ลลีนาลุกมาเข้าครัวแต่เช้า เตรียมเมนูอาหารทั้งของคาวของหวานที่คิดว่าภีมจะชอบ การเข้าครัวทำอาหารของลูกสาวนั้นทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับเอ่ยปากถาม
“ตระเตรียมอะไรเสียมากมายน่ะลูก”
“ทำอาหารขอบคุณเพื่อนน่ะค่ะ เขาเป็นคนหาบัตรคอนเสิร์ตให้นุ่นกับน้องสร ก็เลยอยากขอบคุณเขา นี่นัดเจอที่ร้านพี่ลินค่ะ”
“อืม ว่างๆ ก็ชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้านสิ” มารดาเอ่ยประโยคนี้มาทำเอาลลีนาสะดุดกึก เพราะไม่แน่ใจว่าหากท่านรู้ว่าเพื่อนที่เธอพูดถึงนั้นเป็นผู้ชาย...จะยังยินดีให้เข้ามาบ้านไหม
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของลลีนาไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายคนไหนได้เข้ามาที่บ้านเลย มีแต่เพื่อนผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น เพราะตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมเธอเรียนโรงเรียนหญิงล้วน เพิ่งมีเพื่อนเป็นผู้ชายก็ตอนเรียนปริญญาตรีกับโทนี่เอง แต่ตอนเรียนปริญญาตรี สาขาที่เรียนก็แทบไม่มีผู้ชายอีก ถึงมีก็ดูจะเป็นชายใจหญิงเสียมากกว่า
“อ๋อ ค่ะ เอาไว้จะลองชวนดูนะคะแม่” ลลีนาจำต้องเอ่ยไปแบบนั้น แล้วก็กลับมาสนใจอาหารที่กำลังปรุงอยู่บนเตาต่อ
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ลลีนาก็นำไปที่ร้านเกวลินตามที่ตั้งใจไว้ ด้วยความที่เธอทำมาเผื่อพี่สะใภ้และลูกจ้างในร้านด้วยจึงจัดการแบ่งไปให้เรียบร้อย จากนั้นลลีนาก็จัดเตรียมให้กับแขกคนสำคัญของเธอ ซึ่งนอกจากภีม เธอได้นัดนภสรให้มาเจอกันที่ร้านด้วย ไม่นานนักนภสรก็มาถึงร้าน และอีกครู่ต่อมาภีมก็เดินเข้าร้านมาเช่นกัน
“อ้าว พี่ภีมนี่” นภสรเอ่ยด้วยความประหลาดใจ
“พี่นัดคุณภีมมาเองแหละจ้ะ เพราะอยากเลี้ยงขอบคุณเรื่องบัตรน่ะ” ลลีนารีบบอก
“อ๋อ ทางนี้ค่ะพี่ภีม” นภสรหันไปโบกไม้โบกมือเรียกชายหนุ่มมานั่งด้วยกัน
วันนี้ชายหนุ่มมาที่ร้านโดยใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนซึ่งก็เหมือนทุกครั้ง แต่ก็ยังทำให้สาวๆ ที่อยู่ในร้านแอบเมียงมองกันหลายคน ลลีนาไม่รู้หรอกว่าสาวๆ เหล่านั้นจะรู้จักภีมในบทบาทไหนมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ ที่แอบมองกันอยู่นี่ก็คงเพราะรูปร่างหน้าตาของเขานั่นละ!
“สวัสดีครับคุณนุ่น สวัสดีครับน้อง...” เขาเว้นจังหวะนิดหนึ่ง นภสรรู้ตัวเลยรีบแนะนำตัว
“นภสรค่ะ พี่ภีมเรียกสรก็ได้ พี่นุ่นบอกว่าพี่ภีมเป็นคนจัดการเรื่องบัตรคอนเสิร์ตให้ ขอบคุณมากเลยนะคะ” สาวอวบยิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้ขอบคุณเขา
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร นี่ยังรู้สึกว่ารบกวนคุณนุ่นมากเกินไปด้วยซ้ำนะครับที่ต้องมาเลี้ยงข้าวผมวันนี้”
“ไม่ยุ่งยากหรือรบกวนอะไรเลยค่ะ เดี๋ยวให้เด็กๆ ยกมาเสิร์ฟเลยนะคะ น่าจะหิวกันแล้ว” ลลีนาบอกเขาแล้วหันไปส่งสัญญาณมือให้เด็กในร้านยกถาดอาหารมา ซึ่งพอภีมเห็นก็ทำตาโตประหลาดใจ
“คุณนุ่นรู้ได้ยังไงครับว่าผมชอบเมนูนี้” ภีมเอ่ย ขณะที่อาหารวางลงตรงหน้า ซึ่งเป็นข้าวซอยไก่หน้าตาน่ากินมากพร้อมเครื่องเคียงที่จัดสรรใส่ถ้วยเล็กๆ มาอย่างดี
“ประวัติคุณหาไม่ยากนี่คะ ยิ่งมาจากรายการประกวดด้วย แค่เซิร์ชกูเกิลแป๊บเดียวก็เจอแล้วค่ะ”
“แต่ผมรุ่นแรกเลยนะครับ ได้แค่ที่สามเอง” เขายกมือขึ้นลูบท้าย-ทอยอย่างเขินๆ
“หูย จะที่หนึ่ง ที่สอง หรือที่สามก็ชนะผู้เข้าแข่งขันเป็นร้อยคนเลยนะคะพี่ภีม ได้ที่สามเก่งจะตาย ว่าแต่ตอนนี้มากินข้าวซอยกันเถอะค่ะสรหิวแล้ว” สาวอวบเอ่ยยอเขาก่อนจะวกมาเรื่องกิน แล้วก็ลูบท้องตัวเองด้วย เป็นการบอกให้รู้ว่าเธอพร้อมจะชิมอาหารเหนือฝีมือลลีนาใจจะขาดแล้ว
“แล้วคุณนุ่นไม่กินด้วยกันหรือครับ” ภีมเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นจานของหญิงสาว
“เชิญคุณภีมกับน้องสรตามสบายเลยค่ะ นุ่นเรียบร้อยมาแล้ว ต้องไปช่วยพี่ลินที่เคาน์เตอร์น่ะค่ะ ดูทรงลูกค้าน่าจะเยอะ ตามสบายนะคะ วันนี้นุ่นทำใส่กล่องเตรียมเอาไว้ให้ทั้งสองคนเอากลับไปกินที่บ้านด้วยค่ะ” เอ่ยจบลลีนาก็ลุกขึ้นไปช่วยเกวลินต้อนรับลูกค้า ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่มีลูกค้าเข้าร้านตลอด ลลีนาแอบรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่ชวนนภสรมาด้วย ภีมจะได้ไม่เหงา มีเพื่อนนั่งคุย จนเมื่อลูกค้าเริ่มซาและเห็นว่าทั้งนภสรกับภีมกินขนมหวานเสร็จเรียบร้อย เธอจึงหิ้วถุงผ้าที่ใส่กล่องอาหารที่เตรียมเอาไว้มาให้ทั้งสองคนที่โต๊ะ
“เอาไว้ไปกินที่บ้านต่อนะคะ ขอโทษทั้งสองคนด้วยที่วันนี้ไม่ได้นั่งคุยด้วยเลย ลูกค้าเข้าร้านเยอะมากเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ/ครับ” ทั้งนภสรและภีมพูดออกมาพร้อมกัน ทั้งสองเลยหันไปมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา ก่อนที่นภสรจะให้ภีมพูดก่อน
“แค่คุณนุ่นยอมเสียเวลาทำอาหารกับขนมอร่อยๆ ให้กินนี่ก็ขอบคุณมากแล้วครับ”
“ใช่ค่า...สรขอลอกคำพูดพี่ภีมทุกคำเลยนะคะ ขอบคุณพี่นุ่นมากๆ น้า...” นภสรยิ้มหวานเข้ามากอดแขนประจบลลีนา
“จ้า ที่ทำนี่พี่ก็ไม่ได้หวังอะไรจากน้องเลยนะ แค่หวังไปเนปาลด้วยเท่านั้นเอง” ลลีนาแกล้งหยอดออกไป ทำให้หัวเราะกันออกมาทั้งสามคน
“อ้อ พูดเรื่องไปเนปาล นี่คุณชัชพลจะให้ผมไปช่วยทีมงานถ่ายทำการเดินทางด้วย ยังไงคงได้เจอกันแน่ๆ” เมื่อภีมบอกอย่างนั้น ลลีนาก็เผลอยิ้มออกมา รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าเขาไปด้วย ส่วนนภสรร้องเฮดีใจออกมาทันที เพราะฝ่ายนั้นเชื่อแล้วว่าภีมคือคนนำโชคดีมาให้เธอ
“แบบนี้ต้องสนุกแน่ๆ เลยเนอะพี่นุ่น มีพี่ภีมไปด้วย” นภสรหันมายิ้มแป้นให้เธอ ลลีนาเลยพลอยพยักหน้าไปด้วย
“รับรองไปถึงทั้งสองคนต้องชอบแน่ ผมเคยไปมาแล้ว ที่นั่นมีเสน่ห์น่าเที่ยว ทั้งสถานที่เก่าแก่ และสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ยังไงเตรียมวอร์มร่างกายไว้สักนิดก็ดีครับ เพราะเนปาลเป็นประเทศที่อยู่บนที่สูง อาจจะทำให้เหนื่อยง่าย” ภีมให้ข้อมูลเบื้องต้นเอาไว้อย่างนั้น จากนั้นก็ตอบคำถามของนภสรอีกหลายคำ ก่อนที่จะได้เวลาแยกย้ายกันกลับบ้าน
แน่นอนว่าเมื่อทั้งนภสรและภีมกลับไปแล้ว ลลีนายังคงโดนเกวลินแซวอีกหลายเรื่อง
“น่ารักจริงๆ น้า...อุตส่าห์ไปค้นหาว่าเขาชอบกินอะไรแล้วก็ทำมาให้เขากิน เนี่ยเป็นแบบนี้ใครไม่หลงรักนุ่นก็บ้าแล้ว ว่าไหมนิด” เกวลินหันไปพยักพเยิดกับเด็กในร้านที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน รายนั้นรีบพยักหน้างึกๆ เห็นด้วย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ลลีนาก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **