ทดลองอ่าน เมียรัก(ษ์) : ตอนที่ 1

 

 

 

ตอนที่ 1 

 

 

“เจ้าบ่าวหนีไปแล้ว!”

เสียงซุบซิบที่ดังเข้าหูหญิงสาวสะสวยในชุดเจ้าสาว ทำให้ ‘รงรอง’ แอบเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เธอทำเป็นนั่งนิ่งให้ช่างแต่งหน้าช่วยกันประโคมเครื่องสำอางตบแต่งใบหน้านวลเนียน หลับตาให้ติดขนตาปลอม แต่ใจจดจ่ออยู่ที่หู ซึ่งดูเหมือนสองสาวใช้ฝาแฝดของบ้านเจ้าบ่าวที่กำลังซุบซิบกันระหว่างเข้ามาช่วยหยิบนั่นจับนี่ในห้องจะไม่รู้ว่าเธอแอบได้ยิน

“ชู่ว์! เบาๆ สิ”

สาวใช้แฝดพี่เหลือบมองว่าที่เจ้าสาวที่แสนน่าสงสารในคืนนี้ เมื่อเห็นว่านางแบบสาวยังมีสีหน้าปกติดี ก็หันไปเม้าท์มอยต่อ โดยที่หารู้ไม่ว่ารงรองหูดียิ่งกว่าแมว!

“ยายเอียดเพิ่งบอกฉันเมื่อกี้เองว่าคุณวินทร์ไม่อยู่ที่ห้อง นี่คุณท่านกับคุณหญิงตามหาให้ควั่กเลย แต่หายังไงก็หาไม่เจอ”

“หูย...” อีกคนยกมือปิดปาก กระซิบเสียงเบาหวิว “นี่มันหนังม้วนเก่าชัดๆ คราวก่อนเจ้าสาวหนีไปเมืองนอกตั้งกี่ปีนะ แต่พอเจ้าสาวกลับมายอมแต่ง เจ้าบ่าวก็หนีไปเฉย”

“เห็นยายเอียดบอกว่าสามปี” น้ำเสียงนั้นเปี่ยมไปด้วยความเผือกเต็มที่ “ที่ตลกคือคุณหญิงจะให้คุณธีร์แต่งงานแทนคุณวินทร์เว้ย เหมือนในละครเมื่อคืนเลย นี่คุณๆ เขากำลังทะเลาะกันใหญ่โตเลย ในห้องของเจ้าบ่าวนู่นน่ะ”

“อะไรนะ!”

“ว้าย! คุณงาม ขอโทษค่ะ ตายแล้วๆ”

สองเสียงที่ดังมาทำให้สาวใช้ทั้งสองสะดุ้งโหยงจนเท้าแทบจะลอยจากพื้น! รงรองผุดลุกขึ้นยืน ไม่ได้สนใจว่าช่างแต่งหน้ากำลังจะทาลิปสติกให้ ตอนนี้เธอเลยมีรอยลิปสติกสีชมพูปาดตั้งแต่ริมฝีปากไปจนถึงกกหู แต่หญิงสาวก็ไม่สน เธอถกกระโปรงเจ้าสาวฟูฟ่องขึ้นสูง แล้วเดินฉับๆ มาหยุดตรงหน้าสองสาวใช้ขี้เม้าท์ที่กำลังนั่งจับมือกันตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

“พาฉันไปห้องแต่งตัวเจ้าบ่าวเดี๋ยวนี้”

“ค่ะๆ เดี๋ยวนี้ค่ะ”

สาวใช้สองคนในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินเข้มรีบเดินนำหน้าเจ้าสาวที่ถอดรองเท้าส้นสูงทิ้ง แล้ววิ่งเท้าเปล่าตามไปพร้อมกับหอบกระโปรงไปด้วยอย่างยากลำบาก รงรองหัวเสียสุดๆ เธอเกือบจะยิ้มออกมาแล้วที่ได้ยินว่าเจ้าบ่าวของเธอหนีไป หนีสิ! หนีไปเลย! งานแต่งบ้าบอนี่จะได้ยุติ แต่นี่อะไร พอแต่งกับน้องไม่ได้ ยังจะดั้นให้เธอแต่งกับพี่ชายเขาอีก

จะเรือล่มในหนองให้ทองมันงอกเงยอะไรนักหนา

ไม่กลัวว่าเต่าปลามันจะคาบทองไปกินจนหมดตัวบ้างหรือไง!

รงรองอยากจะพูดแบบนี้ต่อหน้าบุพการีชะมัด แต่ด้วยความที่พวกท่านเลี้ยงดูหญิงสาวมาไม่ต่างจากนกน้อยในกรงทอง ทำให้รงรองเคยเป็นผู้หญิงเย็นชา เก็บกด ไม่มั่นใจในตนเอง เวลาบิดาสั่งให้ทำอะไร เธอก็ตอบได้แค่ ‘ค่ะ ค่ะ ค่ะ’ แล้วทำตามโดยไม่ปริปากบ่นเสมอมา

เรื่องหมั้นหมายกับ ‘นพวินทร์ พนิตนันท์’ ก็เหมือนกัน รงรองถูกจับใส่แหวนหมั้นทันทีที่เธออายุครบสิบแปดปี พิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ทั้งที่รงรองกับนพวินทร์ไม่เคยรักกันแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่เธอก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเธอสอบหมอไม่ติด เธอก็ยิ่งต้องรับผิดชอบด้วยการหมั้นหมายกับหมอที่มาจาก ‘ตระกูลหมอ’ เหมือนกันกับตระกูลของเธอ ซึ่งทาบทามกันไว้ตั้งแต่เธอเพิ่งลืมตาดูโลก ไม่แม้แต่จะให้โอกาสมีสิทธิ์อุทธรณ์ และเมื่อเรียนจบพยาบาลเมื่อไร เธอก็ต้องแต่งงานกับหมอนพวินทร์ตามคำบัญชาของบิดาผู้กุมชะตาชีวิตเธอไว้

มันเหนื่อย มันอึดอัด...

รงรองรู้สึกว่าทนแบกรับความคาดหวังของบิดามารดาต่อไปไม่ไหวแล้ว! ตอนนั้นเธอจึงหนีไปโดยที่บิดามารดาตั้งตัวไม่ติด ไปหา ‘โอลิเวีย’ ที่ซานฟรานซิสโก โอลิเวียเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สนิทกับรงรองตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมฯ และยังติดต่อกันอยู่เสมอ รงรองจากไปก่อนถึงวันแต่งงานแค่ไม่กี่วันโดยไม่ร่ำลาใคร ชีวิตข้างหน้าเธอจะเป็นอย่างไรก็ไม่อาจรู้ชะตา จากคุณหนูในบ้านหลังใหญ่ เธออาจต้องทำงานล้างจานเพื่อเลี้ยงชีพก็ได้ แต่มันก็ดีกว่าการอยู่ที่นี่โดยมี ‘ลมหายใจ’ แต่ปราศจาก ‘ชีวิต’

ทว่าโชคชะตาก็ไม่โหดร้ายกับเธอนัก มารดาของโอลิเวียนั้นเป็นดีไซเนอร์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และเห็นแววบางอย่างในตัวเธอ นางปลุกปั้นรงรองจนได้ฉายแสงบนเวทีนางแบบระดับโลก ในเวลาแค่สามปี รงรองที่ใช้ชื่อในวงการว่า ‘ฮันนาห์’ ก็กลายเป็นนางแบบชื่อดัง หลังจากชนะรางวัลด้านการเดินแบบ เธอก็เข้าตาแบรนด์ชุดชั้นในสุดหรู จนได้กลายเป็นนางแบบชาวเอเชียหน้าใหม่ที่ได้เดินแบบชุดชั้นในสตรีบนเวทีระดับตำนาน

แน่นอนว่าบิดามารดาเห็นเธอในสื่อโซเชียล บิดาประกาศตัดหางปล่อยวัดเธอทันที

แล้วสิ่งที่เรียกว่า ‘ชีวิต’ ก็ค่อยๆ เติมเต็ม ‘ลมหายใจ’ ของรงรอง จากหญิงสาวหน้านิ่ง พูดน้อย เธอค่อยๆ กะเทาะเปลือกตัวเองออก แล้วสยายปีกแห่งความมั่นใจ กลายเป็นหญิงสาวสดใส ยิ้มง่าย ชอบเข้าสังคมแบบที่เพื่อนเก่าหลายคนเห็นก็ได้แต่ทึ่ง แล้วก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อกันว่านั่นใช่รงรอง ‘คนนั้น’ จริงๆ

อิสระ... อยู่กับเธอไม่นานนัก

แล้วเธอก็ถูกกระชากมันไปอีกครั้งด้วยข่าวร้ายที่ว่า มารดาของเธอกำลังจะจากโลกนี้ไป

ถึงแม้ว่ามารดาจะเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ไม่เคยปกป้องเธอหรือพี่ชาย เพราะแค่ปกป้องตัวเอง ท่านยังทำไม่ได้เลย...แต่ท่านก็รักเธอ รงรองไม่ลังเลเลยที่จะกลับมาบ้านเพื่อดูใจมารดา เธอจะไม่ยอมเสียใจไปทั้งชีวิตกับการตัดสินใจผิดพลาดด้วยทิฐิมานะของตัวเองเด็ดขาด

ใครจะคิดว่าเรื่องราวในละครหลังข่าวจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ

มันเป็นคำโกหกของบิดาที่ต้องการให้เธอกลับมาแต่งงานกับหมอนพวินทร์ งานแต่งถูกเตรียมไว้แล้ว เหลือแค่เจ้าบ่าว เจ้าสาว มาเข้าพิธีวิวาห์

แหวนทองคำขาวประดับทับทิมล้อมเพชรที่รงรองวางทิ้งไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกับจดหมายบอกลา ถูกนำกลับมาสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธออีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มและน้ำตาของมารดา ส่วนบิดาแทบจะไม่มองหน้าเธอเลย ความโกรธยังแล่นลิ่วอยู่ในสีหน้าของชายวัยกลางคนที่เป็นคนวางแผนกระชากลูกสาวคนเล็กกลับจากแคตวอล์กมาขังไว้ในกรงทองเหมือนเดิม!

รงรองโกรธจนอยากจะกรี๊ด แต่บรรยากาศเก่าๆ ก็กดดันเธอให้รู้สึกอึดอัดกระอักกระอ่วน โดยเฉพาะอ้อมกอดของมารดาที่ดีใจเหลือเกินที่ได้เจอเธออีกครั้ง...

ความรักของมารดาที่เป็นเหมือนพันธนาการแสนอบอุ่น ทำให้เธอเหมือนกลับไปเป็น ‘เด็กหญิงรงรอง รักษ์สกุล’ ที่เติบโตมากับความรักสอดไส้ความอ่อนแอของมารดา และความเข้มงวดต้องได้ตามต้องการเสมอของบิดา จนเธอกลายเป็น ‘โรบอตรงรอง’ ผู้ไม่เคยแสดงอารมณ์ จะให้ทำอะไร...เธอก็จะทำให้ตามบัญชา

‘อิสระ’ กำลังทิ้งเธอไปอีกครั้ง เพราะรงรองไม่สามารถสลัดแหวนหมั้นออกจากนิ้วได้อีกแล้ว เมื่อได้เห็นมารดาแก่ตัวลงอย่างน่าใจหาย

‘แต่ว่า...หนูต้องกลับไปทำงานนะคะ’ เธอเลือกจะหันไปคุยแบบมีเหตุผลกับบิดา ไม่กล้าสบตามารดาเลย ‘ถ้าหนูไม่กลับไป หนูต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาเท่าไร พ่อรู้ไหมคะ’

‘รู้!’

หนุ่มใหญ่ตะคอกใส่เสียงดังจนภรรยาหน้าซีดด้วยความเป็นห่วงลูกสาว จับมือรงรองแน่นขึ้นอีก มือของมารดาชื้นเย็น และสั่นเทา...

‘ฉันจ่ายให้แกไปหมดแล้ว ผ่านผู้จัดการของแก แล้วฉันก็ให้เงินมันก้อนหนึ่งเพื่อให้มันหลอกแกกลับมาที่นี่ ฉันถึงจัดงานนี้ขึ้นมาได้ไงเพราะฉันรู้ละเอียดถึงขั้นว่าแกจะกลับมาถึงกี่โมง ตอนนี้มันคงใช้เงินก้อนนั้นสำเริงสำราญกับคู่ขาเกย์ของมันอยู่’

บิดาแสดงสีหน้ารังเกียจอย่างไม่ปิดบัง

‘พวกผิดเพศ ไม่รู้ว่าพ่อแม่เลี้ยงมันมายังไง! คนพวกนี้ต้องตีพ่อแม่มันให้ตาย จะได้ไม่ผลิตลูกวิปริตออกมาอีก รกโลก! นี่ถ้าฉัน...’

‘พอเถอะค่ะ!’ รงรองค้านอย่างเหลืออด ในแบบที่ถ้าเป็นเธอคนก่อนคงไม่ทำ บิดาของเธอถึงกับหันขวับมามอง อดคิดไม่ได้ว่าเวทีโชว์ของลับพวกนั้นทำให้ลูกสาวของเขาเปลี่ยนไปอย่างน่าชัง! ‘จะให้หนูทำอะไรก็ทำ พ่อเลิกพูดถึงผู้จัดการของหนูได้แล้ว’

ได้ยินลูกสาวพูดเช่นนั้นบิดาก็ยิ้มออก เขาหันไปสั่งลูกชายคนโตด้วยเสียงทรงอำนาจ

‘ฤทธิ์ พาน้องไปห้องแต่งตัว’

‘ครับพ่อ’

รงรองกอดปลอบมารดา แล้วลุกเดินตาม ‘ณรงค์ฤทธิ์’ ออกไปพร้อมกับความคิดที่ว่า ‘แต่งได้ก็หย่าได้’ เธอรู้ดีว่าคู่หมั้นของเธอก็ไม่ได้รักใคร่ในตัวเธอ เพราะความจริงแล้วเขาเองก็กำลังคบหาอยู่กับพี่ชายของเธออย่างลับๆ มาหลายปีแล้ว รงรองรู้เพราะไปเห็นแชตที่พวกเขาคุยและส่งรูปหากันแบบ ๑๘+ โดยบังเอิญ แต่ตอนนั้นณรงค์ฤทธิ์กับนพวินทร์ไม่รู้ว่าเธอแอบรู้เรื่องนี้ จนเธอหนีไปจากที่นี่ เธอจึงบอกทั้งสองคนว่ารู้ทุกอย่างมานานแล้วนะ

และเป็นห่วงอยู่เสมอด้วย...

หญิงสาวจับมือพี่ชายที่หน้าห้อง เมื่อเขาหันกลับมา เธอก็สวมกอดเขาด้วยความรักและเห็นใจ

‘รักพี่นะ’

ณรงค์ฤทธิ์เงียบไปนาน ก่อนจะกอดตอบแล้วลูบเส้นผมอ่อนนุ่มของน้องสาวแผ่วเบา เขาค่อนข้างแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของรงรองเหมือน กัน แต่การกล้าแสดงความรู้สึกของน้องสาวก็ทำให้เขาโล่งใจและมั่นใจว่าเธอจะเอาตัวรอดได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน

‘อืม’ เขากระซิบตอบ ‘รักเหมือนกัน’   

 

 

     กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com