ทดลองอ่าน ปลายปากกาอินเลิฟ 2 เรื่อง ในวันที่รักมาทักทายใจ : ตอนที่ 9

 

 

ตอนที่ 9

 

 

“อะ” ลลีนาอึ้งไปแล้ว แม้ภีมจะพยักหน้าให้เธอเบาๆ เพื่อเรียกสติและให้เธอตอบคำถาม แต่หญิงสาวก็พูดไม่ออก ดีว่านภสรอยู่ข้างๆ ช่วยชีวิต สาวอวบคลี่ผ้าพันคอที่พันคออยู่ออกมากางทันที

“แหม...ก็ต้องเชียร์กลทีป์สิคะ เห็นไหมคะ พวกเรามีผ้าพันคอด้วย พี่นุ่นกางผ้าเร็วค่ะ” ช่วยตอบไม่พอนภสรยังหันมาพยักพเยิดชวนให้ลลีนากางผ้าพันคอผืนที่ว่าออก ซึ่งเจ้าตัวสั่งทำพิเศษและเพิ่งจะนำมาให้ลลีนาเมื่อมาถึงงานนี่เอง ลลีนาเลยรีบรับลูกทำตาม แล้วส่งยิ้มให้กับภีม

“แล้ววันนี้คิดว่าตำแหน่งแชมป์จะเป็นของใครครับ” ภีมถามมาอีก

“ยังไงก็ต้องเป็นกลทีป์แน่นอนค่ะ เพราะกลทีป์เขาคะแนนนำมาตลอด ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว สู้ๆ นะกลทีป์! พวกเราเชื่อว่ากลทีป์ไม่ทำให้แฟนคลับอย่างพวกเราผิดหวังแน่นอน” นภสรยึดไมค์ไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะเห็นลลีนายังคงยืนอึ้งอยู่ แม้จะยิ้มออกมาได้แต่ก็เรียกว่ายิ้มแหยๆ มากกว่า เหมือนคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร

“มั่นใจเต็มร้อยแบบนี้ สมกับเป็นแฟนคลับตัวยงของกลทีป์จริงๆ ครับ” ภีมแซวยิ้มๆ ก่อนพูดต่อ “แล้วทราบกันใช่ไหมครับว่าคืนนี้จะมีการประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่จะได้ไปร่วมทริปกับแชมป์ของเราในปีนี้ด้วย”

“ค่ะ ฉันมั่นใจว่าต้องเป็นหนึ่งในผู้โชคดีแน่ๆ รอดูได้เลยค่ะ!” แล้ว นภสรก็ชูกำปั้นขึ้นมาแสดงความมั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยม

ภีมเอ่ยขอบคุณสองสาวแล้วก็เดินไปสัมภาษณ์กลุ่มอื่นๆ ต่อ เมื่อเขาเดินห่างออกไปแล้ว ลลีนาก็ได้ยินเสียงซุบซิบที่จงใจให้เธอกับนภสรได้ยินดังขึ้นมาทันที

“ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเป็นพิเศษเลย ไม่เห็นจะน่าสัมภาษณ์”

เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกำลังยืนรวมอยู่กับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ ซึ่งทุกคนล้วนถือป้ายไฟชื่อกลทีป์อยู่ในมือ ลลีนาเห็นอย่างนั้นก็เลยชวนนภสรเดินเลี่ยงหลบเข้าไปในฮอลล์เพราะไม่อยากได้ยินคำพูดร้ายกาจเหล่านั้นอีก

เมื่อเดินเข้ามาถึงที่นั่ง ลลีนาก็ไม่คาดคิดเลยว่าบัตรที่ภีมให้เธอมานั้นจะใกล้เวทีมากขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นที่นั่งพิเศษเลยก็ว่าได้ เพราะอยู่หลังแถวที่นั่งของเหล่าศิลปินดาราและเซเลบไปแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง!

“พี่นุ่น! ได้บัตรมายังไงเนี่ย โอ๊ย ทำเลดีมาก แบบนี้เรากรี๊ดกันคอแหบคอแห้งแน่ แล้วคิดดูนะ ถ้าเขาประกาศชื่อว่าเราเป็นผู้โชคดีได้ไปร่วม ทริปกับกลทีป์ เราจะได้เดินขึ้นไปบนเวทีง่ายแค่ไหน” นภสรมีท่าทีตื่นเต้นจนแทบอยากจะกรี๊ดออกมาแต่ก็ไม่กล้า เพราะยังเกรงใจเหล่าศิลปินคนดัง ที่นั่งอยู่แถวหน้าพวกเธอ

ในตอนนั้นเองลลีนานึกเสียใจขึ้นมานิดหน่อย ก็ตอนภีมยื่นไมค์มาสัมภาษณ์ เธอควรจะให้ความร่วมมือตอบคำถามเขาและแสดงสีหน้าท่าทางให้เห็นสักนิดก็ยังดีว่าดูตื่นเต้นกับคอนเสิร์ตครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ให้นภสรต้องรับหน้าไปคนเดียวแบบนั้น ถ้าหากได้เห็นเทปสัมภาษณ์เธอคงทำหน้าตื่นกล้องจนน่าตลกแน่นอน

‘ขอโทษด้วยนะคะคุณภีม ไม่น่าเลย...’

หญิงสาวนึกขอโทษภีมอยู่ในใจ ตั้งใจว่าจะต้องหาทางขอบคุณเขาให้ได้

คอนเสิร์ตคืนตัดสินหาผู้ชนะ Thailand The Idol สนุกสมกับเป็นรอบสุดท้าย ทุกคนส่งเสียงเชียร์กันดังลั่น ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือห้าคนสุดท้ายต่างร้องเพลงและแสดงบนเวทีอย่างสุดฝีมือ ไม่มีใครยอมใครจริงๆ และเมื่อถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการโหวต แฟนคลับในฮอลล์ต่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโหวตกันมือเป็นระวิง

ในที่สุดวินาทีสำคัญก็มาถึง พิธีกรประกาศผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และผู้ชนะเลิศในปีนี้ ได้แก่...กลทีป์! เสียงเฮและเสียงกรีดร้องด้วยความดีใจดังถล่มทลาย แฟนคลับต่างลุกขึ้นปรบมือส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่น

รางวัลสำหรับกลทีป์ในปีนี้ต้องบอกว่าเป็นรางวัลที่ใหญ่กว่าผู้ชนะปีอื่นๆ เพราะนอกจากจะได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดช่องเป็นเวลาห้าปีแล้ว เขายังได้คอนโดฯ หนึ่งห้อง รถยนต์หนึ่งคัน พร้อมเงินรางวัลจำนวนถึงเจ็ดหลัก และก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญที่แฟนคลับของกลทีป์ต่างรอคอยนั่นก็คือการประกาศรายชื่อผู้โชคดีสิบท่านที่ทุ่มโหวตให้กับเขาและจะได้ไปร่วมทริปเนปาลด้วยกัน ตอนที่พิธีกรเริ่มสุ่มรายชื่อผู้โชคดีนั้น นภสรกับลลีนาต่างยกมือขึ้นพนมภาวนาให้เป็นผู้โชคดีสุดฤทธ์ จนกระทั่งประกาศมาถึงชื่อคนที่เก้า ซึ่งเป็นชื่อของนภสร! สาวอวบถึงกับกรีดร้องดีใจสุดเสียง โผกอดลลีนาแน่น ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีและได้ถ่ายรูปกับกลทีป์อีกด้วย นภสรขออนุญาตกอดชายหนุ่มบนเวทีซึ่งกลทีป์ก็ยินดี ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับแฟนคลับของเขาดังลั่นฮอลล์

เมื่อได้ผู้โชคดีครบสิบคนแล้ว พิธีกรบนเวทียังมีเซอร์ไพรส์แถมให้อีกสำหรับแฟนๆ ที่เข้าชมคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะ ด้วยการประกาศว่าจะมีผู้โชคดีได้ขึ้นมากอดผู้เข้าแข่งขันคนไหนก็ได้บนเวที และคนที่จะได้ขึ้นมาก็คือคนที่มีสติกเกอร์รูปดาวแปะอยู่ใต้เบาะที่นั่ง เท่านั้นคนทั้งฮอลล์ต่างรีบก้มลงไปดูใต้เบาะของตนเอง แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังมาอีกไม่ขาดสาย คนที่ได้สติกเกอร์ทยอยเดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อกอดคนที่ตนเองเชียร์ นับว่าเป็นการประกวดรอบสุดท้ายที่ทั้งสนุก ทั้งเซอร์ไพรส์ และมอบความสุขให้กับแฟนๆ ทุกคนมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา

คืนนั้นกว่าลลีนาจะถึงบ้านและได้เข้านอนก็ดึกดื่นจนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว เพราะเมื่อกลับถึงบ้านนภสรยังโทร.มาเมาท์ต่อด้วยว่ายังตื่นเต้นและดีใจไม่หาย กว่าจะได้วางสายได้อาบน้ำอาบท่าเข้านอนลลีนาก็ง่วงงุนเต็มที แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่ลืมนึกถึงคนที่มีน้ำใจหาบัตรที่นั่งแสนวิเศษมาให้

วันรุ่งขึ้น ลลีนาจึงกดย้อนดูประวัติการโทร.เข้าโทร.ออกในมือถือจนพบเบอร์ของภีม จากนั้นก็รีบเมมเบอร์เขาไว้แล้วรวบรวมความกล้าโทร.หาเขา ใช่! เธอต้องใช้ความกล้าอย่างมากเชียวล่ะ เพราะในชีวิตนี้เธอไม่เคยโทร.หาผู้ชายด้วยเรื่องส่วนตัวเลยสักครั้ง ส่วนมากถ้าไม่เป็นเรื่องงานก็โทร.คุยกับเมธา ซึ่งก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันอยู่แล้ว ภีมเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ เมื่อกดโทร.ออกหญิงสาวรอรับสายอยู่เพียงไม่กี่วินาที เขาก็กดรับ

“คุณนุ่น เป็นยังไงครับ คอนเสิร์ตเมื่อคืนสนุกมากไหม”

“สนุกมากค่ะ ขอบคุณคุณภีมมากนะคะที่หาบัตรมาให้ แถมยังเป็นที่นั่งใกล้เวทีมากด้วย”

“ไม่เป็นไรเลยครับ บอกแล้วไงว่าถือเป็นการขอบคุณที่คุณนุ่นช่วยผมไว้”

“นั่นแหละค่ะ ยังไงก็ต้องขอบคุณจริงๆ น้องสรยังฝากขอบคุณมาด้วยนะคะ เขาดีใจมากได้ดูหน้ากลทีป์ชัดแจ๋วแถมยังเดินขึ้นไปบนเวทีง่ายด้วย ว่าแต่พรุ่งนี้คุณภีมว่างไหมคะ อยากชวนมาที่ร้าน จะเลี้ยงขอบคุณค่ะ”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ” เขารีบเอ่ยเหมือนจะเกรงใจ ลลีนาจึงต้องรีบสำทับ

“ห้ามปฏิเสธค่ะ พรุ่งนี้เจอกันตอนมื้อเที่ยงนะคะ แค่นี้นะคะ”

หญิงสาวรีบชิงพูดและชิงวางสายกลัวว่าเขาจะปฏิเสธ หารู้ไม่ว่าตอนนี้คนถูกชวนยิ้มหน้าบานจนคนที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ ยังเอ่ยปากแซวว่าเขายิ้มจนปากกว้างถึงหูแล้ว!

 

 

** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com