แม็กซ์ออกมาจากห้องน้ำในเวลาถัดมา เขาอยู่ในชุดนอนแขนขายาวใส่สบาย ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงของตนเองที่เวลานี้มีสาวน้อยนอนหลับอยู่
“เป็นยังไงบ้างครับป้าเออร์ม่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม มือยังเช็ดผมที่เปียกหมาดๆ เพราะเพิ่งสระใหม่อีกรอบ
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ปล่อยให้นอนพักเถอะ แล้วนั่นคอนายไปโดนอะไรมาคะ”
“แมวข่วน” เขาตอบกล้อมแกล้มมองตัวต้นเหตุตาวาว
“ดีจริง” ป้าเออร์ม่าประชด แล้วให้เขาเข้ามานั่งใกล้ๆ เพื่อจัดการทำแผลให้
“แมวจริงๆ หรือแมวสองขาคะ ถ้าแมวจริงๆ ต้องไปฉีดยาด้วยนะคะ”
“ครับ”
“ส่วนแม่หนูนี่คืนนี้ห้ามแตะอีก ป้าเห็นรอยนะ นายต้องนุ่มนวลให้มากกว่านี้นะกับเด็กสาวๆ แม่หนูนี่ไม่ใช่พวกชั่วโมงบินสูงจะได้รับได้ทุกท่า”
ฟังสิ ฟังปากป้าเออร์ม่าผู้เคร่งครัด ชาวคริสต์ผู้ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์พูดเข้า แต่ละคำบาดลึกทั้งนั้น!
“ยังไม่รู้เลยค่ะว่าลูกเต้าเหล่าใคร ลูกครึ่งเหรอคะ”
“ครับ ไทย-อเมริกัน” เขายกมือลูบท้ายทอย
“หน้าตาไม่เลวนะคะ” ป้าเออร์ม่าพิศมองใบหน้าเล็กๆ นั่น ความเป็นเอเชียในสายเลือดหล่อนครึ่งหนึ่งทำให้เครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม พริ้มเพรา น่ารักไปเสียทุกส่วน แม็กซ์มองตามสายตาของแม่บ้านสูงวัย พลางเอ่ยช้าๆ
“ลูกสาวบ้านมอริส”
“บ้านมอริส เอ๋ นี่นายอย่าบอกนะคะว่านี่คือ แมกโนเลีย มอริส!”
“ครับ” แม็กซ์ทอดถอนใจกับอาการยกมือทาบอกของป้าเออร์ม่า “นี่ละครับ แมกโนเลีย มอริส ทายาทตระกูลมอริสที่เป็นคู่หมั้นของผมที่พ่ออุตส่าห์หามาไว้ให้ตั้งแต่ผมยังไม่แตกหนุ่มด้วยซ้ำ สัญญาลูกผู้ชายชาติทหารบ้าๆ ระหว่างพ่อกับมาร์ค มอริสคนขี้ขลาดยังไงล่ะครับ”
“ฟังพูดเข้า แล้วทำไมเธอถึงได้มานอนสลบอยู่ในห้องนายแบบนี้ล่ะคะ หรือนายคิดชิงสุกก่อนห่าม”
“ป้าเออร์ม่า นี่มันสมัยไหนแล้ว” แม็กซ์ลากเสียงสูงแทบจะปิดความเบื่อหน่ายไว้ไม่มิด “ผมก็แค่เสนอให้เขารับเงินแลกกับที่ของเขานิดหน่อย ผมไม่โง่นี่ครับ มอริสมีอะไรมาแลกกับความมั่งคั่งของแมคมาฮาน จริงอยู่ พ่ออาจตกปากหมั้นหมายให้ผมกับยายเด็กนี่ แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะเป็นผมในวันนี้ ใครมันจะไปคิดว่าผมจะกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมาล่ะจริงไหม ที่สำคัญผมจะไม่ยอมให้ใครมาชุบมือเปิบเอาง่ายๆ เหมือนกัน”
“นายคิดจะทำยังไงคะ”
“ให้เงินหล่อนสักก้อนหนึ่ง ผมจะให้ผ่านการซื้อที่น่ะครับ เพราะแม่คนนี้เขายังไม่รู้เรื่องหมั้น เจมส์ บราวน์ยังไม่ได้ปากโป้งบอกล่ะมั้ง”
“เจมส์ บราวน์! ตายจริงป้าลืมเขาไปเสียสนิท เขาเป็นพยานการหมั้นนี่นะคะ แหม...สมัยนั้น หนุ่มๆ นายทหารทั้งสามนี่ฮอตไม่เบา ขนาดป้าตอนนั้นอายุก็ไม่น้อยแล้วยังจำเรื่องวีรกรรมของพวกเขาได้ เมื่อกลับมาจากสนามรบทีไร ชาวเมืองไปรับพวกเขากันเป็นแถวทีเดียว พ่อของคุณน่ะเท่ที่สุดเชียวล่ะ แล้วพวกเขาทั้งสามก็สาบานว่าจะดองกันผ่านลูกหลาน เรื่องราวมันเหมือนในนิยายทีเดียวละ” มืออูมๆ ของป้าประสานกัน แววตาเพ้อฝัน
“แต่ในชีวิตจริง พ่อของผมคือคนที่ถูกทิ้งให้จมอยู่กับสงครามบ้าๆ นั่นคนเดียว ในขณะที่อีกสองคนเลือกใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายกับครอบครัว”
“คุณพ่อคุณท่านเป็นทหารกล้านะคะ ถึงยังไงก็ยังรักเพื่อน เห็นไหมคะอุตส่าห์จะให้เกี่ยวดองกัน”
“แล้วทำไมต้องเป็นผม ทำไมบราวน์ไม่ลากลูกหลานสักคนมาหมั้นกับเด็กนี่ละ”
“ก็เพราะถึงเขาจะรวยแค่ไหน แต่ลูกหลานของเขาก็ไม่เอาไหนสักคนน่ะสิคะ ยิ่งโตยิ่ง...นั่นล่ะคะ เรารู้ๆ กันอยู่ ลูกชายเขาทั้งสองคนเกเรทำผู้หญิงท้องครึ่งเมืองได้แล้วมั้ง บราวน์คงไม่อยากให้หลานสาวทุกข์ใจ”
“หึ ป้าพูดยังกะผมเหมาะกับเด็กนี่กว่างั้นแหละ”
“โธ่ คุณพ่อคุณมองการณ์ไกล บ้านมอริสเลี้ยงลูกสาวเขามาอย่างดี ส่วนคุณเองอาจจะดูแบดไปสักนิด เถื่อนไปหน่อย แต่คุณก็หล่อ รวย ขยันขันแข็ง ดีกว่าลูกหลานที่ทำตัวเป็นปลิงของบราวน์แน่ๆ ค่ะ เรื่องนี้ป้าเห็นด้วยกับพวกเขานะคะ ทายาทของแมคมาฮานกับมอริสผูกพันกันตลอดกาลโดยมีบราวน์เป็นสักขีพยาน ว้าว”
“น้ำเน่ามาก ป้าพูดอะไรแบบนี้มาไม่รู้กี่รอบแล้วนะครับ แล้วยังไงล่ะ จุดจบของวีรบุรุษสงครามแต่ละคน มาร์ค มอริส หายสาบสูญไปในอุบัติเหตุเรือล่ม พ่อของผมเสียสติจนต้องระเบิดสมองตัวเองตาย ส่วนเจมส์ บราวน์ก็อย่างกับแวมไพร์ ใช้ชีวิตแสนน่าเบื่อบนกองเงินกองทองมหาศาลที่ลูกหลานกำลังผลาญเล่น”
“อย่าไปว่าพวกเขาอย่างนั้นเลย...ยังไงเสียครั้งหนึ่งทั้งสามก็เป็นผู้เสียสละเพื่อชาติ ว่าแต่บราวน์จะว่ายังไงบ้างคะเรื่องนี้”
“เขาก็ยังคงรังเกียจผม และคงคิดว่าผมไม่ดีพอสำหรับยายเด็กนี่ เหมือนที่คิดว่าผมไม่เคยดีพอที่จะเป็นเหมือนพ่อวีรบุรุษของผม” แม็กซ์อดประชดประชันไม่ได้ ความขมขื่นของการเกิดในครอบครัวทหารที่ต้องทนมองมารดาใช้ชีวิตเสเพล เพื่อชดเชยกับที่ถูกบิดาละทิ้งไปสนามรบหลายต่อหลายครั้งทำให้เขามีอคติ
“แบบนี้เองนายก็เลยแกล้งเอาตัวเธอมา ร้ายนะคะ แกล้งคนแก่”
“ป้าเออร์ม่าก็รู้ว่าตาแก่นั่นเคยร้ายกับผมมากขนาดไหน” ดวงตาสีเข้มวาววับ
“โอยป้าปวดหัวแทน ท่าทางมันจะยุ่งนะคะ เราพาแม่หนูนี่มาค้างแบบนี้ เจมส์ บราวน์รู้เข้าคงโมโหมาก”
“ก็ดีสิครับ” เขาลุกขึ้นยืน ป้าเออร์ม่ารู้ในทีว่าคงได้เวลากลับบ้านพักแล้ว
“เกเรจริงๆ เอาละๆ อยากเล่นก็เล่นไป แต่รักษาตัวด้วยนะคะ ป้าง่วงแล้วขอตัวไปนอนก่อน”
“ครับ ผมไปส่ง” แม็กซ์เดินตามป้าเออร์ม่าลงมาที่ชั้นล่าง เขาเปิดประตูให้นาง ระหว่างที่กำลังหมุนตัวกลับเสียงป้าก็ลอยมาตามลมว่า
“อย่าลืมนะคะ คืนนี้ห้ามรังแกคู่หมั้นอีกเด็ดขาด”
“ป้าครับ” แม็กซ์ทำเสียงเข้ม กระแอมในลำคอ อดรู้สึกหน้าร้อนผ่าวราวกับเด็กหนุ่มๆ ไม่ได้
แต่ทันทีที่เขากลับมาถึงห้องนอนของตนเอง แค่เปิดประตูห้องเข้าไปเท่านั้น แก้วน้ำใบหนึ่งก็พุ่งลิ่วมาหา เขาหลบมันได้ทันเพียงสักนิ้วหนึ่งเห็นจะได้ มันจึงพลาดไปกระแทกประตูหล่นแตกกระจาย
“เฮ้! จะฆ่ากันหรือไง”
“คนเลว” หล่อนขยับหนีจนชนหัวเตียง คราวนี้คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทั้งเครื่อง
“เดี๋ยวๆ ขอสงบศึกก่อนแม่คุณ”
“ไม่ นายมันเลว รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ หัวขโมย”
ฟิ้ว!
โครม!
วินาทีนั้นแม็กซ์ แมคมาฮานก็ลืมคำเตือนของป้าเออร์ม่าไปหมดสิ้น เขาพุ่งไปที่เตียงรวบร่างบางไว้ในอ้อมอกที่อุ่นจนร้อน กอดรัดแนบแน่นจนหล่อนแทบหายใจไม่ออก แมกโนเลียรู้สึกโหวงเหวงราวกับจะสิ้นสติลงไปอีก หล่อนหลับตานิ่งๆ น้ำตาซึม