ทดลองอ่าน ปลายปากกาอินเลิฟ 2 เรื่อง 'เลิฟโค้ช คนที่รัก' รักนะ นายโค้ชนอกตำรา : ตอนที่ 10

 

 

ตอนที่ 10

 

 

ลูกค้าที่มาเดินใน ‘ฟู้ดวิลเลจ’ ส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางที่พอมีฐานะ ที่นี่มีสินค้าทั้งในส่วนที่เป็นของสดจำพวกเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้ แบบตลาดสดทั่วไป มีทั้งบูทขายสินค้าพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมไปถึงร้านกาแฟ ร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงาม

วันอาทิตย์เป็นวันที่ลูกค้าพากันมาเดินตลาดหนาแน่นกว่าวันอื่น สุดเขตและของขวัญช่วยกันขายมะม่วงน้ำปลาหวานที่แผงตัวเองสนุกสนาน ส่วนใหญ่คนที่เจรจาตอบคำถามลูกค้าจะเป็นของขวัญ ส่วนคนที่ดูแลเรื่องรับ-ทอนเงิน เป็นสุดเขต ซึ่งทั้งสองหนุ่มสาวตกลงกันแล้วว่า เงินทั้งหมดที่ได้จากมะม่วงน้ำปลาหวานให้รวมในกระเป๋าเดียวกันก่อน ขายเสร็จค่อยมานับแล้วแบ่งกันไปตามสมควร

ของขวัญปอกและหั่นมะม่วงลูกแล้วลูกเล่าแบบไม่เสียดายของ เพื่อเอามาวางให้ลูกค้าได้ชิมพร้อมกับน้ำปลาหวานของเธอ

“ชิมก่อนได้ค่ะ ไม่ซื้อไม่เป็นไรนะคะ”

เธอร้องเชิญชวนอย่างอ่อนหวานเมื่อมีลูกค้าของตลาดเดินเกร่ๆ มาแถวหน้าร้าน และเมื่อหลายคนได้ยืนชิมแบบไม่อั้น ต่างก็พากันซื้อติดมือกันไป

“อร่อยดีค่ะแม่ค้า นี่มาขายทุกวันหรือเปล่า ทำไมไม่เคยเห็น”

“เพิ่งวันแรกครับ” สุดเขตตอบและพูดต่อ “แผงนี้เป็นของเพื่อน ปกติเขาขายผลไม้ที่นี่ แต่วันนี้ติดธุระ ผมก็เลยมาแทน”

“อ้าว” ลูกค้ามีสีหน้าผิดหวัง “แล้ววันอื่นจะมาขายอีกไหม นี่ชิมนิดเดียว พี่ชักติดใจแล้วนะ”

“คงขายได้เฉพาะวันนี้ครับ ถ้าคุณพี่สนใจน้ำปลาหวาน ก็ติดต่อตามเบอร์โทรที่กระปุกได้นะครับ”

ลูกค้าส่ายหน้า “โอ๊ย แบบนั้นไม่สะดวกหรอกค่า เสียดายจัง น่าจะมาขายอีก”

“ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะกลับไปคิดดูอีกที บางทีเราอาจจะหาแผงใหม่สักแผงก็ได้”

“ดีค่า หาให้ได้ แล้วจะแวะมาอุดหนุนคุณสองคนอีกนะคะ นี่เป็นแฟนกันใช่ไหมเนี่ย”

“เอ่อ...” สุดเขตตะกุกตะกัก หันไปมองของขวัญ ก็เห็นก้มหน้าจัดของงุด

“ดีจัง ช่วยกันทำมาหากิน ส่วนใหญ่ที่พี่เห็น ผู้ชายไม่ค่อยออกมาช่วยแฟนขายของหรอก”

ลูกค้าผละไปแล้ว สุดเขตก็หันไปสบตาของขวัญ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนเอ่ยกับเธอในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประโยคหลังๆ ของคุณพี่คนนั้น

“เอาไงดี ลูกค้าเริ่มติดแล้ว ถือว่ามีดีมานด์แล้ว แต่ซัพพลายยังนึกไม่ออก”

“เรามาใหม่ๆ ดูแปลกใหม่ของตลาดนี้หรือเปล่าคะ วันนี้เลยขายดี”

เธอแสร้งไม่สนใจคำพูดของลูกค้ารายนั้นเช่นกัน หันมาตอบคำถามเขา ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าแค่มาวางไม่นาน คนก็แห่กันมาซื้อเหมือนแจกฟรี มองน้ำปลาหวานที่เหลืออยู่เพียงสองกระปุกก็นึกเสียดายที่ทำมาน้อย

“พี่ว่าไม่เกี่ยวมั้ง คงเพราะน้ำปลาหวานอร่อยจริงๆ แถมแม่ค้าก็...” สุดเขตหยุดพูดแบบลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นคนฟังมีสีหน้าอยากรู้เขาจึงพูดต่อ “แม่ค้าสวย พูดจาดี ใครๆ ก็อยากอุดหนุน”

เธอค้อนให้ ก่อนจะเสไปหยิบมะม่วงมาหั่นอีกลูก ชายหนุ่มจึงอวยต่อ

“พี่พูดจริง เห็นเรานิ่งๆ แต่เวลาขายของกลับพูดคล่องปรื๋อ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ขนาดนั้น พี่เสียอีก ปกติพูดเก่งอยู่นะ แต่เวลาแบบนี้กลายเป็นใบ้ไปเลย พูดไม่ออก”

“เป็นเพราะลูกค้าถามในเรื่องอาหารที่ขวัญถนัดไงคะ พวกเครื่องจิ้มต่างๆ อะไรพวกนี้ เขาถามเรื่องที่ขวัญพอรู้ เลยอธิบายได้หมด”

“นั่นแหละ เขาเรียกว่าเก่งไง”

“โธ่ พี่เขตจะมาชมกันเองทำไมนักหนาคะ นั่น มีคนเดินมาอีกแล้ว ค่อยคุยค่ะ เดี๋ยวขวัญเชิญชวนก่อน”

แล้วเธอก็หันไปใส่ใจกับลูกค้าข้างหน้าทันที สุดเขตกอดอกอมยิ้ม มองเธออย่างปลื้มๆ มาดแม่ค้าของเธอวันนี้เขาให้เต็มสิบ ไม่หักสักคะแนน รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ชวนมาแล้วเธอไม่ต้องมานั่งตบยุงให้เขารู้สึกผิด เอ...หรือจะหาทางเช่าแผงขายอย่างจริงๆ จังๆ แต่ก็นั่นละ น้ำปลาหวานของเธอ เธอคงทำได้ตลอด แต่ไอ้มะม่วงเบาของเขานี่สิ มาถึงวันนี้แทบจะไม่เหลือติดต้น ไม่รู้เมื่อใดมันจะออกดอกออกผลให้พอขายได้อีก

คิดแล้วทั้งขำทั้งเซ็ง ก่อนนี้ตอนที่หาประโยชน์ไม่ได้ มันออกเอา ออกเอา ห้อยเป็นพวงระย้าเต็มต้น แต่พอจะเก็บขายเป็นเรื่องเป็นราว ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่เขาเก็บได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น

เพียงบ่ายสอง สินค้าของสองหนุ่มสาวก็ขายหมดเกลี้ยง ทั้งคู่เก็บข้าวของเสร็จก็ชวนไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านติดแอร์ร้านหนึ่งในบริเวณนั้น

“ไม่อยากเชื่อว่าขายดีจนไม่มีเวลากินข้าว” ชายหนุ่มว่า ขณะที่ตักกุ้งตัวโตๆ ในชามต้มยำให้เธอ “เดี๋ยวเงินที่ได้ทั้งหมด น้องเอาไปแล้วกัน”

มือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงัก “อะ...อะไรกันคะ จะมาให้ขวัญทั้งหมดได้ไง เราคุยกันแล้วว่าจะแบ่งกันนี่คะ ขวัญก็บอกไปแล้วว่าลงทุนไปเท่าไร กำไรที่ได้ เราก็แบ่งๆ กันเถอะค่ะ”

“น้องเอาไปเถอะ จะได้พอค่าน้ำค่าไฟ รับปากที่บ้านแล้วไม่ใช่หรือ”

“ต่อให้แบ่งกัน ขวัญว่ามันก็พอนะคะ ไม่เอาหรอกค่ะ พี่เป็นคนชวนแล้วก็เหนื่อยไม่แพ้ขวัญนะ จะมายกให้ขวัญทั้งหมดได้ยังไง”

“พี่ค่อยเอารอบหน้าละกัน” เขาตัดบท ก้มลงซดต้มยำซู้ดใหญ่

“ไม่ได้ค่ะ ไม่เอารอบนี้ก็ไม่มีรอบหน้า” เธอยังยืนกรานหนักแน่น “ค้าก็ค้าสิคะ พี่อย่าทำให้ขวัญรู้สึกว่าเป็นคนน่าสงสาร สมเพชอะไรแบบนั้นเลย”

คราวนี้ชายหนุ่มวางช้อน มองคนที่กำลังมองเขาตาเขม็ง

“โอเคๆ เดี๋ยวแบ่งกัน แต่ห้ามคิดแบบนั้นอีก พี่จะสมเพชน้องได้ยังไง มีแต่จะชื่นชมและมองเห็นความสามารถ ถ้าจะสมเพช พี่สมเพชตัวเองมากกว่าที่...”

“ที่อะไรคะ...”

 

 

อ่านฉบับเต็มก่อนใคร! ในรูปแบบ eBook (คลิก) 

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com