ทดลองอ่าน ปลายปากกาอินเลิฟ 2 เรื่อง ใต้ร่มแมกโนเลีย : ตอนที่ 7

 

 

ตอนที่ 7

 

 

เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่รถญี่ปุ่นคันเล็กตามติดรถแวนสมรรถนะสูงแบบกัดไม่ปล่อย แม้จะถูกสลัดหลุดไปบางช่วง แต่เจ้าหล่อนก็โผล่มาจ่อท้ายรถอย่างไม่ลดละ เจมส์ แมคเครย์ต้องเพิ่มความเร็วออกห่างเพราะเจ้าหล่อนเริ่มบีบแตร

“ไม่เบานะครับ สาวน้อยแมกโนเลียคนนี้ เล่นแบบนี้ไม่นานตำรวจคงแห่กันมา”

“ข้ามสะพานไป!” สิ้นเสียงสั่ง พวงมาลัยรถก็หักเลี้ยวออกทางแยกขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำนิวริเวอร์ไปอย่างรวดเร็ว หนทางข้างหน้าคือทางอ้อม ลัดเลาะสองข้างทางเป็นป่าสนสูงทั้งทึบทั้งเปลี่ยว รถญี่ปุ่นคันนั้นยังตามมาไม่ลดละ

“ความพยายามเยี่ยม แต่ใช้สมองน้อยเต็มที เปลี่ยวขนาดนี้ยังตามมาได้ ไม่รู้หรือไงว่าเป็นกับดักล่อ แม่คุณเอ๊ย จะมาตายเพราะหมาสองตัว” สองตาของคนที่นั่งเบาะหลังมองรถคันเล็กที่จี้ตามมาบนถนนสายเปลี่ยว หนแรกเขาคิดจะใช้ครอบครัวแบรดลีย์จัดการรีดเงินจากหล่อนเสียให้เข็ดจะได้รีบขายที่ให้เขา แต่พอมานึกดูอีกที เขาไม่อยากเสี่ยงให้ผัวเมียปากมากเงินถังคู่นั้นเข้ามายุ่ง เรื่องของเขากับแมกโนเลีย มอริส เป็นเรื่องยุ่งเหยิงส่วนตัวที่เขาต้องจัดการด้วยตัวเองเงียบๆ ล่อหล่อนมาเจรจาตัวต่อตัวในรังของเขาแบบนี้ง่ายกว่ามากนัก

ผู้หญิงโลกสวยแบบนั้นลงได้กลัวแล้ว อะไรก็คงยอมทั้งนั้น และคนอย่างเขาก็มีวิธีมากมายที่ทำให้ผู้หญิงสยบ ยิ่งคิดแม็กซ์ก็ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้นทุกที!

รถสมรรถนะสูงทะยานมาถึงประตูเหล็กสูงใหญ่ สลักตราพญาเหยี่ยวผงาดในธงชาติอเมริกัน ดวงตาของมันดุดันราวกับมีชีวิต ประตูใหญ่เปิดออกอัตโนมัติแล้วรถก็โฉบเข้าไปตามถนนส่วนบุคคลที่ทอดยาวคดเคี้ยว แมกโนเลียไม่อาจรีรออยู่นอกประตูอัตโนมัติที่เปิดกว้างได้นาน เพราะมันเริ่มปิดเองช้าๆ หลังจากรถแวนสีดำคันนั้นแล่นปราดเข้าไป หล่อนเพิ่งได้รู้วันนี้ว่าตนเองมีความกล้าบ้าบิ่น ที่เกิดจากความโกรธที่มีอำนาจเหนือกว่าเหตุผล!

เขาอาจจะฆ่าหล่อนหมกไว้ที่คฤหาสน์ห่างไกลผู้คนนี่ก็ได้ แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ หากหล่อนไม่ตามเข้าไปช่วย จะเกิดอะไรขึ้นกับเฮนรี่และแองเจลลิก้าผู้บอบบางก็ไม่รู้ได้

ในเวลาไม่นานรถญี่ปุ่นคันเล็กของแมกโนเลียก็เข้ามา แล่นช้าๆ อยู่ภายในรั้วคฤหาสน์แมคมาฮาน ประตูรั้วเหล็กสูงใหญ่ปิดไล่หลังมาติดๆ เสียงเหล็กกระทบกันดังก้องในความมืดสลัว หล่อนสะดุ้งโหยง ค่อยๆ ลดความเร็วรถลงด้วยความหวาดหวั่น แสงไฟยามค่ำคืนส่องอยู่ตามหัวเสาหินแกะสลักที่ซุกซ่อนอยู่ระหว่างแนวต้นดอกคามิลเลียหนาทึบ ใบสีเขียวแก่เป็นมันปลาบต้องแสงไฟ เมื่อพ้นจากแนวต้นไม้และเสาหินมาได้ หล่อนก็พบกับวงเวียนกว้างขวางที่มีน้ำพุหินตั้งตระหง่าน พ่นสายน้ำใสสะอาดขึ้นฟ้าและโปรยปรายลงมาเป็นระยะๆ ซ้ายขวาคือต้นไม้สูงใหญ่ขนาดเท่ากันราวกับแฝด เมื่อขับรถเข้าไปใกล้ๆ หล่อนจึงได้เห็นว่ามันเป็นต้นแมกโนเลียเก่าแก่ อายุพอๆ กันกับต้นที่อยู่หน้าร้านหนังสือของหล่อน เพียงแต่มันดูงามและเป็นรูปทรงมากกว่า คงเพราะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

บ้าน...หรือจะให้ถูก ต้องเรียกว่าคฤหาสน์ สร้างด้วยหินอ่อนและอิฐโบราณ เป็นคฤหาสน์สามชั้นสูงตระหง่านตกแต่งด้วยหน้าต่างบานสูงที่มีแสงไฟลอดออกมา เถาไอวีที่เลื้อยรอบตัวตึกให้ความรู้สึกเก่าแก่และมีเสน่ห์อย่างประหลาด คฤหาสน์นี้เดิมเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลที่ก่อตั้งเมืองนี้ แต่ต่อมาหล่อนได้ข่าวว่ามันถูกขายให้แมคมาฮานในราคาสูงลิ่ว ก่อนที่ทายาทตระกูลนั้นจะย้ายออกจากเมืองไป

แมกโนเลียกอดเจ้าแทรี่ไว้มั่น คริสตัลขยับตัวอย่างขี้เกียจที่เบาะหลังแต่ก็ยังสอดส่ายสายตาอยากรู้อยากเห็นออกมา ขณะนั้นม่านที่หน้าต่างชั้นสองของคฤหาสน์แหวกออกน้อยๆ แมกโนเลียรู้ด้วยสัญชาตญาณว่ากำลังถูกมองมา หล่อนแหงนหน้าขึ้นสบตาคมคู่นั้น หยั่งท่าทีก่อนจะเปิดประตูรถลงมายืน

โฮ่งๆ โฮ่งๆ แทรี่แหกปากเล็กๆ ของมันเห่า ตะเกียกตะกายจนหลุดจากอ้อมแขนของหล่อน 

“แทรี่!”

โฮ่งๆ เสียงเห่าขานรับดังมาจากในบ้าน วินาทีนั้นคริสตัลกระโจนตาม แทรี่ไปอย่างรวดเร็ว

“คริสตัล อย่าไป กลับมาเดี๋ยวนี้นะ” แมกโนเลียวิ่งตามทั้งร้องวอนขอมันแต่เจ้าแมวอ้วนเคยฟังหล่อนเสียที่ไหนกัน มันทะยานแผล็บหายเข้าไปในประตูบ้านที่เปิดแง้มไว้อย่างจงใจ

“คุณมอริส สวัสดีครับ” เสียงทุ้มดังมาจากข้างประตูทันทีที่หล่อนเดินเข้าไป แมกโนเลียสะดุ้งน้อยๆ

“คุณโจนส์”

“มีธุระกับเจ้านายหรือครับ”

“ความจริงฉันมาตามสัตว์เลี้ยงของฉันกลับ เฮนรี่ แองเจลลิก้า แทรี่ คริสตัล มานี่เร็วๆ” หล่อนร้องเรียกพวกมันอย่างไม่เกรงใจ

โฮ่งๆ โฮ่งๆ เสียงตอบรับดังมาจากห้องข้างๆ

“เคนเนธ โจนส์ เห็นบ้านฉันเป็นโรงพยาบาลสัตว์หรือยังไงหา ถึงปล่อยให้หมาแมวมาวุ่นวายแบบนี้ ไปจัดการให้พวกมันเงียบซะ” เสียงพูดกัมปนาทดังมาเหนือหัว แม็กซ์เดินลงมาจากชั้นสองในชุดออกกำลังกายตัวเดิม ผมเขาเสยหมาดๆ ใบหน้าสดชื่น ดวงตาวาววับ

“ครับนาย”

“เดี๋ยว หยุดนะ นั่นสัตว์เลี้ยงของฉัน ถ้าคุณรำคาญก็คืนพวกมันมาให้ฉัน แล้วฉันจะไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้”

“แน่ใจหรือว่าพวกมันเป็นหมาของคุณ คุณมีปัญญาซื้อหมาราคาแพงลิ่วพวกนั้นมาเลี้ยงรึ” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน แมกโนเลียอยากรู้นักว่าเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนถึงได้นิสัยเสียขนาดหนัก

“ถึงพวกมันจะไม่ใช่หมาของฉันจริงๆ แต่ก็อยู่ในความดูแลของฉัน เจ้าของของพวกมันมอบหมายให้ฉันดูแลค่ะ คุณคืนพวกมันมาแล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง”

“ขนาดนี้แล้วยังกล้าขู่อีกเหรอ ไม่เลวเลย”

แม็กซ์ย่างสามขุมเข้ามาหา เคนเนธแยกออกไปอย่างเสียไม่ได้เมื่อนายตวัดตามอง

“เอาอย่างนี้สิสาวน้อย เชิญคุณไปบอกบ้านแบรดลีย์ได้เลยว่าทำหมาหาย แต่ผมจะไม่คืนพวกมันให้ง่ายๆ แน่ ดีเหมือนกันพวกนั้นจะได้รู้ว่าคุณเป็นคนดูแลสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้เรื่อง ทำพวกมันหายแล้วยังมาโทษผมที่เก็บพวกมันได้และดูแลพวกมันเป็นอย่างดี”

“คุณ!”

“คุณคงไม่คิดว่าผมจะไม่รู้จักกับพวกแบรดลีย์หรอกนะ เมืองนี้มีมหาเศรษฐีกี่ครอบครัวกัน”

“ฉะ...ฉันไปทำอะไรให้คุณกัน หา!” แมกโนเลียกรีดเสียงใส่ ไม่ถอยอีกต่อไป เวลานี้หล่อนเห็นราชสีห์อย่างเขาตัวเท่าหนูแฮมสเตอร์ที่น่าขยี้เล่นไปเสียแล้ว!

“เปล่า มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวน่า ทุกอย่างเป็นธุรกิจ คุณต้องเข้าใจ” ชายหนุ่มมีสีหน้าระอา ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยต่อไปว่า “ทีนี้เรามาคุยกันดีๆ ดีกว่า ผมมีข้อเสนอให้คุณ เชิญทางนี้” เขาเดินนำไปยังห้องข้างๆ ที่ประตูเปิดกว้างรอรับ

แมกโนเลียเดินตามเข้าไปในห้องทำงานขนาดมหึมาที่มีชั้นหนังสือสูงเกือบจดเพดานถึงสามด้าน โต๊ะทำงานไม้เนื้อดีที่ริมหน้าต่างและโซฟารับแขกตัวใหญ่นั่งสบาย เขาผายมือให้หล่อนนั่งตรงนั้น แต่แมกโนเลียยังยืนตัวแข็งทื่อ เขาจึงหย่อนกายลงนั่งก่อน แล้วถือวิสาสะรวบข้อมือบางดึงให้หล่อนนั่งลงฝั่งตรงข้าม ดวงตาโตของหล่อนเขียวปั้ด เขาหยิบกระดาษชุดหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วเลื่อนมาข้างหน้าหล่อน

กระดาษใบเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือที่อยู่ด้านบน หล่อนดูออกทันทีว่ามันคือเช็คเงินสด

“ทำไมคุณถึงได้เข้าใจยากนักนะ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่...”

“ไม่ขาย...เข้าใจแล้ว แต่ผมไม่ได้จะซื้อ ถ้าคุณยืนยันจะไม่ขาย ผมขอเช่า”

“นี่คุณ!” เชื่อเขาเลย นี่จะเอาชนะหล่อนให้ได้ใช่ไหมนี่ แมกโนเลียก้มลงมองตัวเลขบนเช็คแล้วก็จนด้วยคำพูด จำนวนเงินมากมายในเช็คนี่นะหรือค่าเช่า

“นี่เป็นค่าเช่าล่วงหน้า สามสิบปี”

“บ้า... คุณบ้าไปแล้ว”

“ทำไม สาวเอเชียตัวคนเดียวอย่างคุณไม่นานก็คงแต่งงานกับอเมริกันชนชั้นกลางสักคน ซื้อบ้านใหม่กันสักหลัง รถสองคัน ลูกคนสองคน อาจจะเลี้ยงหมาเพิ่มอีกสักตัวหนึ่ง หรือไม่ก็แมว เงินที่ผมเสนอให้นี่มากพอที่คุณจะอยู่ได้สบายๆ พอครบสามสิบปีคุณก็เอาที่ดินที่หมดสัญญาเช่าไปเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ ข้อเสนอผมไม่ดีตรงไหน"

“ก็ตรงที่คุณบังอาจมาบงการกะเกณฑ์ชีวิตของคนอื่นนะสิ คุณกล้าดียังไง ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักฉันดีด้วยซ้ำ”

“ผมน่ะหรือไม่รู้จักคุณ” คิ้วเข้มเลิกสูง ท่าทีเหนื่อยหน่ายระอาใจ “ผมรู้จักคุณดีต่างหากละถึงได้ตัดสินใจทำแบบนี้ รับเงินนี่ไปเถอะน่า โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วแมกโนเลีย” ดวงตาสีเข้มจับจ้องยามเขาเอ่ยชื่อหล่อน ริมฝีปากหนาได้รูปยกยิ้ม

“คุณอย่ามาสั่งสอนฉันนะ”

“ตกลงจะไม่เอาใช่ไหม ได้ อย่างนั้นคุณก็เตรียมเงินหมื่นเหรียญไปใช้หนี้ให้พวกแบรดลีย์ได้เลย เพราะว่าพวกเขาจะไม่ได้พวกมันคืนแน่”

“จะทำอะไร” หล่อนคราง

“กรอกปากด้วยกระสุน แล้วก็ฝังซะ หรือไม่ก็จับถ่วงน้ำหลังบ้าน อ้อแล้วอย่าคิดนะว่าตาแก่บราวน์จะช่วยคุณได้ อาณาจักรผมหากผมไม่อนุญาตหรือล่อเข้ามา ใครก็เข้ามาไม่ได้”

“คนเลว”

สองมือของเขาแบออกเป็นเชิงยอมรับ แล้วก็หมดความสนใจที่จะสนทนาต่อ เขากางแขนออกกว้าง เอนหลังพิงโซฟาท่าทางผ่อนคลาย ดวงตาคมหรี่มองมานิ่งๆ

แง่ว!

เสียงเจ้าคริสตัลดังมาจากที่ไหนไม่รู้ แต่กรงเล็บของมันข่วนลงบนต้นคอสีซันแทนของแมคมาฮานก่อนที่มันจะกระโจนหนีไปอีกฟากหนึ่งของห้อง แมกโนเลียอ้าปากค้าง แวบหนึ่งรู้สึกสาแก่ใจ แต่พอได้ยินเสียงกร้าวดังมาจากเขา หล่อนก็กลัวแทบขาดใจ

“ไอ้แมวบ้า แกตายแน่!”

“คริสตัล นี่หยุดนะ”

 

 

** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com