รุ่งเช้า ขณะที่ของขวัญเดินไปถึงปากทางเข้าออกหมู่บ้าน ซิตีคาร์คันสีเขียวก็โผล่มาจากข้างหลังอีกแล้ว และเช่นเคย เจ้าของรถผลักบานประตูผลัวะออกแล้วยื่นหน้ามาบอก “ขึ้นมาเลย พี่ไปส่ง”
หญิงสาวมีท่าทีลังเล รู้สึกแปลกใจจนเอะใจ มันจะบังเอิญเกินไปไหม นี่สุดเขตจะมาไม้ไหนกับเธอหรือเปล่า แค่อาสาไปรับขากลับทุกวันก็ถือว่าชวนให้คิดแล้ว นี่ยังจะไปส่งอีก
“ขึ้นมาสิ” เขาเรียกอีกครั้ง ก่อนจะพูดรัวเร็วตามมา “สาบานๆ ไม่ได้ตั้งใจจะมารับ บังเอิญจริงๆ”
นั่นละ เธอถึงค่อยก้าวขึ้นไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเขาเป็นวันที่สาม ใจยังตงิดๆ แม้ความบังเอิญจะมีอยู่จริงในโลก แต่เจอเขาติดๆ กันแบบนี้ ใครบ้างจะไม่คิดว่าเขาจงใจ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ชายหนุ่มถาม มีรอยยิ้มผุดขึ้นเหมือนจะขำ “เห็นพี่เป็นพวกหนุ่มวัยรุ่นริจีบสาวหรือไง ที่เทียวรับเทียวส่งน่ะ”
เขาช่างพูดอะไรตรงๆ ซึ่งการพูดแบบนี้ ทำให้เธอคลายกังวล และรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที
“อธิบายเพิ่มอีกหน่อยนะ คือที่พี่บอกว่าจะไปส่งน้อง ไม่ใช่จู่ๆ พี่ใจดีขนาดนึกจะขับรถออกมาส่ง มันบังเอิญจริงๆ เช้านี้พี่มีธุระที่ตึกนั่น ตึกที่น้องอบรมนั่นละ เมื่อคืนมีคนจากร้านกิฟต์ช็อปโทร.มา เขาจะจ้างพี่ให้ทำเลย์เอาต์โฆษณาร้านให้ พี่เลยจะเข้าไปถ่ายรูปพวกสินค้าที่ร้านเขา น้องว่าบังเอิญไหมล่ะ เมื่อคืนเจ้าของร้านนั้นแวะปั๊ม แล้วไปนั่งกินกาแฟที่ร้านนั้นพอดี”
“โห...” หญิงสาวตาโต ดีใจไปกับชายหนุ่มอย่างที่สุด “ยินดีด้วยนะคะ คิดไม่ถึงว่าจะได้ผลทันตาขนาดนี้”
“นั่นสิ พี่ก็นึกไม่ถึง คุยกันทางโทรศัพท์ปั๊บ เช้านี้เขาก็เรียกทำงานเลย แล้วถ้าเขาชอบใจผลงาน เขาบอกว่าจะแนะนำเพื่อนๆ เขาให้อีกด้วย”
“ว้าว! งานเข้าไม่หยุดแน่ พี่เขตมาถูกทางจริงๆ”
“ฟลุกด้วยแหละ ลงโฆษณาในเพจตัวเองตั้งนานไม่มีคนติดต่อ แค่เอาไปวางที่ร้านกาแฟแป๊บเดียว ได้เรื่องเลย เพราะงั้น...” เขาหันมาทางเธอ “ดวงของเรามันเริ่มจะมาแล้วนะ น้องเองก็อย่าเพิ่งท้อ”
“เราเหรอคะ ดวงพี่เขตคนเดียวต่างหาก” เธอแย้ง
“ไม่ใช่หรอก ดวงเราสองคนนั่นแหละ พี่ทำคนเดียว มือไม่ขึ้น แต่พอไปกับน้อง ก็เฮงทันที”
เขาพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง แววตาเป็นประกายสดใส พูดคุยกับเธออีกพักหนึ่ง ชายหนุ่มพารถเข้าเขตตัวตึก
เมื่อจอดรถแล้ว ทั้งคู่ก็เดินเข้าตัวอาคารมาด้วยกัน ชายหนุ่มมองไปรอบๆ แล้วนึกชมการออกแบบที่สวยงามทันสมัย ทั้งยังไม่ลืมรักษาสภาพแวดล้อมเขียวๆ
“เป็นไงคะพี่เขต เห็นมองนั่นมองนี่เหมือน...” เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจแซว “...เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง”
สุดเขตหัวเราะลั่น “ใช่เลย ยอมรับว่าตื่นตาตื่นใจมาก อาคารนี้สวยจริงๆ ค่าเช่าคงแพงลิบแน่ๆ มิน่า ค่าคอร์สของน้อง เขาถึงคิดตั้งหมื่นกว่า”
“นี่ถูกแล้วนะคะ เป็นคอร์สโพรโมชัน อย่าลืมว่ามีอบรมตั้งห้าวัน แถมไลฟ์โค้ชยืนหนึ่งของประเทศ เออ แล้วพี่เขตได้ลองเซิร์ชฟังหรือยังคะ”
“ยัง เมื่อคืนมัวแต่ดีใจที่ได้จ็อบ เดี๋ยวคืนนี้ถ้าไม่ลืม พี่จะฟังแน่ๆ”
“แล้วแต่พี่นะคะ ขวัญแค่แนะนำ ไม่ได้บังคับอะไร มาคิดอีกที เรื่องพวกนี้อาจไม่ใช่แนวพี่ก็ได้ เพราะพี่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว พี่ทำอะไรก็ปังไปหมด แค่วันเดียวก็งานเข้า”
ชายหนุ่มมองคนพูด เหมือนไม่แน่ใจว่านั่นเป็นคำชมจากใจจริงๆ แต่แล้วเขาก็พบว่าแววตาใสซื่อคู่นั้น ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นคนช่างเหน็บแนมอะไร
“ขอบใจนะที่ชม แต่พี่ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ อ้อ เดี๋ยวเสร็จงานจากนี่พี่ต้องไปต่อที่อื่นอีก ที่บอกไว้ว่าจะมารับวันนี้ สงสัยไม่ทัน”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ พี่เขตตามสบายเลย นี่พี่กำลังจะทำให้ขวัญเคยตัวนะคะ สองสามวันมานี้ มีสารถีประจำตัวตลอด”
“ดวงไง บอกแล้วน้องกำลังจะดวงดี งั้นแยกกันตรงนี้ก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน มีอะไรก็โทร.หรือไลน์หาพี่ได้ เอ้านี่ นามบัตรพี่ ไปเมมฯ ในเครื่องเอาเอง”
เขายื่นนามบัตรให้สาวเพื่อนบ้านร่วมซอย แล้วก็เดินลิ่วแยกไปอีกทางทันที ความจริงเสร็จจากงานนี้ เขาก็ไปต่อที่บริษัทของเพื่อน แล้วจากนั้นก็น่าจะยังมีเวลามารับเธอทัน ได้คุยกับผู้หญิงที่น่ารักอย่างเธอก็เพลินดี แต่ก็นั่นแหละ เขาคิดว่าต้องรักษาระยะห่างกับเธอบ้างถ้ายังอยากรักษามิตรภาพที่ดีงามไว้
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **