประหยัดงบบริษัทด้วยค่ะ ไม่ต้องเปิดอีกห้อง บัดเจตก็จะได้ไม่เว่อร์”
นับถือความสามารถในการแถของเลขาฯ สาวจริงๆ สีข้างถลอกไปหมดแล้ว ถ้าประหยัดจริงคงไม่เปิดห้องสวีตหรอกมั้ง
“เกรงใจคุณสาแย่” มาวินตอบเบาๆ
มาริสาจะถือว่านี่เป็นการตอบรับแล้วกันนะ โล่งอกไปที นึกว่าจะเสียแผนแล้ว
เลขาฯ สาวขึ้นลิฟต์ไปกับทุกคน ห้องของแต่ละคนอยู่ชั้นเดียวกัน ยกเว้นห้องสวีตของมาวินที่แน่นอนว่าอยู่ชั้นบนสุด โรงแรมนี้ตกแต่งหรูใช้ได้ แค่บริเวณโถงทางเดินด้านนอกก็พื้นพรมราคาแพงกับภาพเขียนติดผนังฝีมือจิตรกรดัง แล้วข้างในห้องจะขนาดไหน ระหว่างที่เบลบอยเสียบคีย์การ์ดให้มาริสาและมาวิน นัยน์ตาของมาริสาเป็นประกายเต็มเปี่ยมด้วยภาพอันแสนสุขที่หล่อนจะได้ใช้เวลาสองต่อสองกับเจ้านายหนุ่มในคืนนี้
“เซอร์ไพรส์!”
จู่ๆ วิชุดาก็โผล่ออกมา ทำเอาทั้งมาวินและมาริสาชะงักงัน
ยายวิชุดา?! มาอยู่ในห้องได้ยังไงกัน มาพร้อมขวดแชมเปญด้วย
“เธอ! มาเสนอหน้าที่นี่ทำไมไม่ทราบ” วิชุดายิงกลับด้วยคำถามเดียวกันกับในใจมาริสา เพราะก็ชะงักไปพอๆ กัน
“คุณมาริสาพักห้องเดียวกับผมน่ะครับ”
วิชุดาถลึงตาทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น “บ้าไปแล้วเหรอคะวิน! นอนห้องเดียวกับแม่นี่เนี่ยนะ นี่เธอ มาอยู่ห้องเดียวกับผู้ชาย ไม่อายบ้างหรือไงยะ!”
แล้วหล่อนล่ะยะ มารอผู้ชายถึงในห้อง ไม่อายบ้างหรือไง
นั่นมาริสาแค่นึกค่อนขอดในใจอีกตามเคย ก่อนจะพูดออกไปว่า “แล้วคุณวิชุดามาทำอะไรที่นี่คะ ตามอเจนด้า มีแต่พวกเราเท่านั้นที่มาลงทะเบียนร่วมงาน”
“นี่ อย่ามาย้อนฉันนะ ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ฉันเป็นถึงกรรมการผู้จัดการห้างฯ เลขาฯ ระดับล่างๆ อย่างเธอน่ะ ไม่มีสิทธิ์มาถามคำถามนี้กับฉัน”
“แต่ยังไงคุณวิชุดาก็ไม่ได้อยู่ในรายชื่อเข้าร่วมสัมมนาอยู่ดีนะคะ” มาริสาไม่ลดละ
“แล้วใครบอกว่าฉันมาทำงาน ฉันก็มาเที่ยวของฉัน มีปัญหาอะไรไหม” พูดจบเจ้าหล่อนก็วางแก้วและขวดแชมเปญลง มาเกาะแขนมาวิน
“แต่ผมมาทำงานนะครับดา จะมาก็น่าจะบอกกันก่อน”
“นี่วินตำหนิดาเหรอคะ” วิชุดาหน้ามุ่ย มาริสาแอบหันไปยิ้มเยาะ สมน้ำหน้า “ดาแค่จะมาเซอร์ไพรส์ โรงแรมนี้พ่อของยายฟ้ามีหุ้นอยู่ ดาเลยขอเขาอัปเกรดห้องที่จองไว้เป็นห้องสวีต แล้วขอคีย์การ์ดล่วงหน้ามาด้วย”
อ๋อ มิน่า ถึงว่า อยู่ๆ โรงแรมก็ใจดีอัปเกรดห้องดีลักซ์ที่หล่อนจองไว้เป็นห้องสวีต ที่แท้เบื้องลึกเบื้องหลังมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
“ไม่รู้ล่ะ ดาขนกระเป๋าจัดของเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เตรียมเวลคัม ดริงก์ต้อนรับวินไว้แล้ว ใครไม่เกี่ยวก็เชิญออกไป”
“ช่วงนี้ไฮซีซัน ห้องน่าจะเต็ม จริงๆ ให้คุณสาพักห้องนี้ก็ได้นะครับ ห้องสวีตออกจะใหญ่โต เดี๋ยวผมนอนกับคมสัน...”
“ไม่ค่ะ!” หางเสียงเหวี่ยงๆ ของวิชุดาแบบนี้ มาริสาล่ะเอือม “จะให้ดาร่วมห้องกับแม่นี่ ฝันไปเถอะ!”
“แต่ยังไงมันก็เหมาะกว่านะครับ ให้ผมไปนอนกับพวกผู้ชายน่ะดีแล้ว พวกคุณเป็นผู้หญิง ควรอยู่ห้องเดียวกัน”
“ไม่ได้นะคะ ดามาเซอร์ไพรส์ถึงที่นี่ ดาก็อยากใช้เวลาอยู่กับคุณ”
“ผมบอกแล้วไงครับ ผมมาทำงาน” มาวินขมวดคิ้วเข้ม คำพูดของวิชุดาที่ว่าอยากใช้เวลาอยู่กับเขา ยิ่งทำให้เขาอึดอัด หล่อนพูดอย่างกับเป็นแฟนเขาอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เขาก็ย้ำไปหลายครั้งหลายคราแล้วว่าระหว่างหล่อนกับเขาเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
“เอ่อ...ประทานโทษนะครับ จะให้ผมช่วยจัดกระเป๋าเลย หรือจะย้ายกระเป๋าไปห้องไหนไหมครับ”
เหมือนทุกคนจะลืมเบลบอยที่จมอยู่กับกองสัมภาระไปเสียสนิท มัวแต่เถียงกันเพลิน
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **