ทดลองอ่าน ปลายปากกาอินเลิฟ 2 เรื่อง ในวันที่รักมาทักทายใจ : ตอนที่ 7

 

 

ตอนที่ 7

 

 

ลลีนาพากุ้งแก้วมาถึงสตูดิโอตรงตามเวลานัดเป๊ะ ครั้งนี้มารดาของหญิงสาวกำชับนักหนาว่าให้ใช้รถคันที่ท่านซื้อให้ เพราะกลัวว่าเจ้ารถโฟล์กคันเก่งของเธอจะเกเรอีก ลลีนารู้หรอกว่าเป็นเพราะเมธาขอแกมบังคับมาอีกที เธอไม่อยากมีปัญหากับทั้งคู่เลยต้องทำตามคำสั่งนั้นแต่โดยดี พอมาถึงสตูดิโอก็เห็นว่าตอนนี้ทีมงานกำลังวุ่นๆ กันอยู่ เธอแอบได้ยินแว่วๆ ว่าพิธีกรอีกคนที่ชื่ออรยาเกิดปวดท้องอย่างหนักต้องส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ทำให้การถ่ายทำในช่วง ‘เมนูคิดสนุก’ อาจจะต้องเลื่อนไปก่อน ทั้งที่ทีมงานเตรียมของทุกอย่างไว้หมดแล้ว ซึ่งเมนูวันนี้คือม้าฮ่อและลิ้นมังกร ของกินเล่นแบบไทยๆ กุ้งแก้วที่จะต้องเข้าฉากกับอรยากำลังยืนอยู่ข้างๆ ภีม เพราะชายหนุ่มนอกจากจะเป็นพิธีกรแล้ว เขายังเป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ของรายการขบวนการอาทิตย์ยิ้มแฉ่งด้วย ครู่หนึ่งภีมกับกุ้งแก้วก็เดินตรงมาหาเธอ

“คุณนุ่นครับ ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนสักหน่อย อย่างที่เห็นน่ะครับว่าคุณอรยาไม่สบาย ไม่ทราบว่าคุณนุ่นจะพอช่วยทีมงานถ่ายทำช่วงทำอาหารของในวันนี้จะได้ไหมครับ”

“คะ? ชะ...ช่วยยังไงเหรอคะ” ลลีนางุนงงไม่น้อย

“อานุ่นช่วยเป็นพิธีกรคู่กับกุ้งแก้วได้ไหมคะ” หลานสาวเอ่ยเสียงดังฟังชัด ลลีนาถึงกับรีบปฏิเสธทันควัน

“ไม่ได้หรอกจ้ะกุ้งแก้ว อาไม่ใช่พิธีกรมืออาชีพแบบคุณอรยานะ เขาจะพูดอะไรยังไงตอนไหน อาไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยวทำรายการเสียหายเปล่าๆ”

“ไม่ต้องห่วงครับคุณนุ่น เดี๋ยวผมจะเป็นพิธีกรร่วมอีกคน” ภีมรีบเสนอตัวมาช่วย

“ทำไมคุณภีมไม่เป็นพิธีกรหลักแทนคุณอรยาไปเลยล่ะคะ ยังไงก็คุ้นเคยกับกุ้งแก้วอยู่แล้ว”

“ผมทำอาหารจานนี้ไม่เป็นน่ะสิครับ ผมถามกุ้งแก้วแล้วว่าคุณนุ่นพอจะทำเป็นไหม กุ้งแก้วบอกว่าคุณนุ่นทำอาหารว่างได้หลายอย่าง และก็ยังเคยทำม้าฮ่อให้กินด้วย ผมเลยอยากจะขอร้องคุณนุ่นช่วยผมกับทีมงานหน่อย...นะครับ” ภีมให้เหตุผลและเอ่ยขอร้องมาอีกครั้ง กุ้งแก้วก็ด้วย

“นะคะอานุ่น ช่วยกุ้งแก้วกับพี่ภีมด้วยน้า...”

เจอทั้งคนตัวโตตัวเล็กขอร้องมาขนาดนี้ ซ้ำภีมยังยืนยันหนักแน่นว่าจะคอยช่วยเธอดำเนินรายการเอง โดยเขาจะเป็นพิธีกรหลักและคอยถามนำให้ เธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ลลีนาแม้ลังเลอยู่ไม่น้อยแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับบทพิธีกรจำเป็น เดินตามช่างแต่งหน้าไปห้องแต่งตัว เพื่อแต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อย ส่วนเสื้อผ้าทางทีมงานไม่ได้เน้นอะไรเพราะยังไงก็ต้องสวมผ้ากันเปื้อนทับอยู่แล้ว การถ่ายทำจึงสามารถเริ่มได้เลยในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

ภีมซึ่งทำหน้าที่พิธีกรหลักเปิดช่วง ‘เมนูคิดสนุก’ ด้วยการแนะนำเธอกับกุ้งแก้ว จากนั้นเขาก็คอยถามนำเป็นระยะเช่นว่าวันนี้มีเมนูอะไรมาสอนเด็กๆ บ้าง ซึ่งนั่นทำให้ลลีนาค่อยๆ คลายความกังวลและสามารถตอบคำถามรวมถึงสอนวิธีการทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ การทำม้าฮ่อนั้นใช้เวลาไม่นาน เพราะทีมงานได้เตรียมไว้ให้หมดแล้วไม่ว่าจะเป็นปอกสับปะรด แกะส้ม ผัดไส้ และล้างเด็ดใบผักชีไว้เรียบร้อย ลลีนาทำแค่สาธิตการหั่นสับปะรด การกรีดชิ้นส้ม ตักไส้วางบนส้มและสับปะรด และปิดท้ายด้วยการแต่งหน้าของว่างด้วยใบผักชีก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

ในที่สุดการถ่ายทำก็สำเร็จลงอย่างราบรื่น ไม่น่าเชื่อว่าถ่ายเพียงเทกเดียวเท่านั้น เพราะความสนิทสนมคุ้นเคยกันของกุ้งแก้วกับลลีนาทำให้เวลาพูดคุยซักถามและสอนวิธีทำนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติ ส่วนภีมก็คอยเสริมทั้งคู่ให้ดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และยังทดลองทำด้วย ตอนที่ชายหนุ่มลองลงมือทำแล้วมีท่าทีเก้ๆ กังๆ ลลีนาก็เข้ามาช่วย ยิ่งทำให้รายการดูเป็นกันเองเหมือนสอนทำอาหารกันอยู่ที่บ้าน จนเมื่อการทำของว่างเสร็จลง ภีมกล่าวปิดรายการช่วงนี้ก็เป็นอันว่าการถ่ายทำเสร็จเรียบร้อย

ทีมงานเข้ามาขอบคุณลลีนาที่ช่วยให้การถ่ายทำในวันนี้ราบรื่น ไม่ต้องลำบากเลื่อนคิวไปถ่ายกันในวันอื่นอีก ภีมเองก็ขอบคุณเธอเสียมากมาย จนลลีนาต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เธอเสียอีกที่ต้องขอโทษเขาที่ท่าทีของเธออาจจะไม่เป็นธรรมชาติเหมือนที่พิธีกรควรจะเป็น

“ถ่ายรายการครั้งแรกได้ขนาดนี้ถือว่าเก่งแล้วครับ ขอบคุณมากจริงๆ นะครับคุณนุ่น ถ้าวันนี้ไม่ได้คุณนุ่น พวกเราคงแย่”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถือว่าช่วยๆ กัน วันก่อนคุณภีมยังไปอุดหนุนร้านพี่ลินเลยนี่คะ” เมื่อเอ่ยไปเช่นนั้นก็เห็นว่าเขาเลิกคิ้วนิดๆ เหมือนจะประหลาดใจที่เธอรู้เรื่องนี้

“คุณลินบอกหรือครับว่าผมไปที่ร้าน”

“ค่ะ เห็นว่านั่งอยู่ในร้านตั้งนาน”

“อ๋อ ก็ เอ่อ ผมว่าจะไปพบคุณนุ่นเพื่อถามเรื่องรถน่ะครับว่าซ่อมแล้วเป็นยังไงบ้าง วันนั้นคุณนุ่นไม่ได้ไปรับรถเองใช่ไหมครับ”

“หืม คุณภีมรู้ด้วยเหรอคะ”

“อะ อ้อ พอดีวันนั้นผมไปที่อู่พอดีน่ะครับ” เขาตอบอึกๆ อักๆ อย่างคนโดนจับพิรุธได้ แต่ลลีนาก็ไม่ได้คิดอะไรอีกเช่นเคย ตอบเขาไปตามปกติ

“รถใช้ได้ดีค่ะ แต่วันนี้ไม่ได้ขับมาเพราะพี่ชายกับแม่สั่งไม่ให้ใช้ น่ะค่ะกลัวว่าจะเสียอีก แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณภีมนะคะที่เป็นธุระให้แถมยังเป็นห่วงไปถามถึงที่ร้านด้วย ฝากขอบคุณช่างด้วยนะคะ ซ่อมได้เรียบร้อยดีค่ะ”

“ครับ ผมจะบอกช่างให้”

ทั้งสองพูดคุยกันได้เท่านั้น กุ้งแก้วก็ส่งเสียงใสๆ มา

“อานุ่น กุ้งแก้วเสร็จแล้ว กลับบ้านกันเถอะค่ะ” หนูน้อยเอ่ย และเมื่อเดินมาถึงก็ยกมือไหว้ลาภีม “กุ้งแก้วกลับบ้านก่อนนะคะพี่ภีม” แล้วกุ้งแก้วก็คว้ามืออาสาวเพื่อจะออกไปที่ลานจอดรถด้วยกัน

“ผมเดินไปส่งครับ” ภีมอาสาเดินมาส่งทั้งสองที่รถและยังยืนรอส่งจนกระทั่งลลีนาขับรถออกจากลานจอดรถไป

----------

คืนนี้เป็นอีกคืนที่ลลีนาไม่ได้ทำงานอะไร เพราะทางสำนักพิมพ์ยังไม่ส่งต้นฉบับนิยายโรมานซ์เรื่องใหม่มาให้ หลังจากคุยกับนภสรเรื่องคอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของ Thailand The Idol ที่ทั้งสองมั่นใจว่ายังไงเสียกลทีป์ก็ต้องได้เป็นแชมป์ปีนี้อย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะจองบัตรทันกันหรือเปล่า เพราะแฟนคลับแต่ละคนต่างก็แย่งกันจองบัตรรอบนี้ แต่นภสรก็มั่นอกมั่นใจว่าจะจองทัน เมื่อวางสายจากนภสรแล้วลลีนาก็ทิ้งตัวลงบนเตียง สายตาเหลือบไปเห็นนิยายโรมานซ์เล่มที่เธอแปลก่อนหน้านี้ซึ่งทางสำนักพิมพ์จะส่งมาให้ทุกครั้งหลังตีพิมพ์และวางจำหน่ายแล้ว หน้าปกนิยายเป็นภาพวาดหนุ่มตาน้ำข้าวประเภทหล่อล่ำกล้ามบึ้กผิวแทนเหมือนเคย แต่ครั้งนี้แปลกไปตรงที่พอเห็นปกนิยาย ลลีนากลับนึกไปถึงภีมเสียได้ แม้เขาจะไม่ใช่หนุ่มกล้ามโตเป็นมัดๆ อย่างพระเอกบนปก แต่โดยรวมก็ดูคล้ายๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับหนุ่มหน้าหวานแบบที่เธอปลื้มอยู่ก็จริง แต่ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภีมนั้นเป็นผู้ชายที่มีบุคลิกอบอุ่น เข้าถึงง่ายและดูเป็นมิตร ไม่ว่าใครได้อยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกสบายใจ ไม่เกร็ง เขาเหมือนเพื่อนข้างบ้านที่สามารถพูดคุยได้สนิทใจ อย่างสำนวนฝรั่งว่า ‘Girl Next Door’ ซึ่งภีมก็คงจะเป็น ‘Boy Next Door’ ทำนองนั้นเลย

คิดไปคิดมาเพลินๆ อยู่ ลลีนาก็ต้องหยุดกึกอย่างเพิ่งรู้ตัว คิดเรื่องกลทีป์อยู่ดีๆ ไหนมานั่งคิดถึงเรื่องภีมได้เนี่ย ตอนแปลนิยายปกติเธอก็มัก จะจินตนาการว่ากลทีป์เป็นพระเอกของเรื่อง แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเธอจะแวบไปคิดถึงใบหน้าของภีมขึ้นมาแทนเหมือนกัน

ก่อนที่ตัวเองจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ลลีนาเลยตัดสินใจลงไปที่ครัวทำขนมหวานสำหรับไปวางขายที่ร้านของเกวลินดื้อๆ เสียอย่างนั้น

 

 

** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com