คนอนุรักษ์นิยมแบบเขา ชอบผู้หญิงสวมชุดเหมือนแม่ชี ไม่มีทางยอมแต่งงานกับเธอที่สวมชุดนี้เดินคู่กับเขาหรอก รงรองไม่ได้มองไปที่บิดามารดาของเขา โดยเฉพาะคนเป็นบิดาที่ดูเหมือนจะแอบหันไปกลั้นขำ ส่วนมารดานั้นยืนอ้าปากค้าง รงรองมองสบตานรธีร์อย่างมั่นใจ ชุดนี้ถึงจะใช้เวลาแก้ไม่นานจนชายกระโปรงยังรุ่ยอยู่ แต่ด้วยฝีมือการตัดเย็บที่เรียนมาจากมารดาของโอลิเวียก็ทำให้รงรองเปลี่ยนชุดแต่งงานแบบแม่ชี กลายเป็นชุดแบบเซ็กซี่โชว์สัดส่วนได้ในเวลาแค่อึดใจเดียว
“สวัสดีค่ะพี่ธีร์ ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ”
เธอยกมือไหว้เขา ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่ดูคมเข้มขึ้นกว่าที่เจอกันครั้งล่าสุดอย่างแอบทึ่งนิดหน่อย รงรองไม่เคยเข้าใกล้เขาขนาดนี้ด้วย เธอแทบจะไม่เคยสังเกตเลยว่าไรหนวดเคราของเขามันดูเซ็กซี่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
หญิงสาวปัดความคิดประหลาดทิ้ง ก่อนจะยิ้มยั่วโมโหเขา
“ดีใจที่ได้รู้ว่าจะได้แต่งกับพี่นะคะ หวังว่าพี่จะเอ็นดูงามเหมือนเดิมนะ”
มารดาของนรธีร์หน้าแดงไปหมดด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจ แต่เมื่อเห็นว่าว่าที่ลูกสะใภ้ดูโอเคกับการแต่งงานกับลูกชายคนโตของนาง เลยพยายามไม่สนใจเรื่องชุดราคาแพงนั่น ทั้งที่ถ้าไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลรักษ์สกุลแล้วละก็ มาแก้ชุดจากชุดสวยๆ เจ้าหญิงๆ กลายเป็นชุดโชว์นั่นโชว์นี่แบบนี้ ได้มีเรื่องกับนางแน่!
นรธีร์มองน้องน้อยในวัยเด็กของเขาด้วยดวงตาพราวไปด้วยความครุ่นคิด
เขายืนนิ่งอยู่นาน ก่อนจะยิ้มมุมปาก
นี่อยากให้เขาเป็นฝ่ายพังงานแต่งงานให้ล่ม จนต้องลงทุนขนาดนี้เชียว!
พอเห็นเธอทำแบบนี้ เขาเองก็อยากจะรู้เสียแล้วสิ ว่าเวลาสามปีที่เธอหายไป รงรองเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จะเกินมือที่เขาจะเยียวยาเธอให้หายเพี้ยน แล้วกลับมาเป็นรงรองคนเดิมได้หรือเปล่า
แต่เท่าที่ดวงตาคมหลุบลงมองเนินทรวงอวบอัดของเธอแล้ว เขาว่าเธอดูโตขึ้นเป็นกองเลยเชียว เอ...หรือว่าเมื่อก่อนเธอซ่อนรูป เขาก็ไม่แน่ใจ ไม่เคยได้มองเต็มตาแบบนี้ซะด้วยสิ
ถึงแม้รงรองจะผ่านการถูกจ้องมองด้วยสายตาหลากหลายรูปแบบมาตลอดเวลาที่เป็นนางแบบก็ตาม แต่เธอไม่เคยรู้สึกร้อนผ่าวกับสายตาของผู้ชายคนไหนได้เท่าเขา ดวงตากลมโตกะพริบเบาๆ เธอพยายามซุกซ่อนความเขินอายไว้ภายใต้สีหน้าเรียบนิ่ง แม้ว่าพราวประกายในดวงตาของเธอจะสั่นไหวก็ตามที
รงรองก้าวถอยเมื่อเขาก้าวเข้าใกล้ชิดเธอเกินงาม หัวใจสาวกระตุกเมื่อชายหนุ่มก้มลงมายิ้มให้ ยิ้มแค่ปาก ตาเขาไม่ยิ้ม! ก่อนที่นรธีร์จะพูดโดยไม่หันไปมองทางด้านหลังเลย
“แม่ครับ ชุดเจ้าบ่าวอยู่ไหน” และแล้ว เขาก็ยิ้มให้เธอทั้งปากทั้งตา “ผมชักอยากใส่แล้วสิ”
คนเป็นแม่แทบจะกระโดดกับคำบอกนั้นของลูกชายคนโต นางรีบกุลีกุจอสั่งให้สาวใช้เตรียมชุดให้ลูก ขณะที่สามีของนางยังคงยืนบื้อใบ้ชนิดที่ถ้าถามก็คงบอกว่ายังไงก็ได้แล้วแต่นางเช่นเคย
ส่วนทางด้านนรธีร์นั้น เขายกมือขึ้นประคองใบหน้างดงามของว่าที่ภรรยาเฉพาะกิจ ก่อนจะก้มลงมาจนเธอถึงกับยืนตัวแข็ง ตาโต ด้วยความตื่นตะลึง
อะไร ยังไง ทำไม
นี่มันต่อหน้าพ่อแม่เขานะ!
แต่แล้วชายหนุ่มก็ปาดปลายนิ้วโป้งกับแก้มของเธอจนสีลิปสติกติดนิ้วเขา รงรองเลยเพิ่งนึกได้ว่าเธอมัวแต่ใช้เฉิดกับฉายเป็นลูกมือตัดชุดเจ้าสาวใหม่ จนลืมให้ช่างแต่งหน้าช่วยลบลิปสติกที่เปื้อนแก้มไปจนถึงใบหูออกให้เสียสนิท
ชายหนุ่มยืดตัวยืนตรง เขาแตะปลายนิ้วโป้งกับริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แล้วดึงมือออกมาล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยสีหน้ากวนโทสะ เขาพูดเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ก่อนจะแต่งตัวมายั่วพี่ ช่วยแต่งหน้าดีๆ หน่อย พี่จะได้จูบลง”
รงรองยืนอึ้ง มองเขาหมุนตัวกลับไปหาบิดามารดาและถอดเนกไทออก ก่อนจะตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใน เผยให้เห็นมัดกล้ามแบบบุรุษที่ไม่เคยละเลยการดูแลตัวเอง เขาหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเหมือนจะถามว่า จะอยู่ดูจนเขาถอดกางเกงเลยไหม แล้วปลดเข็มขัดออก ตอนนั้นเองที่รงรองได้สติ เธอหมุนตัวกลับออกมาจากห้องแล้วปิดประตูดังปัง ก่อนจะยืนพิงประตูอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ และความงุนงงในแววตา
นี่เธอทำอะไรพลาดไปนะ...
โธ่เอ๊ย! ไม่น่าไปยั่วโมโหเขาเลยงาม งานเข้าแล้วไหมล่ะทีนี้!
หญิงสาวได้แต่ครวญในใจด้วยความโมโหตัวเอง ก่อนจะใช้หลังมือเช็ดปากและแก้มหวังจะให้สัมผัสของเขาหมดไป หัวใจของเธอจะได้เลิกเต้นตึ้กตั้กตึ้กตั้กแปลกๆ เสียที
แต่เช็ดเท่าไร สัมผัสของเขายิ่งเหมือนฝังลึก...
รงรองตบแก้มตัวเองเรียกสติให้หายสับสน ก่อนจะเดินกลับห้องแต่งตัวเจ้าสาว เพราะทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ฮึ! ถึงคราวนี้จะพลาด แต่พอแต่งงานกัน รับรองเลยว่าเธอจะทำให้เขาปวดหัวจนต้องเป็นฝ่ายขอให้เธอเซ็นใบหย่าให้ได้เลย!