ทดลองอ่าน ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ : มาลีเริงไฟ : ตอนที่ 10

 

 

ตอนที่ 10

 

 

ญานีนนอนมองเพดานห้องแววตาเลื่อนลอย น้ำตายังไหลเป็นทาง

ดูเอาเถอะ ตอนนี้พวกเขาคงกำลังใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขอยู่ข้างนอกนั่น ในขณะที่หล่อนนั้นต้องมานอนแบ็บอยู่ในห้องอันแสนคับแคบแบบนี้ เพราะความเลวของพวกเขา!

ญานีนทั้งน้อยใจทั้งแค้นใจในสิ่งที่บิดาและชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีของหล่อนกระทำ เพราะเมื่อนึกย้อนกลับไปถึงหลายๆ เหตุการณ์ หล่อนก็เพิ่งตาสว่างว่าตัวเองนั้นโง่เหลือเกินที่ไม่เฉลียวใจอะไรสักนิด!

‘หนู...ขออยู่ต่อได้ไหมคะยาย หนูจะอยู่แก้แค้นพวกเขาค่ะ แก้แค้นให้หมดทุกคนเลย!’

‘ดีมากยายยิหวา...แค้นก็ต้องแก้แค้น ไม่ใช่ใช้วิธีโง่ๆ แบบแม่ของแก เข้าใจไหม!’

คำพูดของยายกับคำประกาศก้องของหล่อนว่าจะอยู่เพื่อแก้แค้น ยังดังก้องในหัวสมอง...

‘แม่แกมันโง่ คิดว่าการฆ่าตัวตายจะทำให้ผู้ชายมันสำนึกผิด เหอะ เป็นไงล่ะ มันก็อยู่กับเมียใหม่บ้านใหม่หลังเบ้อเร่อสบายใจเฉิบ ส่วนแม่แกก็ตกนรกไปตามระเบียบ’

ยายมักด่ามักว่าจิรัญญามารดาของหล่อนว่าโง่ให้ฟังอยู่ซ้ำๆ

ยายคงทั้งเจ็บใจและผิดหวังที่จิรัญญาเลือกแก้ปัญหาชีวิตคู่ด้วยการผูกคอตายประชดวิญญู เพราะทนทุกข์กับความเจ้าชู้ของวิญญูมานานหลายปี และทิ้งหล่อนกับญาตาวีไว้กับยาย

ตลอดมาในชีวิตตั้งแต่เด็กจนโต ญานีนกับญาตาวีเลยเหมือนอยู่อย่างคนขาดหลักพึ่งพิงทางใจ เพราะยายเจิมจันทร์เองก็ไม่เคยให้ความรักความอบอุ่นแก่สองพี่น้องเลย ชอบดุชอบลงโทษรุนแรงเสมอ

ญานีนเคยมองว่าสิ่งที่จิรัญญาทำเป็นสิ่งโง่งม แต่มาวันนี้ วันที่หล่อนเองถูกชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีหักหลังทรยศเช่นกัน หล่อนก็เข้าใจมารดาได้อย่างลึกซึ้งถึงขั้วหัวใจทีเดียวว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ถ้าเลือกได้ หล่อนไม่อยากรับรู้ ไม่อยากแม้แต่จะยอมรับว่า เรื่องทั้งหมดที่หล่อนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มันคือเรื่องจริง มันไม่ใช่แค่สามีที่ทำร้ายหล่อน แต่ยังมีบิดาหล่อนด้วย ความทรมานยิ่งทบทวี...

หล่อนรู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาบิดาไม่เคยภูมิใจในตัวหล่อนและญาตาวีเลย แต่หล่อนก็ไม่นึกว่าจะเกลียดชังกันได้ถึงขนาดนี้!

หญิงสาวหลุดสะอื้นออกมาอย่างเหลือกลั้น นั่นทำให้นางพยาบาลสาวต้องรีบลุกมาดู

“เป็นอะไรคะคุณหนึ่ง ร้องไห้ทำไมคะ”

ญานีนเช็ดน้ำตาแล้วฝืนยิ้ม

“หนึ่งแค่ดีใจที่ตัวเองรู้สึกตัวแล้วน่ะค่ะ พี่เอมไปทำงานต่อเถอะค่ะ”

พยาบาลสาวมองหล่อนอย่างไม่แน่ใจ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็มีเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าตัวบ้าน เรียกความสนใจทั้งจากพยาบาลสาวทั้งจากคนป่วยบนเตียง

“คุณพ่อคุณแม่คุณกลับมาแล้ว พี่ต้องออกไปรายงานอาการของคุณให้ท่านทราบ”

ญานีนคว้าข้อมือฝ่ายนั้นเอาไว้ “อย่าลืมนะคะที่เราตกลงกันไว้ และถ้าท่านจะเข้ามาดูหนึ่ง ก็อย่าเพิ่งให้เข้ามา หนึ่งกลัวจะออกอาการยุกยิกให้ท่านทราบ เดี๋ยวอดเซอร์ไพรส์”

พยาบาลสาวยิ้ม “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พี่ไม่บอกท่านแน่ๆ ส่วนเรื่องที่ท่านจะเข้ามาดูนั้นยิ่งไม่ต้องกลัวเลยค่ะ เพราะตั้งแต่พี่มาดูแลคุณที่นี่ ท่านยังไม่เคยเข้ามาข้างในห้องนี้เลยค่ะ”

มือญานีนร่วงผล็อย ความเจ็บปวดโหมซัดหล่อนอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบแก้มจนมองแผ่นหลังพยาบาลที่เดินออกไปไม่ชัด หญิงสาวพยายามกลั้นสะอื้นแล้วเงี่ยหูฟังบทสนทนาข้างนอกนั่น

“ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้าง”

“ปกติทุกอย่างค่ะ”

“ไอศูรย์มาหรือเปล่า” ประโยคนี้เป็นวารุณที่เอ่ยถาม

“วันนี้ไม่เห็นนะคะ”

“ผมกับคุณวาจะไปอเมริกาประมาณสองอาทิตย์ ถ้าลูกสาวผมมีอะไรแปลกไป คุณก็โทร.เรียกหมอที่ผมให้เบอร์ไว้นั่นน่ะ ให้เขามาตรวจได้เลย แล้วก็เหมือนเดิม อย่าให้ใครเข้ามาได้เด็ดขาด แม้แต่นายเดี่ยว”

“ค่ะ ท่าน...”

บทสนทนาสิ้นสุดลง พร้อมเสียงฝีเท้าของบิดากับมารดาเลี้ยงของหล่อนที่เดินขึ้นข้างบนไป ไม่นาน พยาบาลสาวก็กลับเข้ามาในห้อง

“พี่ตื่นเต้นแทบแย่แน่ะค่ะ กลัวจะหลุดพิรุธให้ท่านเห็น”

“พี่เดี่ยวเคยมาที่นี่เหรอคะ”

“เคยมาสองสามครั้งค่ะ แต่ท่านก็ไม่ให้เข้ามาเหมือนกัน ไล่เขาให้กลับไปดูแลภรรยา หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย”

ญานีนไม่แปลกใจ มีแต่ความเจ็บปวดที่ทบทวี

“นี่ก็เย็นแล้ว คุณหนึ่งหิวหรือยังคะ เดี๋ยวพี่ไปยกอาหารมาให้”

“ไม่อยากกินอะไรเลยค่ะ แต่ยังไงก็ต้องกินใช่ไหมคะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่มีแรงออกไปเซอร์ไพรส์ใครต่อใคร อ้อ หนึ่งมีเรื่องอยากรบกวนพี่เอมอีกอย่างด้วยค่ะ พรุ่งนี้พี่เอมออกไปซื้อมือถือให้หนึ่งหน่อยได้ไหมคะ พรุ่งนี้ยายจะมา เดี๋ยวหนึ่งเอาเงินให้”

“ได้สิคะ ไม่มีปัญหา เออ แต่พูดถึงคุณยายของคุณหนึ่ง ท่านดุ๊ดุนะคะ พี่งี้ไม่กล้าสบตาท่านเลย”

ญานีนไม่เอ่ยอะไรอีก ทั้งที่อยากจะบอกว่าแค่นี้ถือว่าธรรมดา หล่อน ญาตาวี และดมิสาเห็นความน่ากลัวของยายมากกว่านี้ร้อยเท่าพันทวี

ภาพที่ยายจับหล่อนกับญาตาวีมัดไว้กับเสาเรือนแล้วเฆี่ยน เพียงเพราะหนีออกไปเล่นนอกบ้าน ภาพที่ยายตบหน้าหล่อนจนเลือดกบปาก ตอนหล่อนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม เพียงเพราะหล่อนอาศัยรถยนต์ของบ้าน ‘พี่นพ’ กลับบ้าน ภาพที่ญาตาวีโดนเฆี่ยนเพราะมีชายหนุ่มมารับไปเรียน ยังชัดเจนในความรู้สึก ไหนจะดมิสาลูกพี่ลูกน้องของหล่อนด้วยอีกคนที่มักโดนตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรงแม้เป็นความผิดอันน้อยนิดก็ตาม มีหลานเพียงคนเดียวที่ยายไม่เคยทำอะไรเลยคือพี่ดีเลิศ พี่ชายของดมิสา

แต่ทั้งหมดนั้นยังไม่ทำให้หล่อนกลัวยายได้เท่าวันนี้ที่รู้ว่ายายเป็นอะไร!

‘ใช่ ฉันใช้วิธีเดียวกันกับที่พวกมันใช้กับแก’

ยายยอมรับตรงๆ ตอนที่หล่อนถามเรื่องที่เข้ามาช่วยหล่อนได้

และนั่นทำให้หล่อนถึงกับช็อก ด้วยไม่เคยรู้มาก่อน แม้แต่สักนิด หล่อนก็ไม่เคยสงสัย! อย่างมากก็แค่เห็นยายชอบเข้าไปอยู่ในห้องพระเป็นเวลานานๆ และนั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่หล่อนและคนในบ้านรับรู้มาตลอด เพราะตั้งแต่จำความได้ยายก็สั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในห้องนั้นแล้ว ตอนแรกหล่อนก็แค่คิดว่ายายคงกลัวข้าวของเสียหาย แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่น่าใช่ ห้องนั้นคงเป็นห้องที่ยายใช้ทำพิธีต่างๆ ที่เกี่ยวกับคุณไสยมนตร์ดำ!

‘ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยแกแก้แค้นพวกมันทั้งหมด แต่คราวนี้...ด้วยวิธีของฉันบ้าง’

‘แล้วทำไม เอ่อ ยายถึง...เป็นแบบนี้ล่ะคะ’

‘ถามยังกับฉันเป็นโรคร้าย!’ เจิมจันทร์เสียงเกรี้ยว

‘มันยังไม่ถึงเวลาที่แกต้องรู้ ตอนนี้แกรู้แค่ว่าฉันสามารถช่วยแกได้ก็พอ’

ใช่! และหล่อนก็ตกลงให้ยายช่วยแล้ว!

----------

ญานีนรู้สึกตัวตื่นในวันต่อมาด้วยความรู้สึกสดชื่นขึ้น อาจเพราะได้ทานอาหารอิ่ม ได้เดินออกกำลังกายภายในห้องนี้บ้าง แม้จะนอนหลับไม่สนิทนักก็ตาม แต่ร่างกายหล่อนแข็งแรงกว่าเดิมแน่นอน

หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพบว่า ข้างเตียงมียายนั่งมองหล่อนอยู่ ส่วนพยาบาลสาวเอมอรตอนนี้ยังนอนหลับอยู่บนเตียงเล็กๆ ของเจ้าตัว

“คุณยาย มานานแล้วเหรอคะ”

“มาถึงเมื่อกี้ ตอนนี้ฉันทำให้ทุกคนในบ้านหลับอยู่ พวกเขาจะหลับประมาณหนึ่งชั่วโมง แกก็รีบคิดวิธีแก้แค้นให้ออกก็แล้วกัน...อ้อ เอานี่ไป ได้ยินแกบอกว่าอยากได้”

เจิมจันทร์ยัดโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งใส่มือญานีน

“ขอบคุณค่ะยาย”

ญานีนยกมือไหว้ด้วยความดีใจ ขณะเดียวกันก็อดทึ่งไม่ได้ที่ยายรู้

หญิงสาวจัดการเปิดเครื่อง เซ็ตระบบใหม่ แล้วเข้าไปดูความเคลื่อน ไหวของอัคนีและวิรัลยาที่ปลอมตัวเป็นหล่อนทันที ถึงแม้จะไม่ใช่คนดังชนิดที่รู้จักกันทั่วฟ้าเมืองไทย แต่หล่อนมั่นใจว่าเมื่อไหร่ที่มีการออกงานคู่ของหล่อนกับสามี ยังไงก็ต้องมีคนถ่ายภาพลงโซเชียลเสมอ ส่วนหนึ่งเพราะหล่อนเป็นน้องสาวของญาตาวีเลยค่อนข้างถูกจับตามองเป็นพิเศษ

ญานีนน้ำตาไหลเมื่อเห็นความรักความสุขที่โชยชายออกมาจากคนทั้งคู่

แต่พอหันไปเห็นหน้ายาย แววตาดุที่จ้องตอบกลับมาทำเอาหลาน สาวขนลุกซู่ รีบกรีดน้ำตาทิ้ง

“หนูจะทำศัลยกรรมหน้าให้เหมือนนังหนึ่งค่ะ มันเป็นหนูได้ หนูก็จะเป็นมันออกไปสู้กับมัน หนูจะเอาทุกอย่างคืนจากมันและจะทำลายมันทุกวิถีทาง!”

“ถ้าแกอยากหน้าเหมือนนังหนึ่ง แกไม่ต้องไปศัลยกรรมหรอก ฉันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น”

“วิธีอะไรคะ”

“เอาเป็นว่ามันขึ้นอยู่กับแกว่าจะยอมทำตามฉันหรือเปล่า...แต่ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน แกคงเข้าใจ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ไม่มีใครได้อะไรมา...โดยไม่เสียอะไรไป ถ้าแกยอมตกลง ฉันจะทำให้แกชนะพวกมันแบบขาดลอย”

“หนูยอมทำทุกอย่างค่ะยาย ขอแค่ให้หนูได้แก้แค้นพวกเขาก็พอ” ญานีนไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย หล่อนตอบเสียงมั่นคงหนักแน่น นาทีนี้หล่อนไม่มีอะไรต้องเสีย ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว!

 

 

** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com