รงรองตีอกเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยความไม่พอใจ แล้วเธอก็ได้รู้ว่าตัวเองพลาดอีกแล้ว...เมื่อชายหนุ่มดึงแว่นสายตาของเธอออก แล้วริมฝีปากแกร่งกร้าวก็ประกบลงมาอย่างดุดันจนหญิงสาวใจสั่น สองมือน้อยพยายามทุบตีเขาให้ปล่อย แต่เธอก็สู้แรงเขาไม่ได้ พอจะกัดปากเขา นรธีร์ก็หลบทันจนน่าโมโห ก่อนที่ชายหนุ่มจะประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง คราวนี้เขานุ่มนวล อ่อนหวาน...จนหัวใจเธอสั่น
“พี่...อือ...”
ร่างกายที่สั่นสะท้านไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ทำให้นรธีร์คิดอยากจะหยุดงานแล้วฮันนีมูนกับเมียที่บ้านสักหลายๆ วัน หลายๆ คืน ชายหนุ่มลูบไล้เรือนร่างระหง ก้มลงบดจูบคลึงเคล้าริมฝีปากอวบอิ่มหอมหวาน ก่อนจะซุกไซ้พวงแก้มแดงระเรื่อ ไล่ต่ำลงไปจนถึงแอ่งชีพจรที่เต้นเร่า
รงรองสะดุดลมหายใจตัวเอง เธอหอบหายใจกระเส่า แต่ก็ยังมีสติมากพอที่จะผลักเขาออก จนชายหนุ่มที่ไม่ทันระวังเซถอยหลังจากร่างกายอ่อนนิ่มของภรรยา
เธอมองเขาไม่ชัดเพราะไม่ได้สวมแว่น แต่ก็ยกมือขึ้นปิดทรวงอกของตัวเองตามสัญชาตญาณ รงรองหอบหายใจแรง และพูดอะไรไม่ออกเลย เธอรู้แค่ยังกำบัตรเครดิตของเขาอยู่ด้วยความตื่นเต้นปนตกใจ
นรธีร์ยกนิ้วขึ้นลูบริมฝีปากตัวเอง เสียดายความหอมหวานที่เพิ่งผละออกจากการโรมรัน แต่เขาเองก็ตั้งใจไว้แล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่มีอะไรแบบนั้น เขาไม่ได้รักเธอ! และเธอก็ไม่ได้รักเขาเช่นกัน...เขาแต่งงานกับเธอแค่เพราะความคิดชั่ววูบ และความโกรธที่เธอสวมชุดอวดเนื้อหนังมังสามายั่วให้เขายกเลิกงานแต่ง! มาถึงตอนนี้เอาจริงๆ นรธีร์ก็ไม่รู้ว่าจะยังไงต่อ เขารู้แค่ว่าวันนึงยังไงก็ต้องหย่า
เธออยากกลับอเมริกา เขารู้ และเขาจะไม่รั้งไว้หรอก
ได้เสพสมร่างกาย แต่ไม่ได้หัวใจ แล้วมันจะไปมีค่าอะไร
รงรองสะดุ้งเมื่อเขาเข้ามาใกล้ แต่ชายหนุ่มก็แค่สวมแว่นสายตากลับคืนให้เท่านั้น เมื่อหญิงสาวเห็นภาพตรงหน้าชัด เธอจึงเห็นว่าเขากำลังมองเธอด้วยสายตาดุดัน แต่ผิวแก้มของเขาก็กำลังเห่อแดง ลมหายใจติดขัด ไม่ต่างจากเธอเลย
“อย่าเล่นกับไฟ” เขาเตือนเสียงขรึม “พี่จะลงไปรอที่โต๊ะอาหาร รีบอาบน้ำตามลงไปเร็วๆ ด้วย อย่าให้พี่ขึ้นมาตาม...”
เขาลูบแก้มเธอ เลื่อนปลายนิ้วมาจนถึงลำคอ นวลไหล่ ต้นแขน แล้วลูบลงมาจนถึงปลายนิ้ว ก่อนจะละมือไป เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอไม่ทำตามคำสั่งของเขา
“เข้าใจไหม”
“ค...ค่ะ”
รงรองพยักหน้า เสียงสั่น ตัวสั่น พอเขาเดินออกจากห้องไปแล้ว ร่างระหงก็ทรุดลงนั่งบนพรมปูพื้นทั้งแข้งขาอ่อนแรงไปหมด ผิวกายของเธอเห่อร้อนเหมือนถูกจู่โจมด้วยพิษไข้
“บ้าไปแล้วงาม”
เสียงหวานสั่นสะท้านตำหนิตัวเองที่ดันไปรู้สึกอะไรกับสัมผัสของเขาเสียได้ ทั้งที่เมื่อก่อนนี้เธอไม่เคยรู้สึกอะไรกับเขาเลย นอกจากเป็นพี่ชายของคู่หมั้น!
ไม่รู้สึกอะไร...
รงรองคิดทบทวนอดีตของตัวเองอย่างสับสน เมื่อก่อนนี้เธอไม่รู้สึกอะไร หรือ ‘ไม่มีสิทธิ์’ จะรู้สึกอะไรกับเขา เพราะเขาเป็นพี่ชายของนพวินทร์ เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
พอคิดดูดีๆ ผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงตอนอายุสิบห้าก็คือเขา...
ตอนนั้นเธอปีนต้นไม้เพื่อนำลูกนกตกรังกลับเข้ารังเดิมของมัน แต่เพราะปีนต้นไม้ไม่เก่ง เธอเลยเกือบตกลงมา โชคดีวันนั้นเขามาที่บ้านพร้อมครอบครัวของเขา เขาเลยรับตัวเธอไว้ได้ทันจากทางด้านหลัง
ตอนตกตุ้บลงไปในอ้อมกอดของเขา สบตากับเขาใกล้ๆ หัวใจเธอเต้นเร่า ใบหน้าแดงร้อนไปหมด และเธอก็ใจเต้นแรงมากด้วยตอนที่เขาอาสาจะปีนต้นไม้พานกน้อยขึ้นไปส่งที่รังให้จนสำเร็จ
‘ขอบคุณค่ะพี่ธีร์’
เธอบอกเขาใบหน้านิ่งเรียบ แต่ดวงตาเป็นประกายของความสุข
นรธีร์มองเธอด้วยสายตาที่เด็กสาววัยแรกแย้มอ่านไม่ออก ก่อนที่เขาจะยิ้มให้แล้ววางมือลงบนศีรษะ
‘ใจดีจังนะเรา...คนดีของพี่’
รงรองไม่เคยลืมความรู้สึกหัวใจเต้นแรงในวันนั้น แต่เธอไม่เคยมีโอกาสได้คิดว่ามันเกิดจากอะไร เพราะไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องไร้สาระ แค่คิดเรื่องเรียนยังไงให้เก่งสมกับที่บิดาคาดหวัง เธอก็หนักไปทั้งหัวใจแล้ว
รงรองทบทวนอดีตกับหัวใจตัวเองในปัจจุบันอย่างสับสน
ไม่รู้สึกอะไร...
เธอไม่รู้สึกอะไร...
จริงๆ เหรอ