มาริสาพยายามบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ถึงไม่ได้ดินเนอร์แบบเอกซ์คลูซิฟกับมาวิน ก็ยังมีทริปสุดโรแมนติกรออยู่อีกไม่กี่วันนี้แล้ว คอยดู หล่อนจะไม่ยอมให้เขาห่างเลย ไม่แน่ พอได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น เขาอาจหันมามองหล่อนแล้วเบื่อแม่นั่นไปเลยก็ได้ วิชุดาน่ะสวยแต่รูปจูบไม่หอม ไม่เหมือนหล่อน สวยทั้งรูปจูบก็หอม
ช่วงก่อนถึงวันไปทริปนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับมาริสาตรงที่ไม่ต้องวุ่นวายช่วยภุชิสสะสับรางรถไฟ พี่ชายไม่ตั้งคำถามอะไรเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิตในเดือนนี้ จะมีก็แต่ส่งสายตารำคาญมาให้เมื่อเห็นหล่อนเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เดินร่อนไปร่อนมาหน้ากระจก ทำสวยตลอดเวลาที่อยู่ อพาร์ตเมนต์
มาริสาจัดกระเป๋าไปฮัมเพลงไป สกินแคร์ครบ เครื่องสำอางครบ กล้องฟรุ้งฟริ้งก็ขาดไม่ได้ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลอัปเดตให้เพื่อนๆ รู้ตลอดเวลาว่าชีวิตดี๊ดีแค่ไหน อยากจะรู้นักถ้าหล่อนได้เซลฟีกับมาวินแล้วโพสต์ลงอินสตาแกรม วิชุดามาเห็นคงปรี๊ดแตก หาเรื่องให้มาวินได้เพลียอีก แล้วความสัมพันธ์ของสองคนคงจะสั่นคลอนยิ่งขึ้น ช่างเป็นแผนที่แยบยลเสี่ยนี่กระไร
“บ้าหรือเปล่ายายสา กระเป๋าสี่ใบ รวมกระเป๋าสะพายติดตัวอีกเป็นห้า จะย้ายบ้านหรือครับ คุณน้อง”
คุณพี่ยอชต์อาบน้ำเสร็จออกมาก็บ่นทันที ตัวยังไม่แห้งแล้วมานุ่งผ้าขนหนูเดินทำน้ำหยดใส่พื้นไม้ปาร์เกต์ห้องเก็บเสื้อผ้าของหล่อนอีก หล่อนยังไม่บ่นเลย
“ผู้หญิงมันก็ต้องมีบ้างแหละน่า ของจุกจิก”
“แล้วนี่อะไร” อยู่ดีๆ ภุชิสสะก็ถือวิสาสะมาเปิดกระเป๋าใบหนึ่งของหล่อนดู “ที่หนีบผม?”
“อะไรเล่า ก็ที่หนีบผมน่ะสิ ได้ทั้งหนีบ ทั้งม้วนลอน ลมทะเลแรงจะตาย กลับเข้าโรงแรมหัวฟูจะได้มีใช้”
“ไดร์อันใหญ่ขนาดนี้ก็เอาไปด้วยเหรอเนี่ย”
“เผื่อที่โรงแรมไม่มีไง”
“แล้วนี่อีก กระเป๋าเครื่องสำอางยกชุด เอาไปแต่งหน้ากองถ่ายหรือไง ใหญ่กว่ากระเป๋าเสื้อผ้า รองเท้าอีกโหล ยาทาเล็บ แล้วกระเป๋าใบนั้นอีก เช็กสมองบ้างยังอะเรา”
“พี่ยอชต์!”
“มา เดี๋ยวจัดให้เอง...อย่านะ อย่าเถียง เอาของไปเป็นยายบ้าหอบฟางแบบนั้นอายแทน เอากลับมาไม่ครบแล้วโวยวายจะสมน้ำหน้าให้”
โอ๊ย บางทีมาริสาก็อยากมีพี่สาวกับเขาบ้าง หรือให้ภุชิสสะเป็นเกย์ก็ได้ จะได้มีคนเข้าใจหล่อนหน่อย ของพวกนี้น่ะของจำเป็นทั้งนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้พี่ชายจัดกระเป๋าให้ เพราะไม่อย่างนั้นคืนนี้ยาว ไม่จบ เสียเวลามาสก์หน้า
----------
แม้กระเป๋าจะเหลือสองใบ อุปกรณ์ประทินความงามหายไปโข แต่เช้านี้มาริสาคิดว่ายังไงตัวเองก็สวยพร้อมสำหรับมาวินแล้ว หล่อนเรียกแท็กซี่ออกจากบ้านอย่างมั่นใจ ไปสแตนด์บายที่ห้างฯ โนเอล เพราะที่นั่นจะมีรถตู้ของบริษัทจอดรออยู่ เพื่อไปส่งหล่อนกับทุกคนในทีมไปสัมมนาต่างจังหวัดครั้งนี้ ซึ่งจากกรุงเทพฯ ไปกว่าจะถึงก็เป็นชั่วโมงๆ อยู่ มาริสาวางแผนไว้ว่าจะต้องนั่งข้างมาวินให้ได้ แล้วระหว่างทางก็จะแกล้งหลับ แล้วซบไหล่เขา ถึงมันจะเป็นมุกเก่าและน้ำเน่าไปสักหน่อย แต่มันก็ยังใช้ได้ผลเสมอนะ
เอ...แต่ทำไมที่ลานจอดรถจุดที่นัดกันไว้ ไม่มีรถตู้สักคัน
“คุณสา มาแต่เช้าเลยครับ ดีจัง นี่ยังไม่มีใครมาเลย” คมสัน เพื่อนสนิทของมาวินและหนึ่งในทีมเข้ามาทัก
“อ้อ สวัสดีค่ะคุณคมสัน นั่นสิคะ ท่าทางจะเช้าจริง รถตู้ยังไม่มาเลย”
“นี่ล่ะครับ ผมถึงรีบมา เผอิญเมื่อเช้ามีคนโทร.มาบอกว่าคนขับรถของบริษัทท้องเสียกะทันหัน เลยตกลงกันว่าจะขับรถกันไปเองครับ แบ่งรถกันไปสองคัน รถผมกับคุณอภิชาติ นี่ผมก็โทร.บอกบางคนแล้ว ดีจริงที่เจอคุณสาพอดี ฉุกละหุกไปหมดเลยครับ”
อ้าว...ถ้าไม่มีรถตู้ หล่อนก็เซตฉากให้มาวินนั่งข้างๆ ไม่ได้น่ะสิ ว้า...อดเลย เอาจริงๆ คมสันควรสร้างกรุ๊ปไลน์ สมัยนี้เขาไลน์หากันแล้ว จะได้ไม่ต้องมานั่งไล่โทร.หากันแบบนี้ ปล่อยให้หล่อนมโนอยู่ได้ตั้งนาน คิดแล้วอารมณ์เสียวุ้ย!
รออยู่กับคมสันไม่นาน มาวินกับสมาชิกที่เหลือก็มาถึง ชายหนุ่มอยู่ในชุดค่อนข้างเป็นทางการ เนื่องจากตอนบ่ายตามกำหนดการแล้วเป็นงานเลี้ยงอาหารกลางวันต้อนรับกับการปฐมนิเทศ ทุกคนจึงสวมชุดสุภาพ ค่อนข้างเป็นทางการ
เอาวะ ไม่ได้นั่งซบไหล่ แต่อย่างน้อยคมสันก็ยังให้มาวินกับมาริสานั่งรถคันเดียวกันไป ส่วนอีกสองคนก็ไปรถอีกคัน ก็แหงสิ หล่อนเป็นเลขาฯ มาวิน แต่จะให้ดี คมสันไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ แค่หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ไม่ใช่ทีมเดียวกับฝ่ายการตลาด แต่ที่ต้องมาก็คงเป็นเพราะคมสันมีแผนจะโยกย้ายมาทำงานฝ่ายการตลาดเร็วๆ นี้ ผู้จัดการที่เป็นเพื่อนสนิทเลยให้มาชิมลาง
มาวินกับคมสันพูดคุยเฮฮากันอยู่สองคนที่ตอนหน้าของรถ คงจะลืมไปแล้วว่ามาริสานั่งอยู่หลังรถด้วย มาริสาพอรู้ว่าสองคนนี้เพื่อนซี้กัน พอคมสันเป็นคนขับ มาวินก็เลยไปนั่งเบาะข้างคนขับ และให้หล่อนที่เป็นผู้หญิงคนเดียวนั่งเบาะหลังไป เวลามาวินอยู่กับเพื่อน เขาวางตัวอีกแบบ ก็น่ารักดี...สำหรับมาริสา ไม่ว่ามาวินจะเป็นอย่างไรก็อวยไว้ก่อนแหละ มาริสาไม่ได้มีส่วนร่วมในการสนทนาเท่าไร ได้แต่ฟังสองหนุ่มคุยกันสัพเพเหระ แล้วตัวเองก็นั่งอมยิ้มอยู่ข้างหลัง
ไม่ได้อิงไหล่แนบชิด ได้แต่มองท้ายทอยและรอยยิ้มของเขาแวบๆ ...ก็ยังดีล่ะวะ มาริสาเอ๊ย
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **