“อ๊ะ จริงอะ” เพื่อนยื่นหน้ามาขู่ “จ่ายเองนะจ๊ะเปิดห้องใหม่น่ะ พี่มังกรให้งบมาห้องเดียว”
เธอทำปากคว่ำอย่างขัดใจ “เออๆ งั้นอยู่ห้องเดิมก็ได้ แต่ข้าวนั่นแหละย้ายไป แล้วบอกพี่มังกรด้วยว่าเอกลัวข้าวหื่นใส่เพื่อความปลอดภัย”
ข้าวใหม่หัวเราะร่วน “โอเค พี่มังได้เรียกเอกลับด่วนแน่ เหลือข้าวทำงานคนเดียว”
“โอ๊ย ทั้งขึ้นทั้งล่อง โอเคๆ ยอมเปลืองตัวสักคืนก็ได้ เพื่ออเลสซานโดรที่รัก” เอวาว่าแล้วทำหน้าเพ้อฝัน จนเพื่อนทนไม่ได้แขวะเสียงดัง
“เคลิ้มซะขนาดนี้ หมดรมณ์เลย ไปหาไรกินกันเถอะหิวแล้ว” ข้าวใหม่เปลี่ยนเรื่องแล้วโอบไหล่เธอเดินไปด้วยกัน
หากเดินได้สามก้าวเธอก็หยุดกึกจนเพื่อนแทบหน้าคว่ำหันมาบ่นใส่ “อะไรอีกเอ”
“โทษๆ พอดีนึกอะไรออก เมื่อกี้คนขายเสื้อมือสองน่ะ พอเอซื้อเสร็จ เขาก็เดินลิ่วไปขึ้นรถเลย”
“แล้วไง ขึ้นรถฟักทองเหรอถึงต้องทำหน้าสงสัยขนาดนั้น”
“เออ!” เธอถลึงตาใส่เพื่อนแล้วว่า “ไม่ใช่ ขึ้นรถลีมูซีนคันยาวเลยนะ อย่างหรูอะ”
คราวนี้เพื่อนนิ่งไป คิ้วขมวดนิดๆ แต่แล้วก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ก็คงขับแท็กซี่ด้วยมั้ง แท็กซี่เมืองนอกก็เป็นรถลีมูซีนได้นะ ไปเหอะ หิวแล้ว”
เอวาได้แต่เก็บความสงสัยไว้ จะบอกว่าชายคนนั้นไม่ได้ขึ้นนั่งอย่างคนขับสักหน่อยก็ขี้เกียจพูดแล้ว เมื่อเพื่อนเอ่ยเมนูอาหารน่าสนใจมากมายให้เลือกจึงลืมคำถามต่างๆ ไปสิ้น
----------
คืนนั้น เมื่อสองสาวเข้าห้องพักเรียบร้อย เอวาก็กระตือรือร้นหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้หายเข้าห้องน้ำไป ครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าจะออกมา ทว่าทำเอาข้าวใหม่ถึงกับอึ้ง ขณะที่เธอยืนเท้าเอวยกสะโพกจิกปลายเท้ามองตัวเองโพสท่าอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องพักโรงแรม ประหนึ่งเป็นชมพู่ อารยาไปเดินแบบที่เมืองคานส์แล้วช่างภาพกำลังกดชัตเตอร์รัวๆ เพียงแต่ตรงนี้ไม่มีช่างภาพ ไม่มีแสงแฟลชวูบวาบ มีแต่เสียงลมแอร์
ฟังดูก็คล้ายๆ ใครกดถ่ายรูปนั่นแหละ!
“ข้าว ข้าว ยายข้าวใหม่!” เอวาเรียกเพื่อนพลางโบกมือไปมาตรง หน้า หากเพื่อนยังยืนนิ่ง
“จิตหลุดไปแล้วเหรอ อยู่ๆ ก็นิ่งไปเลย”
เพื่อนได้สติถลึงตาใส่ “จิตหลุดอะไรกันล่ะ ฉันยืนตะลึงอยู่แม่คุณ! แน่ใจนะว่าจะใส่ชุดนี้เข้าสนาม ในวันแข่งที่ Axl เป็นทีมเหย้า คนเชียร์เต็มสนามเป็นล้านเลยนะ”
เอวาเม้มปากที่ทาสีเลือดนก บิดสะโพกนิดๆ ยืดอกจนเห็นทรวงเต็มสวยใต้เดรสผ้าสีแดงเพลิงที่คลุมเต้าทั้งสองพอดิบพอดี ปลายผ้าพันรอบคอแล้วผูกไว้ตรงท้ายทอย เปลือยแผ่นหลังขาวเนียน ดีไซน์เก๋ให้ท่อนล่างซึ่งก็คือกางเกงขาบานที่มองเผินๆ คล้ายกระโปรงยาวรอบเอวแนบลำตัวเห็นหุ่นบางเฉียบ
“แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก ยิ่งคนเป็นล้านยิ่งต้องแต่งอย่างนี้ละ นี่ยังไม่หมดนะ ต้องมีแอกเซสเซอรี่ช่วย” เธอว่าแล้วล้วงหาของในกระเป๋าผ้าใบใหญ่อยู่ครู่ จนได้สิ่งที่ต้องการก็โบกไปมาโชว์ “นี่ไง”
“เฮ้ย!” เพื่อนถึงกับอุทานตาโต “เอาจริงดิ”
เอวากระหยิ่มยิ้มย่อง “จริงสิ ลงทุนมาขนาดนี้แล้ว ยังไงเอก็ต้องทำให้อาเลสเห็นให้ได้ อย่างน้อยแค่ชายตามามองแล้วยิ้มให้ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว”
ข้าวใหม่อ้าปากค้าง หน้าแหย ทำตาปริบๆ ก่อนบอกเสียงอ่อย
“งั้นฉันขออยู่ห่างๆ แกแบบไม่ได้มาด้วยกันอย่างนั้นเลยนะ ยายเอวา!”