ทดลองอ่าน ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ : เลื่อมลายพรายจันทร์ : ตอนที่ 16

 

 

ตอนที่ 16

 

 

กริ๊งๆ

เสียงกริ่งจักรยานดังมาแต่ไกลคลอไปกับเสียงนกร้องยามเช้าตรู่ เมื่อดมิสาหันมองไปจึงเห็นลุงจ่าในชุดตำรวจกำลังปั่นจักรยานตรวจดูความสงบเรียบร้อย ลุงจ่าเป็นตำรวจมานานกว่าอายุของดมิสา เขาเป็นชายวัยกลางคนร่างเล็ก สูงโปร่ง ใช้จักรยานรุ่นโบราณมาตั้งแต่สมัยเธอยังเด็ก และใช้แบบเดิมๆ มาจนเธอโตเป็นสาว ไม่ว่าจะเปลี่ยนจักรยานไปกี่คันก็ตาม

ลุงจ่าจอดจักรยานตรงหน้าเธอที่ยืนรอจิณไตยอยู่หน้ารั้วบ้านเสน่ห์จันทน์ เขาขยับหนวดที่ไว้ตามนายจันหนวดเขี้ยวแห่งบางระจันอย่างมีมาด ยักคิ้วหลิ่วตาตามสไตล์ ก่อนทัก

“รถเสียเหรอคุณหนูมิ้งค์ มาครับ เดี๋ยวผมพาไปส่งหน้าปากซอย”

“เปล่าค่ะลุงจ่า” ดมิสาตอบอย่างสนิทสนม เธอรู้จักเขามานานเท่าอายุตัวเอง “มิ้งค์รอเพื่อนน่ะค่ะ เดี๋ยวเพื่อนมารับ นั่นไง มาแล้วค่ะ”

เมื่อจิณไตยแล่นรถมาจอดเทียบรับ ลุงจ่าก็จอดจักรยานกุลีกุจอเปิดประตูให้ดมิสาแล้วตะเบ๊ะให้จิณไตยที่นั่งอยู่ในรถเมื่อหญิงสาวเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว

“แฟนคนแรกของคุณหนูมิ้งค์ มีอะไรเรียกใช้ผมได้นะครับ ลุงจ่ายินดีรับใช้”

“ลุงจ่าคะ!” ดมิสาเขินก็เขิน ขำก็ขำ แต่ไม่ทันจะพูดอะไรต่อจากนั้น ลุงจ่าก็ปิดประตูรถให้แล้วเดินผิวปากไปขึ้นจักรยาน ปั่นกลับไปทางหน้าปากซอยเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยต่อไป เมื่อไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติจึงกลับสถานีตำรวจ แล้วปั่นจักรยานกลับมาตรวจดูอีกทีตอนเย็น

เมื่อใกล้ถึงเวลาคลินิกเปิด ที่หน้าบ้านเสน่ห์จันทน์ก็เริ่มมีผู้ใหญ่พาคนไข้เด็กๆ ทยอยมารอพบหมอแล้ว ลุงจ่าตะเบ๊ะทักทายสมคิดที่ออกมาเปิดประตูรับคนไข้ ซึ่งสมคิดก็ตะเบ๊ะตอบอย่างร่าเริง ก่อนถูกคนไข้หญิงคนหนึ่งชนเข้า

“เอ๊ะ!”

สุกัญญา เสน่ห์จันทน์ ตวัดสายตาที่กรีดอายไลเนอร์หนาเข้มไปมองอย่างเกรี้ยวกราด แต่แล้วก็ชะงัก สะบัดหน้าไปอีกทางอย่างไว้มาดเมื่อเห็นว่าเป็นหนุ่มคนสวนรูปหล่อจนชวนตะลึง มิหนำซ้ำเสื้อม่อฮ่อมมอซอที่เขาใส่ไม่ได้ติดกระดุมเสื้อสักเม็ด เผยให้เห็นมัดกล้ามท้องเป็นลอนสวย ชายหนุ่มผูกผ้าขาวม้าไว้ตรงขอบกางเกงเก่าๆ ราวกับว่าหลุดออกมาจากชนบทไกลโพ้น ไม่ได้อยู่บ้านอดีตขุนนางชานเมือง

แปลก แต่หล่อ เอาเถอะ สุกัญญาให้อภัย

“ครั้งนี้ฉันไม่ถือโทษ แต่คราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน”

สุกัญญาสะบัดหน้าเดินไปนั่งหยิบบัตรคิวรอที่เก้าอี้ยาวหน้าคลินิกรวมกับคนไข้คนอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ทำท่ารังเกียจชาวบ้านที่แต่งตัวดูยากจนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ตัวหล่อนก็ใส่แค่เสื้อยืดสกรีนลายการ์ตูนกับกางเกงยีนขาสั้นธรรมดา ไม่ได้ดูเลิศหรูไฮโซไปกว่าใครตรงนั้นเลย

“ใครวะไอ้หนุ่ม” ลุงจ่าหันไปถาม เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อนเลย

สมคิดยกมือเกาหัวแกรกๆ พลางส่ายหน้า

“ไม่รู้ครับ ผมก็เพิ่งเจอวันนี้เหมือนกัน”

สองหนุ่มต่างวัยมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนแยกย้ายไปคนละทาง ลุงจ่าตรวจความเรียบร้อยต่อ ขณะที่สมคิดก็หันไปพรวนดินให้ต้นประดู่ทีละต้น เขาพรวนไปเรื่อยทั้งปีเมื่อว่างจากงานอื่นเพราะต้นประดู่มีเยอะจนเป็นป่า คนอย่างเขาอยู่เฉยไม่ได้ กล้ามเนื้อมันเรียกร้องหาการออกกำลังกาย จึงทำงานหนักจนกล้ามเป็นมัด และเขาก็ภูมิใจกับร่างกายแข็งแรงของตัวเองเหนืออื่นใด

พยาบาลนภาเดินทางมาเปิดคลินิกรอ เรียกคนไข้ซักประวัติได้ไม่นาน ดมิสาและเถลิงเกียรติก็มาถึง กุมารแพทย์ทั้งสองยกมือรับไหว้คนไข้ตามปกติ ก่อนแยกย้ายเข้าห้องตรวจของตนซึ่งมีอยู่เพียงสองห้องในคลินิกแห่งนี้

ลับหลังคุณหมอได้แค่อึดใจ สุกัญญาก็ลุกขึ้นเดินตามไปแตะประตูห้องที่มีป้ายชื่อดมิสาเพื่อจะเลื่อนเปิด แต่ถูกนภาตามมารั้งไว้

“ยังไม่ถึงเวลาตรวจนะคะ กรุณารอคิวค่ะ”

“อะไรกัน!” หญิงสาวตวาดแหวใส่ “เป็นแค่พยาบาลอย่ามาสาระแน ฉันสุกัญญา เสน่ห์จันทน์...นามสกุลเดียวกับเจ้าของบ้าน ทำไมจะตรวจก่อนไม่ได้!!”

ประตูห้องตรวจถูกเลื่อนเปิดทั้งสองห้อง แต่ดมิสาบอกเถลิงเกียรติให้เข้าไปเตรียมตัวก่อน เธอจะจัดการตรงนี้เอง ชายหนุ่มจึงมองจิกคนไข้สาวอย่างไม่พอใจก่อนกลับเข้าห้องไป

“ขอดูบัตรคิวค่ะ”

เธอยื่นมือไปรับบัตรคิวที่ระบุเลขสิบสามเอาไว้ ก่อนยื่นคืนให้และเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง น้ำเสียงเด็ดขาด

“ถ้าจะตรวจก็ไปนั่งรอ หรือถ้ารอไม่ไหวก็กลับไป ที่นี่ไม่ต้อนรับคนไม่มีมารยาท ไม่ว่าจะนามสกุลอะไรก็ตาม”

ชายสูงวัยคนหนึ่งที่พาหลานมารักษาอาการไข้หวัด ลุกขึ้นปรบมืออย่างชื่นชม ทำให้ผู้ปกครองคนไข้คนอื่นกล้าที่จะโห่ร้องปรบมือด้วย ดมิสากลับเข้าห้องตรวจและปิดประตู ในขณะที่นภาแม้จะสะใจแต่ก็หันไปจุปากให้ทุกคนอยู่ในความสงบ หล่อนกลับไปที่หลังเคาน์เตอร์เพื่อเตรียมเรียกคนไข้รายแรก

ในขณะที่สุกัญญายืนตัวสั่นด้วยความโกรธได้ไม่นาน ก็สะบัดหน้าเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยความเจ็บใจ

นี่หากไม่ใช่ว่าอยากทำแท้งฟรี ให้ตายหล่อนก็ไม่มาที่นี่หรอก!

สุกัญญาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดอินเทอร์เน็ตแช็ตกับเพื่อนฆ่าเวลา เสียงแจ้งเตือนดังติ๊งๆ ตลอดเวลาจนนภาต้องเดินมาเตือนให้ปิดเสียง แม้คนไข้สาวอยากจะลุกขึ้นด่า แต่ก็ต้องพยายามอดกลั้นและปิดเครื่องโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงอย่างหงุดหงิด แต่ยังไม่วายบ่นงุบงิบ

“เรื่องมากฉิบหาย”

นภาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน หล่อนเดินไปยิ้มแย้มทักเด็กหญิงที่เป็นไข้หวัดและถูกนัดมาติดตามอาการ เมื่อคนไข้คิวที่สิบสองออกมาจากห้องจึงเดินเข้าไปรับแฟ้มเพื่อจ่ายยาและออกมาเรียกหน้าห้องตามหน้าที่

“หมายเลขสิบสาม เชิญค่ะ”

สุกัญญาลุกขึ้นอย่างมีชัย ก่อนเดินชนไหล่นภาเข้าไปในห้องตรวจ

ดมิสากำลังเขียนอะไรบางอย่างในแฟ้มประวัติคนไข้ ระหว่างนั้นสุกัญญาลอบสังเกตผิวพรรณขาวผ่อง เรือนผมหยักศกแต่ดูนุ่มนิ่มอย่างเห็นได้ชัด จมูก ปาก ตา คิ้ว คาง ก็เหมาะเจาะลงตัวไปเสียหมดราวกับบินไปทำศัลยกรรมถึงเกาหลีมากว่าร้อยกว่าพันครั้ง ดมิสาไม่ได้สวมเสื้อกาวน์เหมือนตอนอยู่โรงพยาบาล แต่เดรสสีกุหลาบที่สวมกลับมีราศีของแพทย์หญิงเต็มขั้น

น่าหมั่นไส้!

ทั้งที่ก็เป็นลูกหลานเสน่ห์จันทน์เหมือนกัน ทำไมถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้ อ้อ...เป็นเพราะปู่ของหล่อนติดการพนันจนลูกหลานลำบาก ไม่อย่างนั้นหากยังร่ำรวยล่ำซำ ป่านนี้หล่อนคงศัลยกรรมจนสวยกว่าอีหมอราคาถูก...ไม่สิ อีหมอแจกฟรีคนนี้แล้ว!

คลินิกยังเปิดรักษาฟรี ตัวมันก็คงฟรีละสิ หึ คงได้น้ำดี ถึงผุดผ่องขนาดนั้น

“เชิญนั่งค่ะ” ดมิสาเอ่ยโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากแฟ้ม จึงไม่ทันเห็นคนไข้เบ้ปาก ก่อนทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้บุเบาะนิ่มแล้วยกมือกอดอกไขว่ห้าง

กุมารแพทย์หญิงเงยหน้าขึ้นถามโดยไม่สนใจกิริยาหยาบคายของคนไข้

“มาตรวจครรภ์ใช่ไหมคะ”

เธอเดา เพราะที่นี่เป็นคลินิกกุมารแพทย์ คนไข้ที่เป็นผู้ใหญ่มีแต่คนไข้ฉุกเฉินที่ประสบเหตุแถวนี้ เธอก็เพียงปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แล้วโทร.เรียกรถพยาบาลมารับไปดูแลต่อ ในประวัติสุกัญญาระบุว่าตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามาพบแพทย์ด้วยเหตุผลอะไร อาจเพียงตรวจครรภ์หรือมีปัญหาอื่น

“เปล่า” สุกัญญาตอบพลางยกมือขึ้นมองปลายนิ้วที่เพ้นท์ไว้แต่ก็ลอกล่อนออกไปเยอะแล้ว “มาทำแท้ง”

ดมิสาวางปากกาลง คิ้วเรียวขมวดมุ่น

“ไม่รับทำค่ะ” เธออยากจะคุยกับคนไข้ต่อ เพื่อสอบถามปัญหาและเกลี้ยกล่อมให้เก็บเด็กไว้ หญิงสาวเคยเจอเคสแบบนี้มาแล้วกับแม่วัยรุ่น แต่สุกัญญาบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม้แก่...พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยยังดีเสียกว่า

“เอ๊ะ! เป็นหมอประสาอะไรปฏิเสธคนไข้ คอยดูฉันจะไปฟ้องแพทยสภา!”

“เชิญค่ะ หมอต้องตรวจคนไข้คนอื่นต่อ”

“เอ๊ะ อีนี่! ก็ฉันเลี้ยงมันไม่ได้ ไม่มีเงินโว้ย จะให้ทำยังไง พวกมดพวกหมอโลกสวยอย่างพวกมึงเอะอะก็บอกให้เก็บไว้ๆ กลัวบาปกลัวกรรม บาปกรรมมันหน้าตายังไงวะ กูไม่รู้จัก ผัวกูก็ไม่ชอบเด็ก ขืนรู้ว่ากูท้องแม่งก็ทิ้งกู ถึงตอนนั้นมึงจะรับเลี้ยงลูกกูไหม ถ้าจะปล่อยให้เด็กเกิดมามีปัญหา สู้ให้มันตายๆ ไปเสียดีกว่า”

“กลัวเด็กมีปัญหา หรือคุณกลัวมีภาระกันแน่คะ” กุมารแพทย์สาวเอ่ยด้วยโทนเสียงเรียบนิ่ง “แล้วตอนทำก็ทำกันเอง สนุกกันแค่สองคน พอมีปัญหาขึ้นมา ก็เอาบาปมายัดใส่มือหมอ มันคนละกรณีกับการถูกข่มขืนหรือมีปัจจัยอื่นๆ แวดล้อมนะคะ หมอจึงมีสิทธิ์ที่จะไม่รับทำค่ะ แพทยสภาทราบดีในเรื่องนี้ มีออกข้อบังคับและหลักเกณฑ์ต่างๆ ของการทำแท้งไว้”

“อีนี่!” สุกัญญาตบโต๊ะทำงานหมอดังปัง ก่อนเงื้อมือขึ้นหมายจะตบดมิสา แต่ประตูห้องตรวจถูกเลื่อนเปิดออกก่อน พร้อมเถลิงเกียรติถลาเข้ามากระชากแขนสุกัญญาดันตัวออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเดือดดาล นี่หากไม่ได้ยินว่าคนไข้คนนี้ท้อง เขาคงผลักหล่อนแรงกว่านี้

“พวกมึงๆๆ ดูไว้เลยนะ” สุกัญญาชี้หน้าผู้ปกครองเด็กๆ ที่มาหาหมอ ก่อนชี้ไปยังเถลิงเกียรติที่ยืนเท้าสะเอวพร้อมเอาเรื่อง

“หมอที่นี่ห่วยแตกฉิบหาย! นอกจากไม่รับรักษาแล้วยังทำร้ายคนไข้ พวกมึงยังจะไว้ใจให้ดูแลลูกหลานพวกมึงลงอีกเหรอ”

“โอ๊ย...อีเสน่ห์จันทน์ตกอับ!” เถลิงเกียรติกรีดเสียงด่า และมีผู้ปกครองคนไข้หลายรายหลุดหัวเราะขำ “คลินิกเล็กเท่าหอยมดแค่นี้มึงอาละวาดอะไรในห้องตรวจ เขาได้ยินกันหมดแล้วค่า! อีแม่ใจยักษ์ อีดอกสารภี อีสตรีมีครรภ์! ถ้าจะเห่าก็ออกไปเห่าข้างนอกค่ะ หรือถ้าอยากเห่าต่อ มาค่ะ! หมอพร้อมจะเห่าตอบ พระท่านสอนว่าถ้าหมาเห่าอย่าเห่าตอบ เพราะจะทำให้มีหมาเพิ่มขึ้นอีกตัว แต่วันนี้อีหมอกั้งพร้อมแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่า หรือไม่อาจเป็นไฮยีน่า ขย้ำหมาตายก็ได้ค่ะ มา!”

สุกัญญาสะดุ้งเมื่อถูกตะคอก และเธออับอายเพราะผู้ปกครองเด็กๆ พากันหัวเราะไปทั่ว หน็อย เข้าข้างกันสินะ ไอ้อีพวกนี้มารักษาฟรีกันประจำสิท่า ก็ต้องเข้าข้างไอ้หมอวิปริตผิดเพศนี่อยู่แล้ว

“พวกมึงมันหมาหมู่” สุกัญญาด่ากลับอย่างชิงชัง “คอยดูนะ...กูจะไม่มีวันกลับมาเหยียบบ้านเสน่ห์จันทน์นี่อีกเลย!”

“โอ๊ย...แล้วใครเชิญมึงคะ”

เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกระลอกจนสุกัญญาทนอยู่ไม่ได้ หญิงสาวกระทืบเท้าปึงปังออกจากบ้านไปอย่างโกรธแค้น ก่อนหยุดที่นอกรั้วบ้านแล้วทุบกำปั้นลงที่ท้องตัวเองสุดแรง แต่พอจุกก็หยุดทำอย่างคับแค้นใจ หล่อนอยากให้ไอ้ลูกเวรนี่เจ็บ แต่ทุบตีตัวเองก็เจ็บไปด้วย

เจ็บใจนัก...

คอยดูเถอะพวกมึง กำจัดมารหัวขนนี่ไปได้เมื่อไร วันหนึ่งสุกัญญาต้องได้ดีกว่านี้แล้วกลับมาเหยียบหัวพวกมึงให้แหลกคาตีนกู ให้ได้!

 

 

** หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com