“ผมพูดเล่นคนดี ผมรู้มันเร็วไปแบบนั้น และผมก็ไม่อยากให้เรื่องระหว่างเรามันเร็วเกินไปด้วย”
เธอพยายามดึงมือออก แม้จะอยากแช่อยู่ในอุ้งมืออันเต็มไปด้วยความอุ่นและแข็งแรงนั้น แต่ของอย่างนี้ต้องมีฟอร์มกันหน่อย ไหนๆ ก็แบใจให้เห็นไปตั้งเยอะแล้ว
อเลสซานโดรกุมมือเธอแน่นขึ้น “ที่ผมพูดว่าเป็นของคุณคืนนี้ก็คือให้เวลากับคุณยังไงล่ะ โดยที่ไม่ต้องมีใครอื่นมายุ่ง ผมยอมให้แฟนคลับงอนเลยนะ”
สายตาที่ช้อนมองมากับใบหน้าอ้อนๆ ของเขาแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เอวาเลิกคิดวางมาดใดๆ ทั้งสิ้น ยิ่งเขายกมือเธอขึ้นมาให้หลังมืออังอยู่ตรงริมฝีปากบางของเขา
“คุณเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากเอวา” เขาหรี่ตาลงทำให้ใบหน้าดูกรุ้ม-กริ่ม “ที่สำคัญ หุ่นคุณเซ็กซี่บาดใจบอกตรงๆ ผมมองคุณเหลียวหลังเลยจนต้องให้คนรถจอดเพื่อดูคุณให้ชัดๆ”
เอวาขมวดคิ้วเมื่อฟังคำเขาแปลกๆ “คุณพูดถึงตอนไหนคะ”
“ก็ที่หน้าสเตเดียมเมื่อวานไงครับ” เขาบอกก่อนจะเล่าให้ฟังถึงเมื่อวาน และนั่นก็ทำให้เอวาถึงกับยืนอึ้ง เพราะมันน่าเหลือเชื่ออย่างที่สุด
“เมื่อวานคุณเห็นฉันยืนรอเพื่อนอยู่ด้านนอกสเตเดียม เลยให้ผู้ช่วยเอาสเวตเตอร์ของคุณมาให้...อย่างนั้นเหรอคะ” เธอทวนสิ่งที่เขาเล่า เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาลีผิดเพี้ยนเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า
“ใช่ครับ” คำยืนยันของเขาทำเธอนิ่งงัน
“ผมอยู่ในรถลีมูซีนคันนั้น จริงๆ ผมซ้อมเสร็จพอดี กำลังนั่งรถไปบ้านพักเก็บตัว แต่ผมเห็นคุณเข้าเสียก่อน ท่าทางคุณมันบอกว่าคุณหนาว ผมก็เลยสละเสื้อให้ไงครับ”
เธอก้มมองเสื้อที่สวมอยู่ “ตกลงนี่คือเสื้อของคุณเอง ที่คุณใส่อยู่ แล้วเอามาให้ฉัน ไม่ใช่เสื้อที่ขายในท้องตลาด”
เขายิ้ม พยักหน้าน้อยๆ “ครับ เสื้อของผมเองที่ทีมตัดให้”
“มิน่า ก็ว่ากลิ่นน้ำหอม...” เธอหลุดปากออกมาแล้วรีบหยุดพูด
“อะไรนะ จำกลิ่นผมได้เหรอ” เขาซักไซ้
“ปะ...เปล่า คิดว่ามือสองซักสะอาด” เธออ้างไปเรื่อย
อเลสซานโดรยักไหล่แล้วล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรขึ้นมาสองใบ “นี่เงินของคุณที่ยัดเยียดให้ผู้ช่วยผม ผมคืนนะครับ”
“แต่...” เธอมองอย่างลังเล
“ผมไม่อยากรับเงิน เพราะผมตั้งใจที่จะให้เสื้อนี้กับคุณเอง และก็อยากให้คุณเก็บไว้ด้วย”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้ด้วยติดธรรมเนียมไทยๆ นั่นทำให้นักบอลหนุ่มยิ่งยิ้มไม่หุบ
“ชอบจัง การไหว้ ผมเคยได้ยินธรรมเนียมนี้จากประเทศของคุณมันดูจริงใจดี ขอบคุณเช่นกันสาวน้อยของผม”
“คุณไม่ควรเรียก สาวน้อยของผม พร่ำเพรื่อนะคะ” เธอเปรย
เขาเขม้นมอง “ผมไม่เคยเรียกใครแบบนี้เลยนะ”
เอวาต้องเบิกตาโตเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ตั้งแต่ได้คุยกับเขาคนนี้ มีความประหลาดใจมากมายหลายต่อหลายเรื่องจริงๆ
“คุณนี่นะ ไม่เคยให้ดอกไม้สาว ไม่เคยเรียกผู้หญิงด้วยคำหวานๆ อย่างสาวน้อย คุณไม่เคยจีบผู้หญิงเลยจริงๆ เหรอ”
“ทำไมล่ะ ผมดูเจ้าชู้เหรอ นักบอลไม่ได้เจ้าชู้ทุกคนนะ เราอาจจะแค่มนุษยสัมพันธ์ดีเท่านั้นเอง”
เธอหลุดหัวเราะ “ค่ะ มนุษยสัมพันธ์ดี”
เขาหัวเราะเบาๆ บ้าง “ผมเรียกคุณเพราะไอ้ไฟวิบวับๆ บนหัวคุณที่มันเป็นชื่อผมไง ก็คุณเล่นเอาชื่อผมไปเป็นเครื่องประดับบนตัว คุณก็ต้องเป็นสาวน้อยของผมสิ”
“แฟนคลับใครเขาก็ใส่กันทั้งนั้น” เธอว่าลอยๆ แต่คนข้างตัวกลับปฏิเสธทันควัน
“ไม่อะ ไม่เห็นมีใคร มีคุณคนเดียว”
“อ้าว” เธอทำหน้างง “ก็ศิลปินนักร้องดารา มีเยอะแยะไป อย่าบอกว่าคุณไม่เคยเห็น” วันๆ พ่อคุณจะอยู่แต่ในสนามบอลไม่รู้เห็นแวดวงบันเทิงเลยหรือไง
“ผมเป็นนักบอล ไม่ใช่ดารา ไม่เคยมีใครใส่ป้ายชื่อผมบนหัวมาเชียร์แบบคุณ”
“ฉันมีเต็มบ้านเลยนะเอาจริงๆ ป้ายไฟ ครอสติช ผ้าห่ม โปสเตอร์รูปคุณอีกเพียบ” เธอได้ทีเล่าเป็นคุ้งเป็นแคว
เขาทำหน้าและน้ำเสียงแหย่ “นี่แฟนคลับโรคจิตหรือเปล่า”
เธอจิกตาทำหน้าจิตใส่เสียเลย “อืม ถ้าฉันเป็นแฟนคลับโรคจิต คุณกลัวไหมล่ะ”
“ไม่” เขาตอบหน้าตาเฉย อมยิ้มอีกต่างหาก “ถ้าน่ารักขนาดนี้ผมยอม”
“นักบอลปากหวาน”
“กับคุณคนเดียว”
“อย่างนี้ยิ่งไม่น่าเชื่อเลย เพราะคุณรู้ว่าฉันชอบคุณมาก เครซี่คุณสุดๆ คุณเลยทำแบบนี้ใช่ไหม”
ใบหน้าของอเลสซานโดรดูเครียดขึ้น “ไม่นะ ที่ผมบอกไง ผมเห็นคุณยืนอยู่หน้าสเตเดียม ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใครแต่ผมกลับถูกใจสุดๆ แล้ววันนี้ผมก็เซอร์ไพรส์แทบแย่ที่เห็นคุณมาเชียร์ผม ผมถึงบอกว่าดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้งไงครับ”
จริงด้วย ว้าว นี่ยังไม่ทันทำดั้งอัปนมเลย เขาก็เห็นเธอได้ด้วยตัวเอง ดีใจจัง แล้วเขาก็ดึงมือเธอไปกุมอีกครั้ง
“ผมมีเวลาไม่มากนะเอวา แต่ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้”
“คุณแกล้งหยอกใช่ไหม”
“ไม่นะ ผมรู้สึกดีกับคุณจริงๆ” เขาสบตาเธอแน่วนิ่ง คำต่อมายิ่งทำเธอตาค้าง
“ผมคิดว่า เราต้องลองคบกัน”
“หา!”
“ใช่ เพื่อจะได้รู้ใจกันไง” เขายืนยัน ยื่นหน้ามาใกล้ๆ “และผมไม่มีเวลามากนัก ดังนั้น เราจะเริ่มเดตกันพรุ่งนี้เลย โอเคนะสาวน้อย”
เอ่อ...เอ่อ...ยังไงดียายเอวา ก็มาขนาดนี้แล้วก็ต้องเซย์เยสอย่างเดียวแล้วล่ะ!