เกวลินนั่งคุยกับภีมเพลินโดยมีลลีนาเป็นฝ่ายนั่งฟังเสียส่วนใหญ่ แปลกที่วันนี้ลูกค้าน้อยกว่าทุกวัน ไม่อย่างนั้นเกวลินไม่มีทางว่างมานั่งคุยกับลูกค้าได้แบบนี้หรอก ครู่หนึ่งภีมก็เอ่ยขอตัวกลับ เกวลินกับลลีนาจึงมาส่งเขาที่รถด้วยกัน จนเมื่อภีมขับรถพ้นออกจากร้านไปแล้วนั่นละ เกวลินก็ดึงลลีนาให้มาคุยกันที่สวน
“นั่นแน่ ในที่สุดก็มีชายหนุ่มกล้าเข้าหานุ่นแล้วนะเนี่ย แถมหนุ่มคนนี้ยังไม่ธรรมดาเสียด้วย เป็นคนในวงการเลยนะ” พี่สะใภ้เอ่ยแซว
“เข้าหาอะไรล่ะพี่ลิน คุณภีมแค่อาสามาส่งนุ่นกับหลานเท่านั้นเอง พี่ก็รู้ว่ารถนุ่นเสีย”
“ภีมเขาก็ทำรายการเด็กมาหลายปีแล้วนะ ปกติมีแต่พี่เมธไปส่งกุ้งแก้ว เพิ่งให้นุ่นไปส่งครั้งแรก แต่ดูเหมือนเขาเรียกนุ่นได้สนิทปากมากเลยนะ เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” เกวลินซักไซ้ต่อ ไม่ได้สนใจฟังคำอธิบายของลลีนาเลยสักนิด
“คุณภีมเป็นพิธีกรหน้างานคอนเสิร์ตไทยแลนด์ดิไอดอลน่ะค่ะ”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง มิน่าเรียกคุณนุ่นๆ สนิทปากมากเลย นี่คงเจอกันที่หน้าคอนเสิร์ตบ่อยๆ ใช่ไหม”
“ก็...ประมาณนั้นค่ะ แต่ก็เพิ่งจะคุยกันวันนี้ครั้งแรก” ลลีนาเล่าให้พี่สะใภ้ฟัง แต่ดวงตาของพี่สะใภ้กลับมีแวววิบวับราวกับว่ากำลังเจอเรื่องสนุกๆ เข้า
“จะว่าไปคุณภีมนี่เขาเหมือนพวกภาพวาดพระเอกบนปกนิยายที่นุ่นแปลอยู่เลยเนอะ พระเอกนิยายโรมานซ์น่ะ พวกผิวแทนๆ มีกล้ามบึ้กๆ ไง”
“หืม พระเอกบนปกนั่นน่ากลัวจะตายพี่ลิน กล้ามบึ้กยังกะก้ามปูขนาดนั้น” ลลีนานึกถึงรูปภาพบนหน้าปกนิยายโรมานซ์ทั้งหลายที่เธอรับแปลงานมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีแล้วขนลุกซู่ นอกจากงานแปลนิยาย เธอยังรับแปลบทหนัง บทซีรีส์ และบทสารคดีด้วย
“ใช่สิ นุ่นไม่ชอบหนุ่มบึ้ก แต่ชอบหนุ่มหวานๆ อย่างนายกลทีป์ใช่ไหม” พี่สะใภ้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และลลีนาก็แน่ใจว่าตัวเองกำลังหน้าแดงแน่ๆ เพราะเธอรู้สึกตัวหน้ากำลังร้อนอยู่
“ก็มันน่าดูกว่านี่นา ว่าแต่นุ่น พี่ลินเองเหอะก็ชอบดูพวกพระเอกซีรีส์เกาหลีไม่ใช่เหรอ” เธอย้อนกลับไปแบบนั้น พี่สะใภ้เลยหัวเราะร่าออกมา
“ก็ชอบดูนะ แต่สุดท้ายก็ได้หนุ่มกล้ามบึ้กมาเป็นสามีไง ดูพี่เมธพี่ชายเธอสิ บึ้กขนาดไหน” เมื่อพี่สะใภ้พูดแบบนั้น ลลีนาก็หัวเราะกิ๊ก นึกถึงภาพผู้ชายในชีวิตจริงของพี่สะใภ้กับผู้ชายในฝันซึ่งตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง และพอเกวลินเห็นเธอหัวเราะก็ยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมาตรงหน้าเธอทันที “ทำเป็นหัวเราะไป ระวังจะเจอแบบพี่นะจ๊ะ เคยได้ยินไหมไม่ชอบสิ่งไหนก็จะได้สิ่งนั้น จะว่าไปลองออกจากโลกจินตนาการมามองหนุ่มๆ ในโลกความจริงบ้างก็ดีนะ เพราะหนุ่มคนเมื่อกี้ก็น่าสนใจไม่หยอกนะ”
“พี่ลินก็พูดไป บอกแล้วไงคะว่าเขาไม่ได้จีบนุ่น เขาแค่มาส่ง แค่มาส่งน่ะค่ะเข้าใจไหม ไม่เอาละ นุ่นกลับบ้านดีกว่าจะได้ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วแปลนิยายต่อ กำหนดส่งงานใกล้เข้ามาแล้วด้วย” พูดจบลลีนาก็รีบเดินหนีพี่สะใภ้กลับบ้านทันที ซึ่งระยะทางก็ไม่ได้ไกลกันเลยสักนิด เพราะบ้านของเธอก็อยู่ในซอยนี้เอง เช่นเดียวกับบ้านพี่สะใภ้และอยู่ในรั้วเดียวกัน ทั้งซอยมีบ้านไม่กี่หลัง เป็นบ้านของคนที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมและเป็นที่รู้กันว่าเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ในซอยนี้ก็คือตากับยายของเธอนี่เอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ชื่อซอยนี้จะเป็นชื่อของตาเธอด้วย
----------
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ลลีนาก็ไม่พบมารดาเพราะออกไปกินข้าวกับเพื่อน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ท่านทำเป็นประจำหลังเกษียณจากอาชีพครู หญิงสาวจึงตรงขึ้นห้องนอนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลุยงานแปลต่อทันที เพราะเนื้อหาของนิยายนั้นอยู่ในหัวเธอแล้ว อีกทั้งการทำงานแปลที่ผ่านมาหลายปีก็ทำให้เธอทำงานได้อย่างคล่องแคล่วและลื่นไหลเป็นอย่างดี
ในขณะที่ลลีนามีสมาธิอยู่กับงาน คนที่อาสาขับรถมาส่งเธอนั้น ตอนนี้ถึงคอนโดฯ แล้วเช่นกัน เขากำลังนั่งดีดกีตาร์ส่งยิ้มให้กับท้องฟ้า และต้นไม้ที่ริมระเบียงของเขาอย่างมีความสุข
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **