ทดลองอ่าน ปฏิบัติการนางฟ้าบัลลงดอร์ : ตอนที่ 4

 

 

ตอนที่ 4

 

 

“เอ่อ อ๋อ พอดีมีคนมาขายเสื้อแล้วลืมให้เงินเลยวิ่งตามมาเนี่ย” เธอเล่าพลางกระชับเสื้อที่เพิ่งได้มาหมาดๆ กอดแก้หนาว

“เสื้ออะไรดูหน่อยสิ” เพื่อนเอียงหน้าเข้ามาเมียงมอง เอวายื่นเสื้อสเวตเตอร์ในมือให้ดูพลางกางออกให้เห็นทั้งตัว

ข้าวใหม่ขมวดคิ้ว จับดูอย่างสำรวจทั้งขยี้เนื้อผ้าในมือ มองตราบน อกเสื้อและชื่อของเทพบุตรหนุ่มในใจเธอ จ้องไปถึงตะเข็บเสื้อ

“อะไรยายข้าว” หญิงสาวถามอย่างเกรงๆ เหมือนว่าเสื้อตัวนี้จะมีปัญหา

“แกว่าใครขายให้นะ” เพื่อนถาม ตายังคงกวาดมองเสื้อหนาวในมือเธอ เมื่อเอวาย้ำอย่างติดตลกว่าเป็นชายร่างท้วมดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆ อย่างกับกลัวใครจะมาเจอว่าขายของมือสอง ข้าวใหม่ไม่ขำด้วย กลับขมวดคิ้วจนแทบผูกโบได้

“นี่ไม่ใช่ของมือสองนะ” เพื่อนยังจับเสื้ออย่างสนอกสนใจ

“อ้าว ก๊อปเกรดเอเหรอ” เอวาเสียงอ่อย คิดว่าเสียรู้คนที่นี่ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเสียแล้ว

“ใครว่า นี่มันของแท้เลยล่ะ! เนื้อผ้าการตัดเย็บอย่างนี้ ข้าวเคยเห็นพวกนักบอลใส่กันบ่อยๆ แต่ก็แปลกอีกแหละของแท้ใครจะมาวิ่งขายนอก ชอปนอกสนามได้”

ลมลูกใหญ่พัดมาอีกระลอกจนสะท้าน เอวารีบใส่เสื้อที่เพิ่งได้มาไม่กี่นาทีแล้วกอดอกแน่น “ว้าว เสื้อดีมากเลยนะ อุ่นทันทีเลย”

“แกใส่เลยได้ยังไงยายเอ เกิดคนที่ใส่มาก่อนเป็นกลากเกลื้อนเชื้อราในร่มผ้า”

เอวาชะงักไปนิด แต่แล้วก็ยกแขนเสื้อขึ้นดม “ไม่อะ ฉันพิสูจน์กลิ่นแล้ว เนี่ย” เธอหอมเสื้ออีกฟอดใหญ่แล้วยื่นแขนให้เนื้อผ้าแทบปิดจมูกเพื่อน

“ดมสิข้าว มันหอมนะ หอมแบบน้ำหอมแบรนด์น่ะ”

เพื่อนทำหน้าแปลกๆ “ไม่รู้สิ ก็หอมอยู่แต่ข้าวไม่รู้จักน้ำหอม กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหรือเปล่า”

“บ้า” เธอว่า แล้วยกแขนขึ้นดอมดมอีก “กลิ่นอย่างนี้มัน...บุลการีแมน (Bvlgari Man) ชัวร์”

“รู้ได้ไง แกก็ไม่เห็นจะใส่น้ำหงน้ำหอม ทาแต่แป้งเด็ก” เพื่อนยื่นจมูกทำเป็นดมซอกคอเธอ “นี่ถ้าใครได้กลิ่นคงคิดว่าเป็นแม่ลูกอ่อน อาบน้ำลูกแล้วก็ขโมยแป้งลูกใช้ซะเลย”

“บ้า” เธอตีแขนเพื่อนเพียะ “หน้าตาละอ่อน หุ่นเพรียวขนาดนี้มาหาว่าเป็นแม่ลูกอ่อนได้ไงยะ” เธอจิกตาใส่เพื่อน

“ก็มันจริงอะ แล้วตกลงมั่นใจได้ไงว่าน้ำหอมสุดหรู”

หญิงสาวเชิดหน้า “โธ่ เอวานักข่าวสายบันเทิงลืมแล้วเหรอจ๊ะ ก็ต้องเจอเซล้งเซเลบไง น้ำหอมกลิ่นนี้น่ะ ณดวงใส่ประจำ เวลาไปสัมภาษณ์นี่รู้เลยว่าตัวจริง”

“อ๋อ” เพื่อนลากเสียงยาว “ลืมไป แต่เอ๊ะไหนว่าสายจเรทำทุกอย่างไง”

เอวารีบกดคางลงเลิกชูคอเป็นกิ้งก่าแล้วทำเป็นบอกปัด “เออๆ นั่นละ สายไหนก็ช่างเหอะมาถึงนี่แล้วก็แล้วกัน ไม่ไหวแล้วถึงจะมือสองไม่ได้ซักก็ขอใส่ไว้ก่อนแล้วกัน หนาวเกิน”

เธอกอดอกแน่นขณะที่เพื่อนยื่นบัตรให้พร้อมสายยาวเหยียดมีตราประจำทีม Axl เด่นหราน่าประทับใจสุดๆ ข้าวใหม่รีบกำชับเธอว่า

“บัตรเข้าสเตเดียม คล้องคอไว้เลยนะห้ามหายเด็ดขาด ข้าวเข้าไปฟุดฟิดอยู่ตั้งนานสองนานกว่าเขาจะยอมทำเพิ่มให้ วันจริงไม่มีเข้าไม่ได้นะจ๊ะ อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมา อดเจอแน่พ่ออเลสซานโดรสุดหล่อของแกน่ะ”

เอวาจับคล้องคอทันทีพลางยกบัตรขึ้นมาจูบ เอ่ยอย่างมั่นใจ “จ้า จะใส่นอนด้วยเลย ขอบคุณมากนะจ๊ะข้าวใหม่คนดี จุ๊บๆ” เธอยื่นหน้าไปจะหอมแก้มเพื่อน ข้าวใหม่รีบยันไหล่เธอให้ออกห่าง

“ไม่ต้องเลย จั๊กจี้ เดี๋ยวจูบคืนแบบ French Kiss เลยนะ ข้าวยิ่งไม่นิยมผู้ชายอยู่อย่าลืมสิ ชอบสาวขาวเนียนอย่างเอวาคนสวยเนี่ยแหละ”

เอวารีบกระโดดโหยงถอยห่างเพื่อนทันใด ยิ่งเห็นสายตากะลิ้ม-กะเหลี่ยไม่น่าไว้ใจของข้าวใหม่ก็รีบพูดดักคอ “อย่าๆ นี่เพื่อนฝูง ไม่ใช่เด็กสาว กินไม่ได้นะจ๊ะ”

ข้าวใหม่ยังทำเป็นยิ้มพิมพ์ใจ หยิกแก้มเธอเร็วๆ อีกต่างหาก “ก็อย่าทำตัวน่ารักนักสิ เดี๋ยวจัดเลยคืนนี้”

“บ้า!” เอวาโวยลั่นแล้วยื่นคำขาด “งั้นแยกห้อง”



กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com