“นอนเถอะ นอนเฉยๆ อย่าดื้อ”
“ฉันอยากกลับบ้าน” หล่อนร้องไห้อย่างกับเด็กๆ ไม่โวยวาย หากร้องกระซิกๆ ชวนให้ใจอ่อน
“อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้วน่า เดี๋ยวจะพากลับ คุณกับผมเราพักรบกันสักพัก โอเคไหม” เขาไม่ชอบทำให้ผู้หญิงร้องไห้บนเตียง ถ้าร้องเพราะอย่างอื่นก็อีกเรื่องหนึ่ง นี่เจ้าหล่อนทำเหมือนเขาจะบีบคอให้ตายอย่างนั้นล่ะ ซิกซ์แพ็กส์กับอกแน่นๆ ของเขามันไม่ช่วยอะไรบ้างเลยหรือไงนะ
“ฮือๆ คุณมันเลว รู้ทั้งรู้ว่าฉันกำลังลำบาก คุณก็ยังกลั่นแกล้ง บีบบังคับฉัน คุณยังรวยไม่พออีกหรือไง ทำไมต้องอยากได้สมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อแม่ฉันทิ้งไว้ให้ด้วยหา” หล่อนต่อว่าแถมตะคอกให้อีกด้วย
“ถ้าไม่ขายให้ผมตอนนี้ ถ้าต่อไปอะไรๆ ก็ตกเป็นของผมทุกอย่างแล้วอย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน”
“นี่” แมกโนเลียตัวสั่น ปากสั่นด้วยความโกรธ “คุณยังจะมาขู่ฉันอีกเหรอ คุณไม่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนอื่นบ้างเลยหรือไงนะ” หล่อนทุบอกเขาแรงๆ จนต้องคว้าหมอนมากั้นไว้
“ก็ได้ๆ ถือว่าผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ก็แล้วกัน เลิกร้องได้แล้ว นอนซะ พรุ่งนี้จะพาพวกหมาๆ ไปส่งบ้านแบรดลีย์ด้วยดีไหม” เขาเผลอปลอบแบบที่เคยทำ นานมากเหลือเกิน สมัยที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มและหล่อนเป็นเด็กหญิงแสนซนที่วิ่งตามเขาไปทุกที่
แม็กซ์จ้องมองดวงหน้าหวานที่ซ้อนทับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กหญิงคนนั้น หนูน้อยแมกโนเลียที่เป็นแก้วตาดวงใจของทุกคน ลูกสาวครอบครัวมอริสที่แสนดีและเป็นที่รัก แม็กซ์จำได้ว่าเวลาบิดามารดามีปากเสียงกัน ถ้าหากไม่ไปอยู่กับเจมส์ บราวน์เขาก็ขลุกอยู่กับเด็กหญิงในบ้านพักทหารของมาร์ค มอริสจนบิดาหรือมารดามาตามกลับบ้าน
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสามทหารเสือต้องออกรบนานร่วมปี เมื่อกลับมารอบแรกเจมส์ บราวน์ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรงจนต้องออกจากราชการทหาร มาร์ค มอริสทนความโหดร้ายของสงครามไม่ไหวเขายื่นหนังสือลาออกมาใช้ชีวิตอย่างสงบ มีเพียงบิดาของเขาที่กระโจนกลับเข้าไปในไฟสงครามอย่างบ้าคลั่ง
“โอ๊ย เจ็บนะ” เขาเผลอบีบต้นแขนบาง “ไม่ต้องมายุ่ง ฉันไปเองได้!” หล่อนสะบัดเสียงตอบ
“อย่าเถียง ผมง่วงแล้ว อีกอย่างคุณก็ต้องพาผมไปหาหมอฉีดยาด้วย ถ้าผมติดเชื้อคุณต้องรับผิดชอบ”
“บ้า” หล่อนร้อง สองมือกอดอก ดันออกห่างแผงอกที่แนบชิดจนได้กลิ่นจากกายเขา มันทำให้หล่อนใจหวิวยังไงชอบกล
“ไม่ต้องกลัวผมปล้ำหรอก ผมนิยมสาวบลอนด์ ขาเรียวยาว น่องสวยๆ หรือสาวบรูเน็ต ตาคมรูปร่างอวบอิ่มทรงเสน่ห์ ไม่ใช่เด็กกะโปโลไซซ์มินิอย่างคุณ อีกอย่างวันนี้ผมไม่มีอารมณ์แล้วด้วย”
“งั้นก็ปล่อยฉันสิ” หล่อนประท้วง
“นอน!” เขารวบร่างหล่อนทุ่มตัวเบาๆ ลงบนที่นอนนุ่มกลิ่นหอมสะอาด กดศีรษะเล็กให้แนบอกมือหนึ่ง อีกมือปล่อยไปตามอารมณ์อันอยากแกล้งเผลอไผลประสาชายหนุ่ม แมกโนเลียเม้มปากแน่น กลั้นใจ ขืนตัวไว้จากสัมผัสร้อนผ่าวของปลายนิ้วแกร่ง ไม่นานลมหายใจหอบๆ ของเขาก็สงบลงเป็นลมหายใจยาวๆ สม่ำเสมอ ทิ้งให้หล่อนค้อนตาปะหลับปะเหลือก
เหอะ! ถ้าชอบขายาวๆ เรียวๆ แล้วเขามาลูบๆ คลำๆ ขาสั้นๆ ของหล่อนทำไมกันล่ะยะ!
สมองคิดอย่างนั้น แต่ไม่นานร่างกายก็เริ่มปิดการรับรู้ลงทีละน้อย ดวงตางามหรี่ปรือ มือที่ปัดป้องอ่อนแรงลง ไม่นานคนที่แสร้งเป็นว่าหลับไปก่อนแล้วก็ได้ยินเสียงหญิงสาวในอ้อมแขนหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมออย่างคนหลับสนิท แม็กซ์อดไม่ได้ยิ้มน้อยๆ ด้วยความเอ็นดูระคนโล่งอก
เจ้าหล่อนคงดื่มน้ำในแก้วที่ป้าเออร์ม่าวางไว้ให้ข้างเตียง ก่อนที่จะขว้างมันใส่เขาสินะ! ฉลาดจริงๆ แม่สาวน้อย
----------
เช้าวันนั้นในอาณาจักรของแมคมาฮาน ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่แมกโนเลียคิดก่อนจะหลับไป หล่อนตื่นมาพบความว่างเปล่าในห้อง พร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ชุดหนึ่งที่เจ้าคริสตัลนอนทับอยู่อย่างองอาจ หล่อนรีบแต่งตัวลงมาด้านล่างก็ได้พบกับรอยยิ้มสว่างไสวบนใบหน้าเจ้าเนื้อของคุณป้าผิวสีช็อกโกแลตข้น
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณมอริส”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ เรียกหนูว่าแม็กกี้เถอะค่ะ แล้ว...”
“นายออกไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ มีธุระด่วน เคนเนธจะไปส่งคุณกับพวกเด็กที่น่ารักเองค่ะเช้านี้ ทานอะไรก่อนเถอะค่ะ”
“เอ่อ หนูไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”
“อย่างนั้นรับน้ำส้มคั้นสดกับแซนด์วิชติดไปสักกล่องนะคะ นี่ค่ะ ป้าเตรียมไว้แล้ว”
“ขอบคุณมากค่ะป้า...เอ่อ”
“เออร์ม่าค่ะ ป้าเป็นแม่บ้านและพยาบาลส่วนตัวของแมคมาฮาน” นางพูดเสียงกังวานสดใสเสียยิ่งกว่าแดดปลายฤดูใบไม้ผลิ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะป้าเออร์ม่า ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เดาว่าคงเป็นป้าพยาบาลคนนี้ที่ดูแลอาการหมดสติของหล่อนเมื่อคืน แมกโนเลียไม่อยากอยู่รอหาคำตอบจนประมุขของบ้านแมคมาฮานกลับมา หล่อนค้อมศีรษะให้หญิงชรา แล้วก้าวเดินออกมาอย่างสุภาพ รถญี่ปุ่นคันเล็กของหล่อนจอดรออยู่แล้วที่หน้าคฤหาสน์พร้อมเคนเนธที่ยืนรออยู่ ทันทีที่ประตูรถเปิดออกเสียงทักทายด้วยความดีใจล้นท้นของเด็กๆ ก็ดังขึ้นพร้อมกับโถมตัวเข้ามา แมกโนเลียรับมือกับความรักอันบริสุทธิ์นั้นจนอิ่มหนำ ก็หันไปคุยทักทายกับเคนเนธราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ช่างมันเถิดอะไรๆ ที่เกิดขึ้นไปแล้ว...เท่าที่หล่อนพาเด็กๆ รอดออกมาได้แบบนี้ก็ดีหนักหนาแล้ว หล่อนมองคฤหาสน์หลังนั้นผ่านกระจกหลังรถ บอกลาความสง่างามของมันอยู่ในใจเงียบๆ
หลังจากวันนั้นแมคมาฮานก็หายไปเลยจากชีวิตของหล่อน หล่อนแทบจะไม่เห็นเขาที่ฟิตเนสฝั่งตรงข้ามร้านด้วยซ้ำ แมกโนเลียค่อยใช้ชีวิตได้อย่างโล่งอก หล่อนเริ่มจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางได้มากขึ้น ด้วยความที่พาเด็กๆ กลับไปอยู่บ้านแบรดลีย์แล้วและสองสามีภรรยาก็พอใจหล่อนมาก จึงตกลงจ้างหล่อนให้ดูแลเด็กๆ เป็นเรื่องเป็นราวสัปดาห์ละครั้ง พาไปร้านกรูมมิ่งทำสวยหล่อบ้าง และพาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ค่าจ้างงามไม่น้อย นั่นช่วยชีวิตหล่อนไว้ได้มากทีเดียว